คอลัมน์ : สามเหลี่ยมดินแดง
* หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ รายวัน ฉบับประจำวันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2551 จงรัก ภักดีราช แม้มิใช่ปราชญ์ แต่ไม่น่าพลาดกับการทำนายสถานการณ์การเมืองไทย ที่อยู่ในสภาพไร้ซึ่งทาง ออก “จบไม่สวย” คือ สภาพการณ์ที่มิอาจจะหลีกเลี่ยงพ้น เป็นแน่แท้
* ในขณะที่ รัฐบาลเพียรพยายามหาทางออก แต่ ประชาธิปัตย์ กับ พันธมิตรฯ และ 40 ส.ว.ลากตั้งที่แนบชิดติดกัน กลับปิดล้อมทุกทางออกจนหมดสิ้น ราวกับว่าจะมีเจตจำนงขีดเส้นให้คนไทย และประเทศไทย เดินเข้าสู่สภาวะ เลือดนองท้องช้าง ในเร็ววัน ฤาจะจริงดังที่เขาพูดกันว่า วิญญูชนเห็นทุกปัญหามีทางออก แต่ทุรชนเห็นทุกทางออกมีปัญหา
* การขยับกำลังของกองทัพบก เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก มีเจตนาชัดแจ้งที่จะประโคมข่าวให้แพร่กระจายเข้าถึงหูของคนทั้งสองฝ่ายที่เผชิญ หน้ากันอยู่ หมายใจว่าจะ ใช้สีเขียว ขู่สีแดง ข่มสีเหลือง ให้ได้หวาดกลัวไปในคราวเดียว แต่ทว่า ทั้งแดง และเหลือง ไม่ได้เห็นกองทัพอยู่ในสายตาอีกแล้ว โดยเฉพาะชาวสีแดง ท่องคาถา “ความกลัวทำให้เสื่อม” ของ สมัคร สุนทรเวช จนขึ้นใจ จึงเลิกกลัวสีเขียวและเลิกเกรงสีเหลือง ไปเสียสิ้น
* จงรัก ภักดีราช เชื่อตามที่ จรัญ ภักดีธนากุล พูดจาทุกประการ ว่า ศาลไทยได้มาตรฐานศาลโลก แต่ ที่ไม่เชื่อ และเชื่อไม่ได้ ก็คือ ผู้พิพากษาไทยบางคน ต่างหาก ที่มีพฤติกรรมไม่ต่างจากมือปืนรับจ้าง มีหน้าที่เด็ดหัว ปลิดขั้วชีวิตทางการเมือง ของนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ไม่เว้นแต่ละวัน คำพูดคำจากระทบกระเทียบ ที่ว่า “ทำกับข้าวถูกปลด เป็นกบฏถูกปล่อย” มิได้ลอยลมเรียกเสียงหัวเราะอยู่แต่ในไทย หากแต่แพร่ไกลไปทั่วโลก พูดที่ไหน ฮาที่นั่นทุกทีไป สะท้อนภาพลักษณ์ศาลไทย ที่เกิดจากการกระทำของ “ตุลาการใบสั่ง” นั่นเอง
* นึกไม่ถึง แก่จนปูนนี้ ประสพสุข บุญเดช จะทำตัวได้ทุเรศทุรัง ให้คนรุ่นหลังจดจำไว้หยามเหยียดได้ถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่เป็นผู้เห็นดีเห็นงาม และริเริ่มแนวทางการตั้ง สสร.3 แก้ไขรัฐธรรม นูญ เพื่อหาทางยุติวิกฤติของประเทศ แต่พลันที่ รสนา โตสิตระกูล นำ 40 ส.ว.สายพันธมิตรฯ ออกมากดดันเรียกร้องให้ถอนตัว ก็เดินตามหลังต้อยๆ เหมือนแมวเชื่องๆ ทิ้งภารกิจเพื่อชาติ เพราะกลัวถูกด่า มิหนำซ้ำยัง กลืนน้ำลายลงคอ พลิกลิ้นสัมภาษณ์ สสร.3 ไม่ใช่หนทางออกจากวิกฤติของชาติ
* หลัง สมัคร สุนทรเวช ถูกศาลรัฐธรรมนูญ ลงโทษเพราะกระทำการขัดนิยามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ก็ ประสพสุข บุญเดช คนนี้นี่ล่ะ ที่แหกประเพณีประธานวุฒิสภา ส่งเสียงเชียร์ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเห็นว่ามีภาพลักษณ์ดี เป็นคนประนี ประนอม น่าจะแก้ไขวิกฤติความขัดแย้งของคนในชาติได้ แต่ครั้นได้สมชาย เป็นนายกรัฐมนตรี ดังใจหวัง กลับหันหลังให้ ไม่ยอมร่วมโต๊ะถกแนวทางแก้วิกฤติชาติ ที่มี สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นั่งรออยู่
* โหน คมช. (จน) ดัง นายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ ยังไม่หยุดทำนายเหตุบ้านการเมือง ทั้งๆ ที่ ควรจะเผาทิ้งทั้งตำราและตำหนัก นับตั้งแต่วันที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เสียบหล่นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี และต้องหลบลี้หนีหน้าไปให้ ป้าหล้า เย็บรอยแหกบนใบหน้า ที่หลงเชื่อ โหรวารินทร์ จนเสียผู้เสียคน มาเที่ยวนี้ ทำนายทายทัก คนรักทักษิณ จะไม่ได้ยินเสียงโฟนอิน ในวันรวมพลคนเสื้อแดง 1 พฤศจิกายนนี้ เพราะทหารจะขับรถถังออกมา “ปฏิรูป” อีกครั้ง
* จงรัก ภักดีราช อยากจะขอร้อง คนเสื้อแดงจังหวัดเชียงใหม่ ช่วยกันหาอะไรไปฝากและอุดปาก โหรวารินทร์ เสียที คนจำพวกนี้ นอกจากความคิดไม่สรรค์สร้างแล้ว ปากยังไม่สร้าง สรรค์อีกด้วย วันๆ คิดแต่จะยุให้ทหารออกมาปฏิวัติรัฐประหาร แค่เห็น ชะตากรรมมุสลิมนอกรีตที่เพิ่งถูกคลื่นประชาธิปไตยกวาดทิ้งไป ก็น่าจะรู้ได้แล้ว นายวารินทร์ คนนี้ เป็นโหร หรือ รอโหน
* นับว่าเป็นนายกรัฐมนตรี ที่ใช้เวลาทุกนาทีได้อย่างมีคุณค่า และหากำไรจากวันที่เหลือ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก สำหรับ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีที่ตีหน้าซื่อ และดื้อตาใส ท่องคาถาประชาธิปไตย “ไม่ออก” และ “ไม่ยุบ” ทั้งๆ ที่ถูกทุบจนบุบ ถูกตีจนน่วมไปทั้งตัว แต่ก็ยังหยัดยืนอยู่ได้จนถึงวันนี้ แหกวงล้อมของทหาร และ พันธมิตรฯ ไปนั่งเป็นประธานอาเซียน ได้รับความเห็นใจจากนานาชาติ อย่างล้นหลาม
* จงรัก ภักดีราช เชื่อโดยสุจริตใจว่า หนังสือพิมพ์ที่อวดอ้างว่าเป็นสื่อที่มีคุณภาพของประเทศ มีเจตนาที่จะ จับ ทักษิณ ชินวัตร ชนกับ สถาบันเบื้องสูงของคนไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายการ ทำธุรกิจสื่อ และการค้าขายข่าว คือ หากำไรจนไม่คำนึงถึงมาตรฐานโดยรวมตลอดถึงจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ จึงแปลคำว่า Elite ในแถลงการณ์ของ ทักษิณ ชินวัตร ที่ส่งถึงสื่อมวลชนทั่วโลก เป็น ชนชั้นสูง ทั้งๆ ที่เด็กนักเรียนชั้นประถม แปลศัพท์คำนี้ว่า ชนชั้นนำ หรือ คนแถวหน้า
* หากเชื่อตาม นิยามที่หนังสือพิมพ์เล่มนั้น ให้ไว้ ต่อไป การประกวด Thailand Elite Model ไม่ต้องแปลว่า เป็นการประกวดหา สุดยอดนางแบบแห่งชนชั้นสูงของประเทศไทย กระนั้นหรือ อีกทั้ง Thailand Elite Card จะมิกลายเป็นบัตรเฉพาะชนชั้นสูงแห่งประเทศไทย กระนั้นหรือ ...จะเกินเลยไปไหม? หาก จงรัก ภักดีราช จะตั้งข้อกล่าวหา หนังสือพิมพ์เล่มนั้น ว่า มีเจตนาดึงสถาบันเบื้องสูงมายุ่งเหยิงกับการเมือง ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่บังควรอย่างยิ่ง
* ยังไม่นับถึงกรณีที่ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร คอลัมนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์เล่มนั้น ที่พยายามบิด พระราชดำรัส “They do things for themselves” ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ที่ทรงตรัสถึงการกระทำของพันธมิตรฯ ให้ สอดคล้องกับการบัญญัติศัพท์ใหม่เพื่อดิ้นเอาตัวรอดของ สนธิ ลิ้มทองกุล ที่บอกว่า for = by และกล่าวหาว่า หนังสือพิมพ์ข่าวสด ของ ขรรค์ชัย บุนปาน แปลพระราชดำรัสผิดเพี้ยน ทั้งๆ ที่เด็กประถมก็แปลได้ ถูกปรามาสว่าความรู้ต่ำ แปลคำง่ายๆ ยังผิดแบบนี้ กองบรรณาธิการข่าวสด และ ขรรค์ชัย บุนปาน ยังทนนิ่งเฉยอยู่ได้อย่างไร
* หาข่าวมาขาย ประสา จงรัก ภักดีราช งานรวมพลคนเสื้อแดง วันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง ยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง เรียกระดมไพร่พล ทั้งจัดหาปัจจัยสนับสนุนแบบไม่อั้น กวาดต้อนผู้คนจากภาคเหนือ และ อีสานเหนือ เข้าสู่กรุงเทพฯ ด้วยหมายมั่นปั้นมือว่า จะต้องมี ไม่น้อยกว่า 1 แสนคน เพื่อเป็นการแสดงพลังให้ทุกคนได้ประจักษ์ถึงประสิทธิภาพของผู้ค้ำบัลลังก์ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่า แข็งแกร่งและมั่นคงเพียงใด