WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, October 26, 2008

หยุดเงื่อนไขเลือด หรือ ปล่อยตามยถากรรม

ถึงเวลา "คนไม่เลือกข้าง" เลือกทิศทางประเทศไทย

ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในบ้านเมือง ผู้คนใน สังคมแบ่งฝักแบ่งฝ่าย

เสื้อเหลือง-เสื้อแดง แยกขั้ว แยกข้าง

ฝ่ายหนึ่งชูธงต่อต้านระบอบทักษิณ ต่อต้านรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่ย้ายฐานมาจากพรรคไทยรักไทย

อีกฝ่ายหนึ่งจงรักภักดีเชิดชู “ทักษิณ” สนับสนุนรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคพลังประชาชน

ในสถานการณ์ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศยึดทำเนียบฯชุมนุมยืดเยื้อต่อต้านขับไล่รัฐบาล

วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ บรรดาเครือข่ายกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ก็นัดรวมพลครั้งใหญ่

ภายใต้รูปแบบกิจกรรม เวทีสัญจรรายการความจริงวันนี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยใช้ชื่องาน “ความจริงวันนี้ ต้านรัฐประหาร”

ทั้งนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน หนึ่งในคณะผู้จัดงาน ได้ออกมาระบุชัดเจนว่า

เนื้อหาในรายการจะกำหนดให้สอดคล้องหัวข้อ คือการต่อต้านรัฐประหาร

โดยจะพูดตั้งแต่ผลกระทบจากการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 จนถึงการรัฐประหารที่อาจจะเกิดขึ้นใหม่

บุคคลที่จะพูดประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย

ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะ ปราศรัยสดผ่านโทรศัพท์ทางไกลข้ามทวีปจากประเทศอังกฤษ มายังเวทีสนามราชมังคลาฯด้วย

โดยเชื่อว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมงานเต็มสนามราชมังคลาฯ ที่จุคนได้ 70,000 คน

สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านสำนัก ข่าวรอยเตอร์ ที่ระบุว่า

เขาจะโทรศัพท์ทางไกลจากลอนดอน เข้ามายังรายการความจริงวันนี้ พูดกับประชาชนประมาณ 20 นาที

งานนี้ ถือเป็นการพูดเปิดใจของ พ.ต.ท.ทักษิณกับประชาชน ที่ให้การสนับสนุนเขาโดยตรง เป็นครั้งแรก หลังจากโดนศาล ฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษา ตัดสินจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีที่ดินรัชดาฯ

โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ได้เผาหัวนำร่องกระตุ้นความรู้สึกของประชาชนที่ให้การสนับสนุนเขา ผ่านแถลงการณ์ที่ส่งไปยังสื่อมวลชนในต่างประเทศ ชี้แจงถึงกรณีถูกศาลไทยตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินย่านรัชดาฯ โดยระบุว่า

หลังรับทราบคำตัดสินรู้สึกสับสนอยู่ เพราะไม่พบหลักฐานทุจริตคอรัปชัน หรือการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ การที่ถูก ตัดสินอย่างง่ายดาย เพราะเป็นนักการเมือง

ถ้าจะผิดอะไรก็เป็นเรื่องที่แสดงให้คนไทย โดยเฉพาะประชาชน ในพื้นที่ชนบทผู้ด้อยโอกาสได้เห็นว่า พวกเขาสามารถและมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้รัฐบาลจัดทำนโยบายและโครงการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาให้ดีขึ้น

ผมถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามของกลุ่มคนชั้นนำ ผู้มีอภิสิทธิ์ที่เชื่อในทุกสิ่ง ยกเว้นประชาธิปไตย เพราะผมนำเสนอหลักการประชาธิปไตยเสรีที่ส่งเสริมความหวังและความภาคภูมิของคนยาก คนจนของประเทศ

ปลุกเร้าเครือข่าย ไม่ยอมรับคำตัดสิน

ทั้งนี้ การจัดรวมพลคนเสื้อแดงในวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่จะมีการระดมคนรักทักษิณจากทั่วสารทิศ มารวมตัวกันที่สนามราชมังคลาฯ

เปรียบไปแล้วก็เหมือนการขนระเบิดเวลาจำนวนมหาศาลมากองรวมกัน

จะมีการกดรีโมตให้ระเบิดทำงานหรือไม่ ยังไม่มีใครรู้

แต่ถ้ามีการกดรีโมตให้ระเบิดพวกนี้ทำงานอานุภาพรุนแรง แน่นอน ชนิดที่ว่าประเมินความสูญเสียไม่ได้

และจะเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง ที่คนไทยไม่เคยเห็นมาก่อน

ขณะที่ระเบิดอีกลูกหนึ่ง ก็คือ ความเคลื่อนไหวของ พล.ต.อ.สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ที่ออกมาขู่จะนำกำลังตำรวจนอกราชการปิดล้อมทำเนียบฯ เตรียมยึดพื้นที่คืนจากกลุ่มพันธมิตรฯ

ระเบิดลูกนี้จะด้าน หรือตูมตามขึ้นมาจริงๆ ยังไม่มีใครบอกได้

แต่ภายใต้สถานการณ์ที่สอดรับกัน กับการที่กลุ่ม นปช.นัดรวมพล ครั้งใหญ่ในวันที่ 1 พฤศจิกายน

ส่อเค้าอาจเกิดเหตุรุนแรง ถึงขั้นกลายเป็นจลาจลนองเลือด หรือสงครามกลางเมืองหรือไม่

เป็นเรื่องที่น่าหวาดเสียวอย่างยิ่ง

ในสถานการณ์ที่ล่อแหลมอย่างนี้ เมื่อหันไปทางนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล มีหน้าที่ในการ ดูแลรักษาความสงบของบ้านเมือง

ความหวังที่จะเห็นการทำหน้าที่ในการคุมเกม หยุดยั้งความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ คงยาก

เพราะนายสมชาย เพิ่งหลุดปากออกมาเอง หลังจากเกิดเหตุการณ์ ม็อบพนักงานบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) รุมล้อมโห่ไล่ โดยระบุว่า

ตัวเองไม่ได้มีอำนาจ ไม่ได้มีบารมี และไม่มีมาตั้งแต่ต้นแล้ว วันนี้มาเพราะเป็นนายกฯ และเป็นนายกฯที่ไม่ได้มีอะไรเลย นอกจากนายกฯที่โดนโห่ไล่

เหมือนจะยอมรับตรงๆว่าเป็นแค่หุ่น ไม่มีบารมี ไม่มีอำนาจ ตัดสินใจใดๆด้วยตัวเอง

ในขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งจำคุก 2 ปี แต่หลบลี้ไปอยู่ต่างประเทศ

ถูกมองว่า เป็นผู้มีอำนาจตัวจริง

คอยกำหนดเกมอยู่เบื้องหลังรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ก็ประกาศเปิดหน้าเปิดตัวออกมาเล่นหน้าฉาก เตรียมส่งเสียงข้ามทวีป มาปลุกเร้ากลุ่มคนที่สนับสนุนตัวเอง

ก็เป็นธรรมดา ที่นายสมชายคงทำอะไรได้ไม่มากไปกว่านิ่งเฉย รอฟังการปราศรัยของพี่เมียตัวเอง

และรอดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนที่สนับสนุน “ทักษิณ”

ภายใต้การขับเคลื่อนของนักการเมืองในพรรคพลังประชาชน

ปล่อยให้เป็นไปตามหมากของคนที่มีอำนาจกำหนดเกมตัวจริง

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณต้องระหกระเหินไปอยู่ต่างประเทศ แต่ทุกวันนี้ก็ยังมีมวลชนให้การสนับสนุนอย่างเหนียวแน่น

และก็ได้พิสูจน์เชิงประจักษ์ให้เห็นมาแล้ว ตั้งแต่มีการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2549 จนกระทั่งมีการเลือกตั้งใหม่ ฐานประชาชนส่วนหนึ่งก็ยังหนุนส่งให้พรรคพลังประชาชนที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ คุมเกมอยู่เบื้องหลังได้กลับมาเป็นรัฐบาล

ในขณะที่ฝ่ายที่ต่อต้านระบอบทักษิณ ก็มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

ย้อนไปตั้งแต่ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ เข้ามาใช้อำนาจรัฐบริหารประเทศ เกิดปัญหาการทุจริตคอรัปชันแบบมโหฬาร โดยเฉพาะการคอรัปชันเชิงนโยบาย

กลุ่มพันธมิตรฯออกมาชุมนุมต่อต้านขับไล่ จนเกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน ส่งผลให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหนีไปอยู่ประเทศอังกฤษ และถูก คตส.ไต่สวนดำเนินคดีทุจริตหลายคดี

แต่เมื่อมีการเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนที่แปลงร่างมาจากพรรค ไทยรักไทย ก็ยังได้รับการเลือกตั้งให้กลับเข้ามาเป็นรัฐบาลโดยมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ

และเมื่อรัฐบาลขยับจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อกคดีความต่างๆให้ “นายใหญ่” กลุ่มพันธมิตรฯก็ออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวอีกครั้ง ถึงขั้นบุกยึดทำเนียบฯเป็นสถานที่ชุมนุมยืดเยื้อ

จนกระทั่งนายสมัคร โดนศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ต้องหลุดจากตำแหน่งนายกฯ และนายสมชายได้เข้ามาเป็นนายกฯเสียบแทน กลุ่มพันธมิตรฯก็ยังชุมนุมต่อต้านอย่างต่อเนื่อง

แน่นอน สำหรับกลุ่มพันธมิตรฯที่ออกมาชุมนุมต่อต้าน ระบอบทักษิณ ด้วยการเข้ายึดทำเนียบฯ ซึ่งเป็นที่ทำงานของรัฐบาล เป็นศูนย์กลางการบริหารราชการของประเทศ

เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

แม้จะอ้างอารยะขัดขืน โดยมีประชาชนจำนวนมากสนับสนุน แต่การใช้วิธีอย่างนี้ยืดเยื้อยาวนานเกินไป ก็ถูกมองว่าเป็นการ กระทำเกินกว่าเหตุ

กลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับประเทศ

และมาถึงวันนี้ ฝ่ายที่สนับสนุน “ทักษิณ” มีการเคลื่อนไหวระดมคนจำนวนหลายหมื่นคน เข้ามาในกรุงเทพฯ

สถานการณ์ส่อเค้ากำลังเดินไปสู่จุดเดือด สุ่มเสี่ยงสูงที่จะเกิดเหตุปะทะรุนแรง

ขณะที่กองทัพก็ได้ประกาศจุดยืนชัดเจน จะทำหน้าที่เพื่อปกป้องอธิปไตย และรักษาไว้ซึ่งการปกครองในระบอบประชา-ธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ได้ประกาศผ่านรายการโทรทัศน์ร่วมกับ ผบ.เหล่าทัพ เรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบในการสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา ถึงขั้นเปรียบเปรย ถ้าตัวเองเป็นนายกฯ ก็ลาออกไปแล้ว

การแสดงออกเช่นนี้ โดยปกติทั่วไปถ้าเป็นรัฐบาลที่มีอำนาจ อย่างแท้จริง ผบ.เหล่าทัพต้องถูกปลดถูกย้ายไปแล้ว แต่บังเอิญมาเจอกับรัฐบาลที่นายกฯบอกเองว่า ไม่มีอำนาจบารมี

ผบ.เหล่าทัพจึงอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม แม้กองทัพจะมีแสนยานุภาพ มีกำลังอาวุธ แต่ก็เข็ดขยาดกับการทำรัฐประหาร รู้ดีว่าปฏิวัติได้ แต่การรักษา อำนาจเป็นเรื่องยาก

เพราะมีคนจำนวนมากพร้อมที่จะออกมาต่อต้าน

สรุปก็คือ ทหารมองว่าการปฏิวัติ ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาให้ จบสิ้นไปได้

เหนืออื่นใด ในสถานการณ์ที่มีการปลุกระดมมวลชนให้เคลื่อน ตัวมาเผชิญหน้ากัน สุ่มเสี่ยงเป็นชนวนให้เกิดสงครามประชาชน

“ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ” เคยชี้ทางออกเฉพาะหน้าที่จะหยุดยั้งสงครามประชาชนครั้งนี้ ด้วยการยุบสภา

แต่คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจ คือ นายกฯสมชาย ได้ ปิดประตูตาย ประกาศท่าทีชัดเจน ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก

ดังนั้น เมื่อสถานการณ์เดินมาถึงจุดนี้

ก็อยู่ที่คนไทยที่ไม่เลือกข้าง ที่มองเห็นเภทภัยอยู่ข้างหน้า ว่าบ้านเมืองกำลังจะลุกเป็นไฟ จะเอายังไง.

"ทีมการเมือง"