ที่มา Thai E-News
โดย ใจ อึ้งภากรณ์
4 พฤษภาคม 2553
ในเมื่อคนเสื้อแดงต่อสู้และเสียสละถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ควรยอมรับข้อเสนอของทรราชอภิสิทธิ์แบบง่ายๆโดยไม่มีการต่อรองเพิ่มเติม อย่างน้อยที่สุด...
1. เราควรเรียกร้องให้ยุบสภาในวันที่ 14 กรกฎาคม แทนวันที่ 14 กันยายน เพื่อเลือกตั้งในวันที่ 14 กันยายน ซึ่งถือว่าเป็นการประนีประนอมพบกันครึ่งทาง
2. การกำหนดวันยุบสภาและวันเลือกตั้ง ต้องไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้มีการกลับคำในภายหลังโดยอ้างสถานการณ์ที่ “ไม่เอื้อกับการเลือกตั้ง”
3. เราควรเรียกร้องให้อภิสิทธิ์ลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี และให้พรรคร่วมรัฐบาลเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว
4. ผบทบ. หัวหน้าพรรคต่างๆ ฯลฯ จะต้องออกมาสัญญาว่าจะไม่แทรกแซงการเลือกตั้ง และจะยอมรับผลการเลือกตั้ง
5. เราควรเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก พรก. ฉุกเฉิน และถอนทหารตำรวจออกจากพื้นที่ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดทันที
6. รัฐบาลควรยกเลิกข้อกล่าวหา หมายจับ หมายเรียก และการดำเนินคดีต่างๆ ทุกคดีที่ใช้กับคนเสื้อแดงทุกคนอันเป็นผลจากการชุมนุมครั้งนี้ คนเสื้อแดงที่ติดคุกเพราะปิดกั้นถนนควรถูกปล่อยตัวทันที อภิสิทธิ์ควรขอโทษที่รัฐบาลและศอฉ.กล่าวหาแกนนำเสื้อแดงและคนอื่นว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการล้มเจ้า
7. รัฐบาลต้องยกเลิกการปิดกั้นและเซ็นเซอร์สื่อทั้งหมดทันที โดยเฉพาะสื่อคนเสื้อแดงทุกชนิด รวมถึงโทรทัศน์ วิทยุชุมชน และเว็ปไซท์อย่างเช่น ประชาไท ฯลฯ
8. คณะกรรมการที่จะมาตรวจสอบข้อมูลเรื่องเหตุการณ์นองเลือด 10 เมษายน ต้องไม่เป็นเครื่องมือของอำมาตย์ ดังนั้นน่าจะประกอบไปด้วยฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายเสื้อแดง และคนที่เป็นกลางในสัดส่วนเท่าๆ กัน ประธานกรรมการควรจะเป็นคนกลางจริงๆ เช่นคนต่างประเทศที่แต่งตั้งโดยสหประชาชาติหรือ ASEAN คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติชุดปัจจุบันไม่ควรเกี่ยวข้องในฐานะ “คนเป็นกลาง” เพราะประกอบไปด้วยคนที่สนับสนุนพันธมิตรฯและรัฐประหาร ๑๙ กันยา
ข้อเสนอห้าข้อของอภิสิทธิ์เต็มไปด้วยคำโกหกและคำแก้ตัว มีการโกหกว่าเขาปกป้องเสรีภาพของสื่อ มีการโกหกเรื่องสถาบันกษัตริย์ เพราะในความเป็นจริงทหาร พันธมิตรฯ และรัฐบาลเป็นผู้ดึงสถาบันนี้มาใช้เพื่อให้ความชอบธรรมกับตนเอง ไม่ใช่คนเสื้อแดงที่ดึงสถาบันมาเกี่ยวกับการเมือง และการกระทำของเสื้อเหลืองและอำมาตย์ได้ทำให้ประชาชนจำนวนมากเสื่อมศรัทธา มีการโกหกว่าวิกฤตนี้มาจากแค่เรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสำคัญมาก แต่อีกประเด็นคือการที่อำมาตย์ทำลายสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย
ในระยะยาว หลังจากที่เราแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในวิกฤตนี้ เราต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญปี ๕๐ ของทหาร ปฏิรูปการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ ยกเลิกกฎหมายหมิ่นเดชานุภาพและปล่อยนักโทษทางการเมืองทั้งหมด ต้องเดินหน้าเพื่อสร้างรัฐสวัสดิการแบบถ้วนหน้า และครอบวงจร ผ่านการเก็บภาษีก้าวหน้าจากคนรวย ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดินตามความหมายของประชาธิปไตยแท้ เราไม่ต้องการเป็นไพร่เป็นทาสหรือฝุ่นใต้ตีนใครอีกต่อไป!