'ประชา'ออกโรงหย่าศึก!ชิงเก้าอี้มท.3 ประกาศชัด!เดินหน้าทำตามมติพรรคหนุน'ประสงค์'นั่งต่อ คุยโวสมาชิกยังเข้าใจกันดี ยันรมต.วิ่งซื้อตำแหน่งแค่ข่าวลือ
จากที่มีกระแสข่าวการล็อบบี้ตำแหน่งเก้าอี้รัฐมนตรีในพรรคเพื่อแผ่นดิน ซึ่งเป็นโควต้าของนายทุนพรรคฯ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อแผ่นดิน เปิดเผย “สำนักข่าวประชาทรรศน์” ว่า ไม่มีการล็อบบี้เก้าอี้ไว้ให้นายทุนตามกระแสข่าวแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นมติของพรรคที่เคยตกลงกันไว้ว่าจะให้นายประสงค์ โฆษิตานนท์ ดำรงแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และเมื่อใดที่นายประสงค์พ้นจากตำแหน่งไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม จะเป็นเพราะสุขภาพหรือเรื่องส่วนตัวอื่นบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งคนต่อไปคือนายไชยยศ จิรเมธากร โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน
ส่วนกรณีกระแสข่าวการประมูลซื้อเก้าอี้รัฐมนตรีภายในพรรคนั้น พล.ต.อ.ประชา ระบุว่า ไม่เป็นความจริง ไปเอาเรื่องนี้กันมาจากไหน หากมีการประมูลซื้อกันได้จริงก็คงวิ่งซื้อตำแหน่งนั้นนี้กันวุ่นวาย ข่าวก็คือข่าว สร้างกระแสไม่เป็นความจริง
ต่อข้อถามว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความขัดแย้งภายในพรรคหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา ยืนยันว่า ขณะนี้ภายในพรรคปกติดีทุกอย่าง ไม่มีความขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้น ผู้ใหญ่ในพรรคก็เข้าใจกันดีทุกคน รวมทั้งยังยึดมั่นในมติของพรรคเช่นเคย
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ประชา ยังกล่าวถึงข้อสรุปของพรรคว่ามีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีหรือไม่ โดยขณะนี้ไม่มี มติพรรคยังเป็นเช่นเดิม คือให้การสนับสนุนนายประสงค์ เป็น รมช.มหาดไทยเรื่องนี้ตนพูดได้เท่านี้ ส่วนเรื่องอื่นนั้นไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด
ต่อเรื่องดังกล่าว ได้มีรายงานถึงสาเหตุที่นายไชยยศ จิระเมธากร โฆษกพรรคเพื่อแผ่นดิน ออกมาเปิดแถลงข่าวเรื่องการลาออกจากตำแหน่งของนายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.มหาดไทย เนื่องจากทั้งคู่เคยมีสัญญาใจกันในช่วงการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล "สมชาย 1" โดยแกนนำกลุ่มวังพญานาค คือ นายพินิจ จารุสมบัติ และนายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ ได้ขอร้องให้นายไชยยศเสียสละไม่รับตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เพื่อเปิดทางให้นายประสงค์ ซึ่งเป็นนายทุนคนสำคัญของกลุ่มดำรงตำแหน่งต่ออีกระยะหนึ่ง จากนั้นค่อยแถลงลาออกเพื่อลงจากตำแหน่งอย่างสง่างาม
ทั้งนี้ มีการทำข้อตกลงลับว่า นายประสงค์ต้องคืนเก้าอี้ให้พรรคภายใน 3 สัปดาห์ หรือวันที่ 15 ต.ค. 2551 นอกจากนี้ยังมีการเขียนใบลาออกไว้ล่วงหน้า ลงวันที่ 28 ต.ค. 2551 เพื่อให้รัดกุม เพราะเกรงว่านายประสงค์จะไม่ยอมลาออก โดยมีสักขีพยานหลายคน อาทิ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคฯ , นายสุวิทย์คุณกิตติ หัวหน้าพรรค , ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงกำหนด ปรากฏว่านายประสงค์ยังไม่แสดงท่าทีใดๆ นายไชยยศจึงทวงถามในที่ประชุมพรรคเมื่อสัปดาห์ก่อน และยังถือจดหมายลาออกไปกดดันนายประสงค์ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนายประสงค์ไม่ว่าอะไร และบอกว่าดำเนินการตามนั้นได้เลย จึงมีการแจ้งนายสุวิทย์ให้ดำเนินการต่อ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเรื่องการเสนอรายชื่อกับแกนนำพรรคพลังประชาชน (พปช.)
ขณะเดียวกัน สำหรับเหตุที่โฆษกพรรคฯออกมาแถลงข่าว ก็เพื่อป้องกันการเปลี่ยนชื่อกลางอากาศ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในกรณีนายสุวิทย์ แต่ปรากฏว่านายประสงค์กลับเล่นแง่และเปลี่ยนใจ ทั้งนี้ไม่ว่านายประสงค์จะพูดอย่างไร แต่ในทางกฎหมายต้องถือว่าใบลาออกของนายประสงค์มีผลแล้ว ซึ่งนายสุวิทย์ได้ยืนยันจะเสนอชื่อนายไชยยศเป็น รมช.มหาดไทยคนใหม่ต่อไป