คอลัมน์ : บทบรรณาธิการ
ไม่มีครั้งไหนที่ระบอบประชาธิปไตยบ้านเราจะถูกคุกคาม เท่าครั้งนี้อีกแล้ว ผู้คนที่ฝักใฝ่เผด็จการอาจไม่มีความรับรู้ด้วยระบบประสาทใด เพราะชีวิตและจิตวิญญาณพวกเขาถูกแช่แข็งอยู่ในน้ำครำเจือยาพิษของเผด็จการเสียแล้ว ประสาทความรับรู้เรื่องราวใดๆ ในฝั่งฝาประชาธิปไตยจึงชาชินไปหมด พวกเขายินดีที่จะรับใช้เผด็จการ และยินดีที่จะให้ลูกหลานเติบโตขึ้นมาภายใต้อำนาจไม่เต็มใบ
แต่สำหรับคนที่รักอิสรเสรีภาพ ย่อมต้องการปลดเปลื้องพันธนาการทุกชิ้นอันที่จะมาครอบคลุมมัดกุมสิทธิและหน้าที่ทุกขณะจิต ประชาธิปไตยจึงมีอยู่ในจิตใจของคนที่รักอิสรเสรีภาพเท่านั้น
ไม่มีอำนาจจากมือใครมาบดบัง ปิดกั้นคนที่รักประชาธิปไตยได้ ต่อให้เป็นกระบอกปืนอันมีอำนาจทะลุทะลวงสูงขนาดไหน หรือรถถังคันมหึมา หัวใจคนที่รักประชาธิปไตยพิสูจน์แล้วว่าใหญ่ทรงอานุภาพกว่ามากนัก จำนามนี้ได้ไหม นวมทอง ไพรวัลย์
วันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2549 วีรบุรุษประชาธิปไตยตัวจริงท่านนี้ ได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งในหัวใจคนรักประชาธิปไตย ด้วยการขับรถแท็กซี่คู่ชีพที่หาเลี้ยงครอบครัวทุกเช้าค่ำ พุ่งเข้าชนรถถังของคณะรัฐประหาร คมช.
จริงอยู่เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว รถแท็กซี่ลุงนวมทองไม่มีอะไรสู้รถถังอาวุธสงครามที่บอกประชาชนว่าซื้อมาเพื่อปกป้องดินแดนอธิปไตยของไทยได้ (แต่รู้สึกว่าจะจอดผิดที่อยู่เรื่อย) ซ้ำลุงนวมทองยังซื่อสัตย์เกินกว่าที่จะซุกระเบิดคาร์บอมบ์เพื่อเสริมความห่างปอนด์ต่อปอนด์ให้แท็กซี่คู่ชีพ เพราะลุงไม่ต้องการทำร้ายใคร พุ่งเข้าชนเพียงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้เผด็จการรัฐประหารรับรู้ว่า ประชาชนตาดำๆอย่างลุงเกลียดการลุแก่อำนาจ ชิงชังการรัฐประหาร
ลุงนวมทองช้ำใจที่ถูกฝ่ายเผด็จการถากถางว่า “ไม่มีใครมีอุดมการณ์มาก ขนาดยอมพลีชีพได้”
แน่นอนเผด็จการไม่มีวันรับรู้รสชาติแห่งเสรีภาพประชาธิปไตย เฉกเช่น ทัพพีไม่มีวันรู้รสชาติแห่งต้มแกงที่คนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
วันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2549 ลุงนวมทองตัดสินใจแขวนคอตาย ที่สะพานลอยริมถนนวิภาวดี เพื่อประกาศให้เผด็จการรับทราบว่า มีคนที่รักประชาธิปไตย ขนาดยอมพลีชีพได้
คนขับแท็กซี่หาเช้ากินค่ำ คนหนึ่งอุทิศลมหายใจให้ประชาธิปไตย ลุงนวม ไม่ใช่คนที่ใช้พื้นที่ประชาธิปไตยเพื่อเข้าสู่อำนาจ ไม่ใช่คนมีปริญญาบัตร ไม่ใช่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ที่คนใฝ่เผด็จการคิดว่าควรมีสิทธิ์ในการหย่อนบัตรเลือกตั้งมากกว่าคนรากหญ้า แต่มีใครกล้าสละชีวิตเพื่อรักษาประชาธิปไตยเยี่ยงเขาหรือไม่
วันนี้ประชาชนที่รักประชาธิปไตยต่างกระซิบถามกันด้วยความหวาดระแวงปนความเบื่อหน่าย ว่าจะมีการปฏิวัติหรือไม่ เพราะฝ่ายพันธมิตรเรียกร้องโจ่งแจ้งให้ทหารออกมาปฏิวัติอย่างน่าด้านที่สุด
พี่น้องประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทุกท่านครับ ถึงเวลาหรือยังที่เราจะร่วมใจกัน ตั้งวันต้านรัฐประหารแห่งชาติ เพื่อขจัดความหวาดระแวง และเตือนให้เผด็จการรู้ว่า ไม่มีวันที่คุณจะมายึดอำนาจของประชาชนไปง่ายๆ เหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว พอกันที ไม่ต้องมาอ้อนแกมขู่ โปรด...ฟังอีกครั้ง กูไม่ฟังมึงอีกแล้ว
เพื่อระลึกถึงวีรกรรมหาญกล้าของ นวมทอง ไพรวัลย์ เราผู้รักประชาธิปไตย จะ ยึดถือเอาวันที่ 31 ตุลา นี่แหละ เป็น “วันต้านรัฐประหารแห่งชาติ” แสดงเจตจำนงว่า นับจากนี้ไป สองมือ เราจะสู้กับรถถังอันมาจากภาษีของเรา แต่ดันจะมายึดอำนาจประชาชน