WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, November 9, 2009

หยุ่นแบกขี้ เนชั่นหุ้นหมาเมิน จึงรุ่งเรืองกิจสาปส่ง

ที่มา Thai E-News


โดนแก้เผ็ด-เครือเนชั่นพยายามสร้างอนาคตใหม่กับเนชั่นบรอดแคสติ้ง(NBC)ที่มีเนชั่นทีวีเป็นหัวหอก โดยเข้าไปสมคบกับเปรม-อภิสิทธิ์เชิดชูเผด็จการอำมาตย์ ทำลายความเคลื่อนไหวฝ่ายประชาธิปไตย และทำท่าจะสลัดทิ้งเนชั่นมัลติมีเดีย(NMG)โดยขายตึกเนชั่นบางนาทิ้ง ส่งผลให้ตระกูล"จึงรุ่งเรืองกิจ"ที่ถูกกล่อมเข้ามาถือหุ้นใหญ่โวยว่าถูกอาเปรียบ และตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจได้แก้เผ็ดแล้วด้วยการไม่จองซื้อหุ้นใหม่NBCที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นวันที่11พ.ย.นี้แม้แต่หุ้นเดียว ทำให้กลุ่มสุทธิชัย หยุ่นต้องแบกไว้หลังแอ่น แต่ก็ยังไม่วายโกหกประชาชนต่อไปว่า ขายหุ้นได้จนเกลี้ยง จนหุ้นไม่พอจะขาย...


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
9 พฤศจิกายน 2552
*ข่าวเกี่ยวเนื่อง:ปิดฝาโลงเนชั่น เปิดสัมพันธ์แก๊งหยุ่นเปรมมาร์ค

คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งให้รับหุ้นสามัญของบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)-NBCเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2552 เป็นต้นไป

เนชั่นสิ้นท่าต้องแบกรับหุ้นจองNBCไว้เอง "จึงรุ่งเรืองกิจ"เข็ดเขี้ยวไม่จองซักหุ้น

ทั้งนี้แม้ผู้บริหารNBCจะอ้างว่ามีคนจองซื้อจนล้น จนหุ้นไม่พอจะขาย แต่ความจริงที่โกหกไม่ได้ก็คือตัวเลขจำนวนและสัดส่วนการถือครองหุ้นภายหลังการกระจายหุ้นสู่มหาชนแล้ว(ดูลิ้งค์ข่าวตลาดหลักทรัพย์) ปรากฎว่าบริษัทเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป-NMGซึ่งเป็นบริษัทแม่ต้องแบกรับไว้เองถึง105ล้านหุ้น(ก่อนกระจายNMGถืออยู่120ล้านหุ้น) ประการสำคัญที่สุดคือผู้ถือหุ้นใหญ่เดิมของNMGคือตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจไม่จองซื้อหุ้นNBCแม้แต่หุ้นเดียว เพราะเข็ดเขี้ยวกับความไม่ตรงไปตรงมาของผู้บริหารเนชั่นที่นำโดยสุทธิชัย หยุ่น

หุ้นบริษัทแม่ร่วงทันที8%หลังรู้ข่าวร้ายขายหุ้นจองNBCไม่ออก

หลังการแจ้งข้อมูลมายังตลาดหลักทรัพย์ ยังผลให้หุ้นบริษัทแม่คือNMGร่วงลง8.33%เมื่อตอนปิดทำการวันจันทร์ที่ 9 พ.ย. สวนทิศทางกับดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นเกือบ15จุด หรือ2.13% โดยติดอันดับTOP10ของหุ้นที่ร่วงลงแรงที่สุดของวันนี้ คือร่วงลงแรงมากที่สุดเป็นอันดับที่6

รายชื่อผู้ถือหุ้นNBC หลังกระจายหุ้นต่อมหาชน ณ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552


ชื่อ จำนวนหุ้น ร้อยละของทุนชำระแล้ว

1.บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป 104,999,940 61.76
2.นายทวีฉัตร จุฬางกูร 2,888,888 1.70
3.นางมยุรี สุขศรีวงศ์ 1,885,882 1.11
4.นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ 1,808,034 1.06
5.นายณัฐพล จุฬางกูร 1,800,000 1.06
6.นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น 1,622,228 0.95
7.นายนที พานิชชีวะ 1,500,000 0.88
8.นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล 1,100,000 0.65
9.น.ส.วันทนีย์ รุจิราวรรณกร 1,100,000 0.65
10.นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล 1,000,000 0.59
รวม 119,704,972 70.41

เป็นที่น่าสังเกตว่าการกระจายหุ้นNBCครั้งนี้ ทางเนชั่นหวังผลให้ผู้ถือหุ้นเดิมของเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป หรือNMGมาจองซื้อเต็มที่ ถึงกับให้สิทธิ์ได้จองซื้อก่อนนักลงทุนทั่วไป แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจที่ถือหุ้นใหญ่อันดับ1ของNMGไม่ใช้สิทธิ์จองหุ้นNBCแม้แต่หุ้นเดียว

รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่NMG : บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

ณ วันที่ 10 มีนาคม 2552

ลำดับ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จำนวน %



1. นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ 27,093,300 16.44

2. นางมยุรี สุขศรีวงศ์ 16,972,938 10.30

3. นายธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ 16,272,309 9.88

4. นายสุทธิชัย แซ่หยุ่น 14,600,054 8.86

5. DOW JONES & COMPANY 12,000,000 7.28

6. นายทวีฉัตร จุฬางกูร 8,000,000 4.86

7. นายนิวัตน์ แจ้งอริยวงศ์ 4,485,878 2.72

8. นางสุภาภรณ์ ชื่นวิจิตร 3,641,911 2.21

9. บริษัท กรีนสยาม จำกัด 3,184,779 1.93

10. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 3,053,883 1.85

11. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 2,500,000 1.52

12. น.ส.สุมาลี ธารพิพิธชัย 2,400,000 1.46

13. นายเอกวุฒิ เนื่องจำนงค์ 2,400,000 1.46

14. นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ 2,349,600 1.43

15. นางสุภา สุพรรณธะริดา 2,097,200 1.27

16. น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ 2,000,000 1.21

17. นายณรงค์ศักดิ์ โอปิลันธน์ 1,900,000 1.15

18. นายสมศักดิ์ วรรณสินธพ 1,660,000 1.01

19. MELLON NOMINEES (UK) 1,630,188 0.99

20. นายปราบดา หยุ่น 1,319,739 0.80

21. นายยรรยง ภัทรเลาหะ 1,251,800 0.76

22. นางชุลีวรรณ วิวัฒนาเกษม 1,200,000 0.73

23. นายศิริชัย จรุงสถิตพงศ์ 1,164,600 0.71

24. นายพิชัย จิราธิวัฒน์ 1,063,946 0.65


สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถือหุ้นใหญ่NMG:บริษัทไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะมีการขายทรัพย์สินเพื่อใช้ชำระหนี้ ซึ่งเป็นหนี้ที่ก่อมานานแล้ว ในฐานะผู้บริหารบริษัทมหาชน ควรจะบริหารธุรกิจให้มีกำไร ซึ่งทำไม่ถูกที่ขายสินทรัพย์ส่วนใหญ่ไปใช้หนี้ ซึ่งไม่ว่าองค์กรไหน ถ้าทำธุรกิจดี หากขายสินทรัพย์ไปแล้วก็ซื้อใหม่ได้ แต่ไม่ใช่เนชั่น



นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ลูกชายของสมพร: เราเข้ามาซื้อหุ้นNMGเพราะพี่สาวผมแต่งงาน คนที่พี่สาวผมแต่งงานด้วยคือหลานชายของคุณธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ [ประธานNMG] คุณธนาชัยเข้ามาคุยกับคุณแม่ว่า อยากให้ครอบครัวปรองดองกัน นั่นคือจุดแรกที่เราเข้าไปซื้อหุ้น ไม่ใช่เพื่อเข้าไปยึดครอง หรือเพื่อทำกำไร ไม่เคยมีอยู่ในหัวของคนในครอบครัวเราเลย ผมคิดว่าสื่อไม่ใช่ธุรกิจที่อยู่ๆ คุณจะเข้าไปเทกโอเวอร์ เข้าไปบริหารง่ายๆ



บิ๊ก NBC โกหกหน้าตายกระแสตอบรับจากคนจองล้นปรี่ ปั่นอีกเชื่อเหนือจองแน่

นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ NBC ให้สัมภาษณ์กับสื่อออนไลน์วงการหุ้นคือwww.eFinanceThai.com ว่า ในวันที่ 11 พ.ย. จะนำหุ้น NBC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์MAI โดยมั่นใจว่าราคาหุ้นของ NBC จะยืนเหนือราคาเสนอขายที่ 2.90 บาท แม้ว่าภาวะตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม เพราะบริษัทฯ มั่นใจในศักยภาพของ NBC และด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่5พ.ย.เมื่อสิ้นสุดเวลาจองซื้อหุ้นเมื่อวันที่4พ.ย.เวบไซต์กรุงเทพธุรกิจ ในเครือเนชั่นรายงานข่าวว่า นายกิตติศักดิ์ อมรชัยโรจน์กุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี ( ประเทศไทย ) จำกัด ในฐานะแกนนำผู้จัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน บริษัทเนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทเปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้น NBC ที่ราคาหุ้นละ 2.90 บาท จำนวน 65 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 2-4 พฤจิกายนนั้น สามารถจำหน่ายหุ้นจำนวน 65 ล้านหุ้นได้ทั้งหมดตั้งแต่วันแรก โดยนักลงทุนได้ติดต่อจองซื้อเข้ามาสูงกว่าจำนวนหุ้นที่มีจัดสรรไว้

"ตอนนี้ปิดการจำหน่ายแล้ว ยังมีลูกค้าโทรเข้ามาสอบถามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการที่หุ้นนี้ได้รับความสนใจมาก เป็นเพราะผลประกอบการดี ธุรกิจมีความน่าสนใจและเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง" นายกิตติศักดิ์ กล่าว

ผ่าปูมหลังบริษัทแม่เนชั่นกำลังทรุด แต่เนชั่นทีวีคืออนาคตของสุทธิชัย หยุ่น?


ผู้ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของธุรกิจสื่อสารมวลชนเคยตกตลึงเมื่อเครือเนชั่น ของสุทธิชัย หยุ่น ประกาศขายตึกเนชั่นที่บางนาเพื่อชำระหนี้ ถึงกับทำให้นายสมัคร สุนทรเวช ที่เป็นขมิ้นกับปูนกับสื่อถึงกับ"โพล่ง"ออกมาในช่วงเขาเป็นนายกรัฐมนตรีว่า"เนชั่นขายตึกใช้หนี้ กำลังล้มละลายแล้วหรือ?" ต่อมามีสื่อบางฉบับลงข่าวทำนองว่าเนชั่นมีฐานะกิจการสั่นคลอน ซึ่งในที่สุดก็ต้องลงแก้ไขข่าวในที่สุด เพราะเนชั่นมีการดำเนินการตามกฎหมาย และต้องลงข่าวแก้ไขว่าฐานะกิจการยังมั่นคงแข็งแรงดี

จากการตรวจสอบของไทยอีนิวส์พบว่า ก็น่าให้นายสมัคร หรือสื่อบางฉบับตั้งข้อสงสัยทำนองนั้นได้ เพราะเวลาไล่เลี่ยกันนั้นหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจได้ขายตึกออกมาชำระหนี้ และดูเหมือนฐานะกิจการจะไม่มั่นคงดังแต่ก่อน เพราะเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ฐานเศราฐกิจถึงกับต้องปลดพนักงานออกชุดใหญ่ 60 คน สะท้อนถึงฐานะกิจการได้ดี

เนชั่นก็มีการเปิดโอกาสให้พนักงานเกษียณโดยสมัครใจเช่นกัน แต่ก็ไม่ถึงขั้นปลดชุดใหญ่แบบฐานเศรษฐกิจ เนชั่นพยายามหาเงินเข้ามาหล่อเลี้ยงกิจการทุกทาง แม้แต่พาทัวร์ไปไหว้แดนพุทธภูมิที่อินเดีย จัดกิจกรรมสอนคนที่อยากเป็นนักข่าวแล้วเก็บเงินค่าอบรม หรือประเภทที่ว่าหาได้ทางไหนก็ต้องเอา แม้เป็นเงินเล็กเงินน้อย อย่างขายวีซีดีสุทธิชัยไปเที่ยวต้นแม่น้ำโขง เป็นอาทิ

สิ่งที่ทำให้เนชั่นต่างจากฐานเศรษฐกิจก็คือ"เส้นสาย"และการแทงข้างทางการเมืองที่ชัดเจนและเนชั่นอยู่ข้างชนะในที่สุด ผลจึงปรากฎว่าหลังรัฐประหาร19กันยา เนชั่นได้เข้าไปทำรายการฟรีทีวีแทบทุกช่อง คือ 3 5 9 11 (ไม่นับTPBSที่เทพชัย หย่อง น้องสุทธิชัย หยุ่น เข้าไปบริหารเต็มตัว) เพราะการเอื้อเฟื้อต่างตอบแทนจากผู้มีอำนาจทางการเมือง รวมไปถึงงบการโฆษณาจากรัฐบาลที่ทุ่มเทมาให้ รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ(event)ที่ค่ายเนชั่นแทบจะผูกขาดเหมาจัด และถ่ายทอดสดผ่านทีวีเนชั่น แล้วเก็บเงินจากรัฐบาลเป็นกอบเป็นกำ

แต่จุดสำคัญของเรื่องนี้คือ ผลประโยชน์นั้นตกกับบริษัท เนชั่นบรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)-NBCที่เนชั่นกำลังขายหุ้นจองในช่วงนี้ และจะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดMAIในวันที่11พ.ย.นี้ ไม่ได้่ตกเป็นผลประโยชน์ของบริษัท เนชั่นมัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือNMG บริษัทแม่ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทร้พย์มาก่อนแต่อย่างใด

หากคุณรักสุทธิชัย หยุ่น และเด็กๆของเขาอย่างกนก ธีระ จอมขวัญ และรักค่ายเนชั่น นี่เป็นโอกาสอันดีที่ควรซื้อหุ้นNBCเพื่อส่งเสริมการหา"ฟูกนิ่มๆ"สำหรับคนเหล่านี้ ส่วนNMGนั้นไม่ต้องห่วง เพราะมีพวกตระกูล"จึงรุ่งเรืองกิจ"มหาเศรษฐีแบกรับภาระไว้ด้วยความอ่วมอรทัย ชนิดที่กลืนก็ไม่เข้า คายก็ไม่ออก ได้แต่กลอกตา

สมาคมนักข่าวยืนยันเนชั่นอาการแย่ พนักงานเผยขวัญระส่ำ


ศูนย์เฝ้าระวังการคุกคามสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย รายงานว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปีนี้มีผลกระทบต่อธุรกิจสื่อสารมวลชนหลายค่าย รวมทั้งเครือเนชั่นที่ได้เปิดโอกาสให้พนักงานสมัครใจลาออก(เออลี่รีไทร์)มาหลายรอบแล้ว

พนักงานเนชั่นรายหนึ่งที่ขอสงวนนามได้ยินดีเปิดเผยกับ"ไทยอีนิวส์"ว่า ยอดขายสิ่งพิมพ์ในเครือตกหนักมากในช่วง4ปีมานี้ ทั้งหนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษTHE NATION หนังสือพิมพ์คมชัดลึก กรุงเทพธุรกิจ และเนชั่นรายสัปดาห์ โดยเฉพาะทางภาคเหนือและอีสาน เนื่องจากคนใน2ภาคดังกล่าวมองว่าเครือเนชั่นเลือกที่จะเอียงข้างฝ่ายอำมาตย์ และรัฐบาลประชาธิปัตย์ มีอคติต่อพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และผู้สนับสนุนทักษิณ รวมทั้งพวกเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง

"ยอดขายแย่มาก ขนกลับมากองพะเนินตลอด พนักงานเนชั่นขวัญกำลังใจตกต่ำมาก ไม่รู้เมื่อไหร่จะถึงคิวตัวเองต้องโดนบีบออก ขนาดบริษัทขายตึกที่บางนาแล้วก็ไม่ได้ช่วยให้สภาพการณ์ดีขึ้นเลย"พนักงานเนชั่นกล่าว

ขณะนี้เนชั่นต้องหารายได้ทุกทาง เช่น การจัดทัวร์ไปเที่ยวไหว้พระตามรอยพระพุทธเจ้าที่ประเทศอินเดีย การจัดโครงการสอนอบรมนักข่าวเพื่อหารายได้เข้ามาหล่อเลี้ยงกิจการ แต่ที่ได้เป็นกอบเป็นกำจริงๆคือการจัดอีเว้นต์ให้กับรัฐบาลชุดนี้ และโฆษณาผ่านรายการที่รัฐบาลให้เวลาไปทำทางฟรีทีวีช่องต่างๆหลังรัฐประหาร19กันยา แต่เนชั่นไปบันทึกลงบัญชีเป็นกำไรของNBCที่เป็นบริษัทลูก ส่วนNMGที่เป็นบริษัทแม่แสดงผลขาดทุน

ขายตึกเนชั่นหวังฟัน1,380ล้าน แต่จบที่ราคา955ล้าน


เมื่อวันที่ 2 5มกราคม 2551 วงการสื่อก็ตกตลึง เมื่อนายธนะชัย สันติชัยกูล กรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)-NMG เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 23 มกราคม มีมติอนุมัติขายสินทรัพย์ของบริษัทรวมมูลค่า 1,379.75 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ที่ดิน 4 ไร่ 3 งาน 72 ตร.ว. พร้อมอาคารสำนักงานใหญ่ พื้นที่รวม 14,212 ตารางเมตร และพื้นที่สำนักงานอาคารเนชั่นทาวเวอร์ ซึ่งเป็นห้องชุดจำนวน 191 ห้องชุด พื้นที่รวม 44,950.32 ตารางเมตร ในอาคารชุดชื่อ อาคารชุดเนชั่นทาวเวอร์

นายธนะชัยกล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการขายสินทรัพย์ดังกล่าว เพื่อการปรับปรุง process ในการดำเนินงาน และเพื่อนำเงินที่ได้รับไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ ซึ่งจะช่วยลดภาระหนี้สินและลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย และทำให้บริษัทมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น

ต่อมา NMG แจ้งว่า ได้ลงนามในสัญญาจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท ในส่วนที่เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ (พร้อมด้วยที่ดินที่อาคารตั้งอยู่) และพื้นที่สำนักงานซึ่งเป็นห้องชุดในอาคารเนชั่น ทาวเวอร์แล้ว โดยขายให้กับบริษัท ช.ชนะอนันตพาณิชย์ จำกัดเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2551 คาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ในวันที่ 30 เมษายน 2551 มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน 955 ล้านบาท ชำระเงินงวดเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์

การขายตึกครั้งนี้เนชั่นขายถูกกว่่าที่ตั้งไว้ถึง 425 ล้านบาททีเดียว สำหรับบริษัทช.ชนะอนันต์ เป็นกิจการในเครือเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ปรากฎการณ์ครั้งนี้ทำให้วงการสื่อมองว่าเนชั่นน่าจะถูกกดราคาลงมากเพราะ"ร้อนเงิน"

ขายตึกแล้วแต่NMGอาการหนักกว่าเก่าขาดทุนเพิ่ม แต่บริษัทลูกทำทีวีรวยขึ้่น

ผู้บริหารNMGบอกว่าหลังขายตึกแล้ว ในงวดปี2552น่าจะพลิกมาเป็นกำไร แต่เรื่องจริงคือครึ่งแรกปี2552นี้ขาดทุนหนักกว่าเก่า ในงวด6เดือนแรกปีนี้ บริษัทแจ้งผลขาดทุนสุทธิ 111 ล้านบาทจากปีก่อนกำไรสุทธิื1.11ล้านบาท

NMGแจ้งว่า สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2552 มีขาดทุนจากการดำเนินงานก่อนภาษีเงินได้ ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมสุทธิและอื่นๆจำนวน 68.22 ล้านบาท หากรวมภาษีเงินได้ 16.17 ล้านบาท ส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมสุทธิ 25.03 ล้านบาท
และรายการตั้งค่าเผื่อสินค้าล้าสมัยของสินค้าคงเหลือ 1.51 ล้านบาท ผลประกอบการสำหรับ 6 เดือนแรกของปี2552 จะแสดงเป็นขาดทุน 110.93 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีผลกำไร 1.11 ล้านบาท

โดยผลการดำเนินงานของบริษัทมีสาระสำคัญสรุปได้ดังนี้

รายได้จากการขายและบริการในช่วง 6 เดือนแรก 2552 ลดลงร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี2551 เนื่องจาก รายได้จากการขายโฆษณาลดลงร้อยละ 27 โดยมาจากรายได้โฆษณาจากสื่อสิ่งพิมพ์ลดลงร้อยละ 36 เพราะมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนทางการเมือง ในขณะที่รายได้โฆษณาจากสื่อทีวีและวิทยุเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 และรายได้จากการให้บริการข่าวสารและโฆษณาผ่านสื่อระบบอิเลคทรอนิคส์ลดลงร้อยละ 8 นอกจากนี้ รายได้จากการจำหน่ายสิ่งพิมพ์ลดลงร้อยละ 19 โดยรายได้จากการจำหน่ายหนังสือพิมพ์ลดลงร้อยละ 8 และรายได้จากการจำหน่ายหนังสือพ๊อคเก็ตบุ๊คส์และการ์ตูนลดลงร้อยละ 33 นอกจากนี้รายได้จากบริการด้านการพิมพ์ การเป็นตัวแทนจำหน่ายหนังสือต่างประเทศ และบริการรับขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 35

สุทธิชัยเจอฟูกนิ่มNBCรองรับ แต่"จึงรุ่งเรืองกิจ"ติดดอยบ่นอุบ

คนทั่วไปมักเข้าใจว่าสุทธิชัยถือหุ้นใหญ่NMG แต่ความจริงเป็นสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แห่งไทยซัมมิต ออโตพาร์ต บริษัทชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งเป็นพี่สะไภ้ของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

คนมักเข้าใจผิดอีกว่า ทักษิณ ชินวิตร เป็นแบ็คให้สุริยะกับพวกจึงรุ่งเรืองกิจ เข้ามาซื้อNMGเพื่อเทกโอเวอร์กิจการเนชั่น เพราะหมั่นไส้ที่ถูกเนชั่นตามล้างตามราวี

สรุปคือผิดทั้ง 2 เรื่อง


นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง NMG กล่าวเปิดเผยว่า กลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจเข้าไปซื้อหุ้นเนชั่นตั้งแต่ปี 2546 ด้วยเงินลงทุนหลายร้อยล้านบาท และปัจจุบันถือหุ้นประมาณ 20% นั้น หากราคาหุ้นเนชั่นขึ้นมาถึงต้นทุนที่ราคา 10 บาทต้นๆ ก็พร้อมจะขายทิ้ง แต่ยืนยันว่าจะไม่ยอมขายขาดทุนแต่อย่างใด

ราคาปิดของNMGเมื่อวันที่29ตุลาคม2550คือ5.50บาท ซึ่งหากนางสมพรต้องการขายที่ราคาทุน10บาทต้นๆก็แปลว่าเวลานี้น่าจะขาดทุนทางบัญชีอยู่กว่า50%

สาเหตุที่ตัดสินใจอยากขายหุ้นเนชั่นทิ้ง นางสมพร กล่าวว่า แม้บริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น แต่บริษัทไม่เหลืออะไรแล้ว เพราะมีการขายทรัพย์สินเพื่อใช้ชำระหนี้ ซึ่งเป็นหนี้ที่ก่อมานานแล้ว ทั้งนี้กลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ไม่มีส่วนร่วมบริหารแต่อย่างใด

“ในฐานะผู้บริหารบริษัทมหาชน ควรจะบริหารธุรกิจให้มีกำไร ซึ่งทำไม่ถูกที่ขายสินทรัพย์ส่วนใหญ่ไปใช้หนี้ ซึ่งไม่ว่าองค์กรไหน ถ้าทำธุรกิจดี หากขายสินทรัพย์ไปแล้วก็ซื้อใหม่ได้ แต่ไม่ใช่เนชั่น” นางสมพร กล่าว

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ลูกชายของนางสมพร และหลานของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรัฐมนตรีที่ใกล้ชิดทักษิณคนหนึ่ง และเขาเป็นผู้ถือหุ้นเนชั่นมัลติมีเดียอยู่ด้วย เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารสารคดี ถึงเบื้องหลังการเข้าไปซื้อหุ้นNMGว่า เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับ คือพี่สาวผมแต่งงาน คนที่พี่สาวผมแต่งงานด้วยคือหลานชายของคุณธนาชัย ธีรพัฒนวงศ์ [ประธานNMG] คุณธนาชัยเข้ามาคุยกับคุณแม่ว่า อยากให้ครอบครัวปรองดองกัน นั่นคือจุดแรกที่เราเข้าไปซื้อหุ้น ผมคิดว่าไม่มีอะไรซับซ้อน คือไม่มีเหตุผลเชิงธุรกิจ คุณแม่ไม่ได้ต้องการซื้อหุ้นเนชั่นเพื่อเข้าไปยึดครอง หรือเพื่อทำกำไร และตั้งแต่วันที่ซื้อจนถึงวันนี้ มันไม่เคยมีอยู่ในหัวของคนในครอบครัวเราเลยว่าจะซื้อเพื่อทำกำไร หรือเพื่อเข้าไปยึดครอง

"คืออย่างนี้ครับ ผมคิดว่าสื่อไม่ใช่ธุรกิจที่อยู่ๆ คุณจะเข้าไปเทกโอเวอร์ เข้าไปบริหารง่ายๆ ผมคิดว่าด้วยความเป็นสื่อ อย่างแรกที่สุดคุณจะต้องมีภาพลักษณ์อะไรบางอย่างในการที่จะเข้าไปบริหารสื่อได้ และเรารู้อยู่แล้วว่าด้วยภาพลักษณ์ด้วยนามสกุลของเรา เราไม่สามารถเข้าไปได้ เราไม่ได้คิดว่าจะซื้อเพื่อเข้าไปยึดครอง ทั้งหมดนั้นเป็นความเข้าใจผิดของคนอื่น"

ฐานเศรษฐกิจไม่มีเส้นต้องปลดพนักงานรวดเดียว60คน

กิจการสื่อมวลชนอีกรายที่มีปัญหาจนต้องขายตึกคือฐานเศรษฐกิจ โดยตอนแรกได้ขายอาคารฐานเศรษฐกิจ 2 ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานพื้นที่ 2 หมื่นตารางเมตร ที่ในบริเวณใกล้กันกับตึก1ให้กับบริษัท คอม-ลิ้งค์ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อใหม่อาคาร ไอ ทาวเวอร์ เป็นอาคารสูง 32 ชั้น ถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว

ต่อมา บมจ. เจ-มาร์ท ได้ใช้เงินลงทุนประมาณ 700 ล้านบาท เข้าซื้ออาคารฐานเศราฐกิจตึก1 เนื่องจากฐานเศรษฐกิจ มีเจ้าหนี้คือ ธนาคารกรุงเทพ มีมูลหนี้ประมาณ 800 ล้านบาท และการเจรจาซื้อ อาคารฐานเศรษฐกิจครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแผนการแก้ไขปัญหาหนี้ของบริษัท


ศูนย์เฝ้าระวังการคุกคามสื่อฯรายงานว่า ภาวะทางเศรษฐกิจที่สั่นคลอนในขณะนี้ ทำให้ภาคธุรกิจหลายส่วนต้องปรับตัวให้อยู่รอด ไม่เว้นแม้แต่วงการธุรกิจสื่อมวลชน ล่าสุดบริษัทหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ มีคำสั่งเลิกจ้างพนักงานเมื่อวันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน 2552 ที่ผ่านมาจำนวน 60 คน


นายชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ บรรณาธิการบริหารหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจให้ข้อมูลว่า บริษัทได้บอกเลิกจ้างพนักงาน 60 คนจริง ซึ่งไม่ใช่นักข่าวทั้งหมด มีพนักงานของแผนกอื่นรวมอยู่ด้วย

สำหรับสาเหตุที่ต้องเลิกจ้างเพราะปัญหาสภาวะทางการเงินของบริษัทที่มีรายจ่ายมากกว่ารายได้จำนวนมาก จึงจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยปรับลดขนาดองค์กรเพื่อให้อยู่ได้ และการปรับลดพนักงานครั้งนี้ทางบริษัทได้จ่ายค่าชดเชยตามกฏหมายแรงงาน ซึ่งต้องดูตามอายุงานพนักงานแต่ละคน แต่การจ่ายค่าชดเชยให้พนักงานนั้น ทางบริษัทไม่สามารถจ่ายครั้งเดียวได้ จึงจำเป็นต้องขอผ่อนจ่ายเป็นรายงวด

ศูนย์เฝ้าระวังการคุกคามสื่อฯกล่าวว่า อย่างไรก็ตามภายในรอบปีนี้ ไม่เพียงบริษัทฐานเศรษฐกิจเท่านั้นที่ถูกพิษเศรษฐกิจเล่นงานจนต้องเลิกจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก ก่อนหน้านี้ บริษัทจีจีนิวส์เน็ตเวริ์ค หรือคลื่น บิสิเนสเรดิโอของนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ ก็ต้องปิดตัวลงเพราะภาวะเศรษฐกิจเช่นกัน รวมถึงเครือเนชั่นก็มีการเปิดให้พนักงานเออลี่รีไทร์มาหลายรอบ
........
อ่านข่าวชุดInvestigative News:ช็อตต่อช็อตเปิดโปงสื่อโล้น