ย้อนให้‘พันธมาร’มองดูการกระทำยึดทำเนียบที่เหนือกฏหมาย ชี้อย่ากล่าวหาโบ้ยมือบึ้มเป็นคนระบอบ‘ทักษิณ’ ด้าน‘พงษ์เทพ’เผยไม่เคยต่อสายคุยส่วนตัวกับอดีตนายกฯ เชื่อรัฐบาลไม่ป้องคนผิดเหตุระเบิดป่วนพัธมิตร
นายวีระ มุกสิกพงษ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงความพร้อมในการจัดงาน ความจริงวันนี้ สัญจรในวันพรุ่งนี้(1 พ.ย.)ว่า ขณะนี้พร้อมแล้ว 90 เปอร์เซนต์ ทั้งสถานที่และเจ้าหน้าที่ ส่วนในเรื่องของมาตราการรักษาความปลอดภัยนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 1,000 นาย ให้การรักษาความเรียบร้อยทุกประตูทางเข้าออก ซึ่งจะมีการตรวจอาวุธและวัตถุระเบิดต่างๆโดยเครื่องมือของตำรวจ เพราะฉะนั้นยืนยันว่ามีความปลอดภัย 100 เปอร์เซนต์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของ นปช.เองจะคอยตวรจสอบปัญหาและให้บริการอีกกว่า 500 คน
ส่วนกรณี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะต่อสายโทรศัพท์ผ่านทางรายการ โดยจะเป็นการพูดให้คนไทยเข้าใจผิดหรือเกิดความแตกแยกนั้น นายวีระ กล่าวว่า เชื่อว่าสิ่งที่ พ.ต.ท. ทักษิณ จะพูดนั้นจะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ เพราะเป็นคนที่มีดุลยพินิจในการพูดที่เพียงพอว่าอะไรควรพูดอะไรไม่ควรพูด ทั้งนี้เชื่อว่าภายหลังการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองดีขึ้น
“คนที่เป็นห่วงเป็นใยก็ต้องขอขอบคุณ ส่วนใครที่ห้ามปรามนั้น ขอถามว่าท่านรู้จักสิทธิเสรีภาพของคนอื่นหรือไม่ ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยฉะนั้นคนไทยย่อมมีสิทธิที่จะพูดจา และมีสิทธิที่จะสื่อสารถึงกันด้วย แต่จะดีหรือไม่ดีควรประเมินหลังจากนั้น ไม่ควรประเมินล่วงหน้า ไม่ถูกต้อง”นายวีระ กล่าว
สำหรับการชุมนุมในวันพรุงนี้นั้น นายวีระกล่าวยืนยันว่า จะไม่มีเหตุการชุลมุนอย่างแน่นอน เนื่องจากฝ่ายตรงข้ามอยู่กันคนละพื้นที่ รวมทั้งวัตถุประสงค์คนละอย่าง การชุมนุมในวันพรุ่งนี้เป็นการชุมนุมที่ถูกกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ และได้รับการคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญทุกอย่าง ที่สำคัญคือมีวัตถุประสงค์เพื่อการสันติ และเรียกร้องประชาธิปไตย หากผู้นำเหล่าทัพจะมาร่วมฟังหรือจะส่งลูกน้องมานั่งฟังก็สามารถทำได้เราไม่ปิดกั้น บางทีหูตาอาจทำให้หูตาสว่างขึ้นก็ได้
นอกจากนี้ นายวีระยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวหาว่ากลุ่มคนร้ายที่ปาวัตถุระเบิดใส่บ้าน นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นการกระทำของกลุ่มคนในระบอบทักษิณ ว่า สำหรับเรื่องนี้ต้องถามว่าประชาชนในขณะนี้ยังเชื่อพันธมิตรอยู่หรือไม่ เนื่องจากมีการกล่าวหาคนในบ้างเมืองว่าเป็นผู้สร้างเหตุการณ์นี้ขึ้น ทั้งที่ไม่ได้มีการสอบสวนหรือสืบสวนแต่อย่างใด แต่กลุ่มตนเองที่ยึดทำเนียบรัฐบาล ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองอยู่ขณะนี้กลับเป็นเรื่องที่มองไม่เห็น ดังนั้นคำกล่าวหา หรือข้อกล่าวหาที่พยายามตั้งให้บุคคลอื่นนั้น ไม่น่ารับฟัง จนกว่าจะสลายตัวกลับบ้านหรือไปชุมนุมในที่ชอบด้วยกฎหมายจึงน่าฟัง
'จตุพร'เชื่อจัด'ความจริงวันนี้'ราบรื่น
วันนี้ (31 ต.ค.) นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนพรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวถึงรูปแบบการจัดรายการความจริงวันนี้ว่าจะเป็นการพูดการร้องและเชื่อว่าการจัดรายการในวันพรุ่งนี้ (1 พ.ย.) จะเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งผู้ชมจะได้ทั้งเนื้อหาสาระและข้อมูลทางการเมืองและจะมีการปราศรัยเกี่ยวกับการเมืองในระบอบประชาธิปไตยและคัดค้านการรัฐประหารซึ่งเมื่อมีกระแสขึ้นมาก็ต้องพูดกันในเรื่องนี้เพื่อจะพาบ้านเมืองไปสู่ประชาธิปไตยเพื่อเป็นทางออก
อย่างไรก็ตาม รายการความจริงวันนี้จะไม่มีการถ่ายสดแน่นอน หากผู้ที่อยากจะมาร่วมงานต้องการทราบข้อเท็จจริงทางการเมืองก็ให้มาร่วมงานในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ส่วนช่วงเวลาที่จะต่อสายถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายจตุพร กล่าวว่า จะเป็นช่วงเวลาช่วงหัวค่ำที่มีนายวีระ ขึ้นเวทีปราศรัยแต่รูปแบบการสนทนายังไม่ได้กำหนด ซึ่งขณะนี้ได้เช็คระบบที่ทางโทรศัพท์ไว้หมดแล้ว ซึงหากมีการตัดสัญญาณจริงตามกระแสข่าว เราจะมีแผนการรับรองเหตุการณ์ นอกจากนี้ นายจตุพร ยังกล่าวถึงระบบการรักษาความปลอดภัยว่า ไม่ถึงขั้นต้องนำกำลังทหารมาดูแล เพราะเชื่อกำลังตำรวจและอาสาสมัครที่มีอยู่เพียงพอ
‘พงศ์เทพ’ชี้‘ทักษิณ’มีสิทธิ์โฟนอิน
นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุคนร้าย ปาระเบิดใส่เวทีชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ว่า เรื่องนิ้เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตรวจสอบให้ละเอียด รวมทั้งกลุ่มพันธมิตรเองก็ต้องให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ ว่าความจริงเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้กระทำ เชื่อว่ารัฐบาลจะต้องลงโทษผู้กระทำผิด
อย่างไรก็ตามบริเวณดังกล่าวมีกล้องวงจรปิดน่าจะตรวจสอบความจริงได้ไม่ยาก อีกทั้งหลักฐานจากกองพิสูจน์หลักฐานก็จะสามารถบอกได้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเหตุการณ์เป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่จะต้องดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และเชื่อว่ารัฐบาลจะไม่ปกป้องคนผิด
ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวหาว่า รัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นั้น นายพงษ์เทพ กล่าวว่า หากมีการกล่าวหา รัฐบาลควรจะออกมาชี้แจงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่ควรนิ่งเฉยปล่อยให้พันธมิตรพูดจากล่าวว่า เพราะประชาชนที่ฟังเรื่องราวอาจหลงเชื่อในคำกล่าวหา หากไม่มีการชี้แจง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯหรือไม่นั้น นายพงษ์เทพ กล่าวว่า ปกติการสร้างสถานการณ์จะไม่มีการบาดเจ็บของกลุ่มตัวเอง เว้นแต่กรณีที่ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์แต่เกิดเหตุขึ้นนั้นอาจจะเป็นบุคคลมือที่สามที่ต้องการให้เกิดความแตกแยก แต่ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์อื่นๆ นั้นเป็นเรื่องที่ต้องตรวจสอบ ควรปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ตรวจสอบหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิด
นอกจากนี้ นายพงษ์เทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร จะต่อโทรศัพท์สายตรงผ่านรายการความจริงวันนี้ สัญจร ในวันพรุ่งนี้(1พ.ย.)แต่หลายฝ่ายออกมาวิพากวิจารณ์ว่าเป็นเรื่องไม่ควร ว่า เรื่องนี้นั้น พ.ต.ท. ทักษิณ ท่านก็ยังเป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีสิทธิ์เสรีภารในการออกมาแสดงออกเหมือนคนทั่วไป ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะเดือดร้อนอะไรหากคนไทยคนหนึ่งจะแสดงความคิดเห็นบ้าง ไม่ควรตีตนไปก่อนไข้ ส่วนจะมีการต่อสายจริงหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบเนื่องจากไม่ได้เป็นผู้จัดงาน“เรื่องนี้ไม่สามารถยืนยันได้ เพราะโดยส่วนตัวไม่ได้ต่อสายพูดคุยเป็นการส่วนตัวมานานแล้ว”
'โคทม-ปลื้ม'บอกปัดไม่คุยการเมือง
นายโคทม อารียา ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรมีการตอบโต้คำพูดของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล และนายดิษธร วัชโรทัย อย่างรุนแรงว่า สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ไม่ควรจะมีการแอบอ้าง แต่ถามว่ากลุ่มไหนจะมีการแอบอ้างนั้นต้องลองไปถามกลุ่มพันธมิตรดูว่าแอบอ้างจริงหรือไม่ ส่วนกรณีที่กลุ่มพันธมิตรมีการพาดพิงถึงตนนั้น ตนไม่รู้ว่าหมายถึงตนหรือไม่ก็ให้ไปถามกลุ่มพันธมิตรดูเอง
ด้านม.ล.ณัฐกรณ์ เทวกุล พิธีกรชื่อดังในช่วงนี้บอกว่าตอนของดให้สัมภาษณ์เรื่องการเมืองในทุกๆกรณี