WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, October 27, 2008

แตกกันเอง

คอการเมืองไม่ต้องแปลกใจที่วุฒิสภาจะเกิดปัญหาขัดแย้งถึงขั้นแตกกันยับเยิน

มีการรวมตัวส.ว. 2 กลุ่มแยกเป็น 2 ขั้ว ไม่มีใครยอมใคร

แม้แต่ประธานวุฒิสภากับรองประธานวุฒิสภาก็ยังแยกกันยืนคนละมุม

ถึงขนาดรองประธานวุฒิสภาลุกขึ้นอภิปรายซักฟอกประธานวุฒิสภา กลางที่ประชุม ดุเดือดเลือดพล่านยิ่งกว่าสภาผู้แทนราษฎร

ความจริงความขัดแย้งในวุฒิสมาชิกเกิดขึ้นนานเต็มที บังเอิญเชื้อไวรัสมันฝัง ลึกจึงตรวจไม่พบอาการ

แต่เหตุที่ฝีหัวช้างดันเกิดแตกในช่วงนี้ เพราะความขัดแย้งสุกงอม โดยมีประเด็นที่รัฐบาลต้องการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อจัดตั้ง ส.ส.ร.3 เป็นตัวจุดชนวน

กลุ่ม 40 ส.ว. ที่มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ประกาศต่อต้านสุดลิ่มทิ่มประตู

แต่ ส.ว.กลุ่มที่มีสายสัมพันธ์กับรัฐบาล ก็ประกาศจะโหวตสนับสนุนให้เกิด ส.ส.ร.3 เพื่อคลี่คลายวิกฤติการเมือง

เมื่อจุดยืน 2 ฝ่ายตรงข้ามกันวุฒิสภาจึงแตกออกเป็น 2 ขั้วชัดเจน

แต่จุดแตกหักอย่างแรง ก็เพราะประธานวุฒิสภากับรองประธานวุฒิสภาเกิดเหยียบตาปลากันเอง

เนื่องจากประธานวุฒิสภา “ประสพสุข บุญเดช” ประกาศถอนตัวไม่ร่วมประชุม 4 ฝ่าย เพื่อทำคลอด ส.ส.ร.3

เป็นการถอนตัวตามผู้นำฝ่ายค้าน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ประกาศบอยคอตไม่ร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาบทบาทเป็น กลางทางการเมือง จึงได้มอบหมายให้รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 “นิคม ไวยรัชพานิช” ไปร่วมประชุมแทน

แต่เมื่อถูก ส.ว.บางกลุ่มกดดันให้ประธาน วุฒิสภาแสดงจุดยืนให้ชัดเจนว่าไม่สนับสนุนการจัดตั้ง ส.ส.ร.3 ของรัฐบาล

ท่านประธานวุฒิฯก็จึงออกมายืนยันว่าจะไม่ร่วมการประชุม 4 ฝ่าย เพราะไม่เชื่อว่า ส.ส.ร.3 จะเป็นทางออกที่ดี

และก็ไม่ได้มอบหมายให้รองประ-ธานวุฒิสภาไปเข้าประชุมแทนตัวเอง

ฉะนั้น การที่รองประธานวุฒิฯโผล่ไปร่วมประชุม 4 ฝ่าย จึงเป็นเรื่องส่วนตัว

พูดง่ายๆคือ ไม่ได้ขอร้องให้ไป แต่สมัครใจไปเอง

ผลก็คือ รองประธานฯ “นิคม” โดน ส.ว. โจมตีว่าใช้ชื่อวุฒิสภาไปประชุม 4 ฝ่าย เพื่อสนับสนุนรัฐบาล

ถึงขนาดจะยื่นญัตติซักฟอกรองประธานวุฒิสภา ที่ทำให้วุฒิสภาเกิดความเสียหายในภาพรวม

ทำให้ “รองประธานฯนิคม” ขอใช้ สิทธิ์พาดพิง เปิดอภิปรายถล่ม “ประธานฯ ประสพสุข” ซะจั๋งหนับบุเรงนอง

พร้อมประกาศท้าให้ประธานวุฒิสภา ออกมาพูดความจริง เพื่อพิสูจน์บทบาทความเป็นผู้นำว่าควรต้องทำอย่างไร??

สรุปว่า เมื่อประธานกับรองประธาน ขัดแย้งกันเอง ย่อมกระทบต่อการทำงานของวุฒิสภาอย่างแน่นอน

“แม่ลูกจันทร์” รู้จักนับถือ “ประธานวุฒิสภา ประสพสุข” เป็นส่วนตัว ขอยืนยันว่าท่านผู้นี้เป็นคนดี 100 เปอร์เซ็นต์

แต่คนดีเมื่อมาเจอแรงกดดันการเมือง โดยเฉพาะการเมืองยุคต้องเลือกข้าง ก็ยากที่จะยืนตรงกลางได้ตลอดเวลา

ก็หวังว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างประธานวุฒิสภากับรองประธานวุฒิสภา จะยุติลงได้ด้วยดี (ถ้ามีการทำความเข้าใจให้ตรงกัน)

อย่างไรก็ตาม ความแตกแยกในวุฒิสภาครั้งนี้กลายเป็นผลดีกับรัฐบาลโดยตรง

เพราะการที่รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อเปิดช่องให้มี ส.ส.ร.3 อาศัยเสียง ส.ส.รัฐบาลอย่างเดียวไม่พอ

แต่ถ้าได้เสียงจาก ส.ว.มาเพิ่มอีก 20 เสียง ก็จะเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิก 2 สภารวมกัน การตั้ง ส.ส.ร.3 ก็เดินหน้าได้สะดวกโยธิน

ทีนี้ฝ่ายที่ต่อต้านไม่ให้มี ส.ส.ร.3 จะเดินหมากอย่างไรต่อไป??

เกมนี้สำคัญมาก...เสือสิงห์กระทิงแรดต้องจับตาให้ดี.

แม่ลูกจันทร์