คอลัมน์ วิภาคแห่งวิพากษ์
มีความแตกต่างอย่างแน่นอนระหว่างการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กับการเคลื่อนไหวของศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) เมื่อเดือนตุลาคม 2516
แตกต่างอย่างแน่นอนกับการเคลื่อนไหวเมื่อเดือนตุลาคม 2519
แตกต่างอย่างแน่นอนกับการเคลื่อนของสมาพันธ์ประชาธิปไตย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
แตกต่างตรงวิธีการและกระบวนการของการเคลื่อนไหว
เมื่อเดือนตุลาคม 2516 ศนท.สะสมกำลังโดยมีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นฐานที่มั่น แต่ในวันที่ 13 ตุลาคม ก็เคลื่อนไปบนถนนราชดำเนินและประสบความสำเร็จพลันที่สามารถกดดันให้ จอมพลถนอม กิตติขจร ลาออกจากตำแหน่งได้ในวันที่ 14 ตุลาคม
กระนั้น ก็เกิดความเข้าใจผิดอันนำไปสู่การปะทะกัน ณ บริเวณหน้าสวนจิตรลดารโหฐาน
เมื่อเดือนตุลาคม 2519 ศนท.เคลื่อนกำลังจากสนามหลวงไปยืนหยัดอยู่บริเวณสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และถูกล้อมปราบ จับกุม และเข่นฆ่าอย่างเหี้ยมโหด
เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 เริ่มต้นที่ท้องสนามหลวงและเคลื่อนขบวนไปบนถนนราชดำเนินกระทั่งมีการปะทะ จับกุม และปราบปรามอย่างรุนแรง
แต่การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แตกต่างออกไป
ความแตกต่างนั้นดำรงอยู่ภายในความเหมือนอันเป็นจุดร่วมอย่างมีนัยสำคัญทางการเมือง แต่ได้มีการยกระดับไปสู่กระบวนการทางการเมืองซึ่งมีลักษณะกึ่งทหาร
ด้านหลักของ พันธมิตรคือการตรึงกำลังสร้างฐาน
นั่นก็คือ การตรึงกำลังอยู่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนิน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551
นั่นก็คือ การตรึงกำลังอยู่ในทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551
ขณะเดียวกัน ด้านรองของพันธมิตรคือการเคลื่อนไหวในลักษณะดาวกระจาย แยกย้ายไปที่ถนนสีลม แยกย้ายไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นต้น
ทั้งๆ ที่พันธมิตรตรึงกำลัง ณ บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ทั้งๆ ที่พันธมิตรตรึงกำลัง ณ ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่เดือนสิงหาคม แต่พันธมิตรก็ยังตรึงกำลังและยังดำรงจุดมุ่งหมายของตนไม่แปรเปลี่ยน
ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าคำขาดที่พันธมิตรยื่นต่อรัฐบาลจะประสบความสำเร็จเมื่อใด ไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าชัยชนะของพันธมิตรจะเป็นเมื่อใด
ความเป็นไปได้ที่เห็นอย่างเด่นชัดก็คือ การต่อสู้ในลักษณะยืดเยื้อและยาวนาน
หากศึกษาบทเรียนจากอดีต ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนตุลาคม 2516 ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนตุลาคม 2519 ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
การตรึงกำลังอยู่ในที่ตั้งเสมอเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เป้าหมายคือการสะสมกำลัง
เมื่อสะสมกำลังได้พอสมควร และทดสอบความแน่วแน่มั่นคงของมวลชนได้ในระดับที่แน่นอนหนึ่งก็จะเริ่มเคลื่อนขบวน
การตรึงกำลังอยู่ในที่ตั้งอย่างเมื่อเดือนตุลาคม 2519 คือหายนะ
น่าสนใจก็ตรงที่การเคลื่อนไหวของพันธมิตรนับแต่เดือนพฤษภาคม 2551 เป็นต้นมา มีลักษณะการตรึงกำลังสร้างฐานเป็นด้านหลัก การเคลื่อนไหวแบบดาวกระจายเป็นด้านรอง
ไม่ว่าจะเป็นบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นทำเนียบรัฐบาล
เพราะการตรึงกำลังนั่นเองทำให้พันธมิตรจำเป็นต้องพัฒนาไปสู่การจัดตั้งกองกำลังในแบบนักรบศรีวิชัย ในแบบการ์ดพันธมิตร
ในความเป็นจริง คือ การพัฒนาจากขบวนการทางการเมืองเป็นขบวนการทางทหาร
พัฒนาการนี้เคยมีบทเรียนมาแล้วในกรณีของกองกำลังติดอาวุธของมุสโลลินี เคยมีบทเรียนมาแล้วในกรณีของกองกำลังติดอาวุธของฮิตเลอร์
นี่เท่ากับเป็นพัฒนาการบนพื้นฐานแห่งแนวคิดแบบทหาร
ในทางการรบ มาตรการยึดที่ตั้งสร้างฐานทางเศรษฐกิจสะสมกำลังเพื่อขยายตัวมีความจำเป็น
แต่ในทางการเมือง การเคลื่อนไหวมวลชนในลักษณะสร้างฐานโดยการยึดทำเนียบรัฐบาลโดยการยึดถนน ถือได้ว่าเป็นของใหม่
เป็นของใหม่ซึ่งไม่มีใครคาดหมายได้ว่าที่สุดของการยุทธจะอยู่ ณ จุดใด