WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, May 7, 2010

ลั่นชุมนุมไม่เลิก แดงยัวะ มาร์คตั้งแง่วันยุบ

ที่มา ข่าวสด


อ้ำอึ้ง"15-30กย." ขู่กลับม็อบด้วย ไม่เลิกก็ไม่ยุบ! พันธมิตรฯแค้น ไล่อภิสิทธิ์ออก ลุยต้านโรดแม็ป




คุมเชิง - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ประชุมส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่รัฐสภา ชี้แจงโรดแม็ปปรองดอง แต่ยังไม่ยอมระบุวันยุบสภา ขณะที่ม็อบกลุ่มเสื้อแดงยังปักหลักราชประสงค์อย่างเหนียวแน่น ร้องรำทำเพลงสร้างบรรยากาศ รอดูท่าที

"มาร์ค" โดนศึกสอง สีขนาบ ทั้งแดง-เหลือง พันธมิตรฯ ออกแถลง การณ์โจมตีดุเดือด จี้นายกฯ ยกเลิกโรดแม็ปปรองดองกับคนเสื้อแดง จี้ลาออกถ้าทำไม่ได้ ส่ง "พิภพ" เป็นตัวแทนเข้าคุยกับนายกฯ แต่ยังเคลียร์ไม่ได้ "อภิสิทธิ์" พูดกว้างๆ วันยุบสภาอยู่ระหว่าง 15-30 ก.ย. จี้กลับม็อบต้องสลาย บ้านเมืองต้องสงบสุข มิฉะนั้นยกเลิกแผนยุบสภา เตรียมให้แกนนำม็อบหลากสีเข้าพบเป็นรายต่อไป ฝ่ายนปช.ประกาศเดินหน้าชุมนุมต่อไปอีก อ้างนายกฯ ยังมีปัญหาเคลียร์ไม่ได้กับพวกเสื้อเหลือง ตั้งท่าไม่ยอมรับข้อหาก่อการร้าย ขณะที่อธิบดีดีเอสไอย้ำจะแจ้งข้อหาก่อการร้ายกับ 9 แกนนำ โฆษกศอฉ.กร้าว แผนปรองดองของนายกฯ ไม่เกี่ยวกับศอฉ. สั่งเพิ่มความเข้มในการตั้งด่าน เชื่อจะมีการลักลอบขนอาวุธออกจากที่ชุมนุม

-มาร์คจี้แดงเลิก-ไม่งั้นไม่ยุบ

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่า เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ค. นายกฯ เดินทางกลับไปพำนักที่บ้านพักในซอยสุขุมวิท 31 เช้าวันเดียวกันนี้ นายกฯ เดินทางเข้ามายังอาคารรัฐสภา เมื่อเวลา 08.20 น. และตอบคำถามถึงการกำหนดวันยุบสภา ว่า "เรื่องนี้เขาคำนวณได้อยู่แล้ว" เมื่อถามย้ำว่าวันเวลาเป็นไปตามที่นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ คนสนิท แถลงใช่ หรือไม่ (ระหว่างวันที่ 15-30 ก.ย.) นายอภิสิทธิ์ หันมายิ้มพร้อมตอบรับว่า "ครับ"

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี กล่าวย้ำว่า มีความไม่สบายใจอย่างมากที่มีประชาชนแสดงความห่วงใย เรื่องการเสนอแผนปรองดองของตน ขอย้ำว่าแผนปรองดองดังกล่าวไม่มีตรงไหนที่จะไปนิร โทษกรรม หรือไม่ดำเนินคดีอาญาต่อพวกผู้ก่อ การร้าย และขบวนการล้มสถาบัน ซึ่งจะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด แกนนำนปช. จะต้องมอบตัวตามหมายจับ ขบวนการทางศาลต้องเดินหน้าต่อไป ขอย้ำอีกครั้งว่าหากแกนนำนปช.ไม่รับแผนปรองดอง ยังคงมีการชุมนุมต่อ ก็จะไม่มีการยุบสภา รัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานต่อไป ขณะเดียวกัน การดำเนินคดีกับผู้ก่อการร้ายจะต้องเดินหน้าต่อไปอย่างแน่นอน

-นัดหมอตุลย์เคลียร์ความรู้สึก

"ผมเข้าใจว่าการเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ การยุบสภาหรือไม่ยุบมันมีเงื่อนไขของมันเอง ใครจะมองว่าผมอ่อนแอ ผมก็เคารพ แล้วแต่ใครจะประเมิน อย่างกลุ่มหลากสี ผมก็จะเชิญน.พ. ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มหลากสีมาพูด คุยในวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.) ส่วนพันธมิตรฯ ก็ต้อง ดูท่าทีว่าจะมีแนวทางออกมาอย่างไร ผมคิดว่าสุดท้ายจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบ แก้ปัญหาความแตกแยก ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายมีเหตุผล แต่อาจเกิดความเข้าใจผิด จึงได้คิดข้อเสนอที่ดีที่สุดเพื่อรักษาบ้านเมือง หยุดยั้งขบวนการล้มเจ้า ไม่เป็นเหยื่อของพวกผู้ก่อการร้าย ผมขอย้ำว่าผมไม่ได้เจรจากับใคร แต่เป็นการเสนอแผนปรองดองให้ทุกกลุ่มเข้ามา" นายกฯ กล่าว

พิธีกรถามว่า ขณะนี้สังคมหวั่นเกรงว่าจะมีการสร้างบรรทัดฐานใหม่ พอเกิดความไม่พอใจ รัฐบาล ก็มีชุมนุมกดดันให้มีการยุบสภา นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่กลัว ขอย้ำว่าไม่ได้ยุบสภาตามคำเรียกร้อง ใครที่มีหมายจับเรื่องผู้ก่อการร้ายก็ต้องดำเนินคดีถึงที่สุด "ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่รับแผนปรองดองก็จะไม่มีการเลือกตั้ง ไม่ยุบสภา เพราะตรงนี้เป็นอำนาจของนายกฯ โดยตรง"

-ยุบสภา-ไม่คิดจะเป็นฝ่ายค้าน

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกระแสข่าวการนิรโทษกรรมนักการเมืองที่ถูกตัดสิทธิ์ว่า เรื่องนี้มีการพูดกันมากทั้งในสภาและนอกสภา กรรมการสมาฉันท์ฯ ของสภาก็ได้มีการพูดกันเรื่องนี้ เราจึงมาคิดว่าควรจะเอาปมความขัดแย้งมาวางบนโต๊ะและมาถกกันให้ขาด ว่ามีความเป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรมอย่างไร ไม่ใช่เอาปัญหาไปซุกไว้ใต้พรม ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป

เมื่อถามว่า หลังจากแกนนำมอบตัวและหากได้รับการประกันตัวแล้วไปก่อเหตุวุ่นวายอีก จะทำอย่างไร ขณะเดียวกัน หากมีการเลือกตั้งใหม่แล้วพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาล มีการเปลี่ยนคนทำคดีเหล่านี้ คนร้ายก็จะลอยนวล นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ความผิดเหล่านี้จะต้องเดินหน้าต่อไป ตนจะสู้ต่อ หากประชาชนสนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์ทำงาน การยุบสภาครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจเป็นฝ่ายค้าน ส่วนผู้ที่ทำผิดกฎหมายจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ได้ เป็นเรื่องของศาล ตนไม่สามารถตอบได้ ส่วนเรื่อง ที่ผู้ชุมนุมยังคงมีอาวุธอยู่นั้น ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่ดูแลอยู่บริเวณโดยรอบ หากเลิกชุมนุมเมื่อไหร่ เจ้าหน้าที่ก็จะเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ อย่างกรณีพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล มีหมายจับก็ต้องจับมาให้ได้

-ศอฉ.สกัดขนอาวุธพ้นม็อบ

เวลา 10.20 น. ที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถาน การณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ. แถลงว่า การประชุมศอฉ.ในช่วงเช้า มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ผอ.ศอฉ. เป็นประธานประชุม โดยศอฉ. มีการชี้แจงเรื่องยอดผู้ชุมนุมนปช.ขณะนี้มี 9,000-10,000 คน ในช่วงเช้ามี 5,000 คน สิ่งที่ทหารและตำรวจ ศอฉ.ดำเนินการอยู่คือยังกระ จายกำลังตั้งด่านลอยในด่านใหญ่ 6 ด่านรอบพื้น ที่แยกราชประสงค์ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมนำอาวุธสงครามออกนอกพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมายังมีการเก็บอาวุธ ยังมีกลุ่มก่อการร้ายพร้อมสร้างสถานการณ์อยู่ การตั้งด่านลอยเพื่อสกัดกั้นไม่ให้นำพาอาวุธออกนอกพื้นที่

"เจ้าหน้าที่รายงานทุกวันว่าจับได้วันละ 10-20 คน มีทั้งอาวุธที่เป็นระเบิด มีด อาวุธปืนอาก้า และในพื้นที่ชุมนุมยังมีคนส่วนหนึ่งที่ยึดอาวุธจากทหาร ตำรวจ ไปในวันที่ปฏิบัติภารกิจที่ผ่านมา มีการนำเอาไปโชว์บนเวที จนป่านนี้ยังไม่นำมาคืนให้กับเจ้าหน้าที่เลย" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ การประชาสัมพันธ์เข้าถึงกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตนมองว่าผู้ชุมนุมมีโอกาสรับข่าวสารน้อย ส่วนใหญ่รับฟังข้อมูลจากแกนนำ ทางศอฉ.พยายามส่งข้อความเข้าโทรศัพท์มือถือให้ผู้ชุมนุมเพื่อให้รู้ว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบหนึ่ง ตนจึงอยากเชิญชวนผู้ชุมนุมออกจาก พื้นที่ นายกฯ ประกาศแล้วว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่

-บี้นปช.ไม่มีทางเลือกแล้ว

เมื่อถามว่าจากแผนปรองดองแห่งชาติ 5 ข้อที่นายกฯ เสนอ ทางศอฉ.ประเมินว่าท่าทีของผู้ชุมนุมจะเป็นอย่างไรต่อไป พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกฯ ประกาศแผนปรองดองแห่งชาติ 5 ข้อกับคนไทยทั้งประเทศ เพื่อสร้างความปรองดองของคนทั้งชาติ ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มนปช. ซึ่งกลุ่มนปช.ไม่น่าจะมีทางเลือกมากนักและไม่มีสิทธิ์ต่อรองใดๆ แผนปรองดองแห่งชาติที่ประกาศไปไม่ได้หมายความว่าจะไม่สลายการชุมนุม การแก้ไขปัญหาว่าไปตามนโยบายรัฐบาล แต่ศอฉ.ยังรับผิดชอบการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นแผนปรองดองไม่ได้หมายความว่าจะไม่ดำเนินการกับผู้ชุม นุม หากยังไม่ออกจากพื้นที่

เมื่อถามว่าวันนี้ศอฉ.รอแค่วันเวลาที่เหมาะสมใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ช่วงนี้ยังอยู่ในงานมหามงคล ยังมีเวลาอีก 3-4 วัน แต่หลังจากจบงานมหามงคล แล้วค่อยมาหารือกัน เมื่อถามว่าศอฉ.มีแผนจะสลายการชุมนุม พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ ศอฉ.ไม่เกี่ยวข้องกับแผนปรองดองแห่งชาติ เนื่องจากเป็นภารกิจของรัฐบาล แต่ศอฉ.มีหน้าที่ดูแลพื้นที่ชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ต้องทำต่อไป ต้องแยกแยะบทบาทกัน

"วันนี้กลุ่มนปช.ไม่มีทางเลือกมากนัก ผู้ชุมนุมน้อยลง ฝนก็ตก เจ้าหน้าที่ปรับวงล้อมมากขึ้น นายกฯ เสนอแผนปรองดองแห่งชาติ นปช.จะตอบรับหรือไม่ ก็แล้วแต่นปช. จะเห็นว่านปช. พยายามเล่นคำ วันนี้นายกฯ ยื่นข้อเสนอที่มีความชัดเจนกำหนดวันเลือกตั้ง แต่นปช.พยายามพูดเพิ่มเติมว่าวันยุบสภาจะมีเมื่อไหร่ นปช.พยายามใช้คำพูดนี้เพื่อเป็นวาทะว่าได้รับชัยชนะแล้ว แต่สังคมคงรู้แล้วว่าใครกันแน่ที่มีแนวทางแก้ปัญหาบ้านเมือง ใครกันแน่พยายามหาจุดมาขยายเพื่อเป็นวาทกรรม" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

-ฝนหนักน้ำเจิ่งราชประสงค์

เมื่อเวลา 09.00 น. บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน บริเวณสี่แยกราชประสงค์ และพื้นที่ข้างเคียง มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ส่งผลให้สภาพเฉอะแฉะทั่วบริเวณ ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เลือกจะพักผ่อนอยู่ภายในเต็นท์และ ใต้ชายคาอาคารข้างเคียง เมื่อฝนหยุดทั้งหมด จึงออกมาช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดพื้นที่ ที่เหลือจับกลุ่มพูดคุยกันถึงท่าทีของรัฐบาล

ขณะที่บนเวที น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. ปราศรัยเรียกร้องว่า หากรัฐบาลต้องการ ปรองดอง ต้องถอนทหารออกนอกพื้นที่ และยก เลิกการประกาศใช้พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและพ.ร.ก.บริหารราชการในสถาน การณ์ฉุกเฉิน รวมทั้งยกเลิกการใส่ร้ายโจมตีคนเสื้อแดง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. ชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุมว่า วันนี้จะทดลองนำไม้พาเลตมาปูเพื่อยกระดับพื้น ป้องกันปัญหาน้ำท่วมขัง เนื่อง จากฝนที่ตกติดต่อหลายวัน ถ้าเราทดลองแล้วทำ ได้จะเร่งลงมือผลิต นอกจากนี้ ยังขอรับบริจาคเก้าอี้พับ ไม้พาเลต ไม้กระดานอัดแก้ปัญหาดังกล่าว

-เริ่มนับสอง-พอใจท่าทีปชป.

เวลา 11.20 น. แกนนำนปช. แถลงข่าวด้านหลังเวทีปราศรัย โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวถึงพรรคประชาธิปัตย์มีมติเห็นชอบกับข้อเสนอแผนปรองดอง 5 ข้อของนายอภิสิทธิ์ว่า เมื่อพรรคประชาธิปัตย์มีท่าทีเช่นนี้ นปช.พร้อมเริ่มต้นนับสองในการหาทางออกด้วยความปรองดองทันที วันนี้แกน นำจะหารือถึงแนวทางที่นำไปสู่บทสรุปคลี่คลายสถานการณ์ อาจยังไม่ได้ข้อสรุปเบ็ดเสร็จในวันนี้ เพราะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ เช่นเดียวกับรัฐ บาลและพรรคร่วมที่จะหารือวันที่ 7 พ.ค.ด้วย

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า การที่คนในพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ว่าคนเสื้อแดงไม่มีสิทธิ์ต่อรองหากไม่ยุติการชุมนม นายกฯ อาจไม่เจรจาและอาจไม่ยุบสภานั้น ขอให้รู้กาลเทศะ การพูดแบบนี้ไม่ได้สร้างบรรยากาศที่ดี และคนเสื้อแดงไม่แคร์เรื่องสลายการชุมนุม ดังนั้น อย่ามาขู่ และอยากให้รัฐบาลหาอะไรปิดปากพ.อ.สรรเสริญบ้าง ไม่รู้กาลเทศะ การเจรจากำลังเริ่มต้น ทั้งโลกกำลังขานรับ แต่ล่าสุดได้ข่าวว่าศอฉ.ระบุการปรองดองไม่เกี่ยวกับศอฉ. หากไม่ยุติการชุมนุมจะเข้าสลายการชุมนุม รัฐบาลจะเอาอย่างนี้ใช่หรือไม่ ฝากบอกพ.อ.สรรเสริญว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาการเมือง ผู้ที่ต่อสู้คือประชาชนกับรัฐบาลที่เห็นตรงกันว่าไม่ต้องการสูญเสีย ประชาชนจะคลี่คลายโดยสันติวิธี หากศอฉ.ไม่หยุด อยากถามรัฐบาลว่าจะเอาท่าทีไหน หรือพูดคุยไปและฆ่าไปด้วย หากจะพูดคุยรัฐบาลให้ว่ามา แต่ถ้าเอาแบบศอฉ. การเจรจายุติ คนเสื้อแดงจะได้รับมือรอการสลายต่อไป

-ไม่เห็นด้วยมีแต่วันเลือกตั้ง

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ขอให้ช่วยรักษาบรรยา กาศการปรองดองเอาไว้ คนเสื้อแดงตั้งแต่รับข้อเสนอปรองดองไม่เคยรุกล้ำที่ไหน ทั้งที่วันนี้มีคนตั้งใจจะไปยื่นหนังสือที่ช่อง 11 แต่ชะลอเอาไว้ หลายคนบอกว่าควรออกไปข้างนอก แต่แกนนำมีมติให้อยู่ในที่ตั้ง การขู่จะปราบ เพราะต้องการให้ออกไปข้างนอกอีกหรืออย่างไร คนเสื้อแดงพูดดีๆ ได้ แต่ขู่ไม่ได้ และหากใครเจอพ.อ.สรรเสริญ ช่วยเอาตั๋วสนามม้าไปยัดปากด้วย

เมื่อถามถึงนายกฯ ระบุช่วงเวลายุบสภาเป็นวันที่ 15-30 ก.ย. นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า แกนนำต้องหารือกัน แต่เห็นว่าวันยุบสภาน่าจะกำหนดแน่นอนได้ หากไม่สามารถระบุได้ ต้องชี้แจงเหตุ ผลมา แกนนำจะนำมาปรึกษากัน แต่หากบอกว่าจะมาสลายการชุมนุม ต้องหารือเรื่องเฉพาะหน้าก่อน ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ระบุว่าเห็นด้วยกับการกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ย. แต่เห็นด้วยเรื่องปรองดอง แต่รัฐบาลจะมาบอกให้ยุติการชุมนุมก่อนค่อยประกาศให้ชัดเจนไม่ได้ วันนี้รัฐบาลต้องนับหนึ่งให้ชัดเจนก่อน คนเสื้อแดงจึงจะนับสอง จากนั้นจึงจะเอาหนึ่งกับสองรวมกันเป็นสาม ไม่จำเป็นต้องถ่ายทอดสดการเจรจา หลังจากนั้นมีหน้าที่ชี้แจงประชาชนและสังคมได้รับรู้ว่า ทั้งสองฝ่ายเสนออย่างไร และร่วมพิจารณาด้วย

-โต้ต่อรองข้อหาก่อการร้าย

น.พ.เหวง กล่าวว่า วันนี้ ศอฉ.มีพฤติกรรมหักล้างของคำพูดของนายอภิสิทธิ์อย่างรุนแรง นายกฯ ต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง มิเช่น นั้น ศอฉ.จะกลายเป็นรัฐอิสระ ปฏิเสธสิ่งที่นายกเสนอระดับนโยบาย หากไม่มีการลงโทษ น่าสงสัยว่าวันนี้ใครกันแน่ที่มีอำนาจการบริหารแผ่นดิน คนเสื้อแดงรอดูว่าเรื่องดังกล่าว นายกฯ ไฟเขียวให้ศอฉ.ออกมาหรือไม่

นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำนปช. ปฏิเสธข่าวที่ระบุนปช.ยังไม่สรุปข้อตกลง เพราะต้องการต่อรองเรื่องข้อหาผู้ก่อการร้ายว่า ข้อมูลนี้ไม่เป็นความจริง การที่คนเสื้อแดงยังไม่สรุป เพราะต้องการความชัดเจนจากฝั่งรัฐบาล เนื่องจากวันนี้มีแค่พรรคประชาธิปัตย์ที่เห็นด้วยกับนายกฯ ส่วนพรรคร่วม จะทราบความชัดเจนวันที่ 7 พ.ค. การระบุว่าคนเสื้อแดงดึงเรื่องเพื่อต่อรองไม่เป็นความจริง แต่ต้องการพิสูจน์ว่าฝ่ายไหนที่กระทำความผิดโดยเฉพาะการออกคำสั่งฆ่าประชาชน ขอให้ดำเนินคดีทั้งสองฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา

-นปช.ร้องศาลถอนหมายจับ

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดา ภิเษก นายคารม พลทะกลาง ทนายผู้รับมอบอำนาจจากนายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนเพื่อมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับ นายวีระ มุสิกพงศ์ กับพวกที่เป็นแกนนำและแนวร่วม นปช.รวม 16 คน โดยศาลได้เปิดห้องพิจารณาคดี 807 ไต่สวนพยานฝ่ายผู้ร้อง 2 ปาก คือนายคารม พลทะกลาง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ร้อง และนายสุวิทย์ ทองนวล ผู้ช่วยนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส. สัดส่วน พรรคเพื่อไทย

คำร้องสรุปว่า ตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถาน การณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 วันที่ 7 เม.ย. 2553 และคำสั่งที่พิเศษ 1/2553 จัดตั้งศูนย์อำนายการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยมอบหมายให้พนักงานสอบสวน อาศัยอำนาจตาม มาตรา 11 (1) ประกอบมาตรา 12 ของ พ.ร.ก.บริหารราช การในสถานการณ์ฉุกเฉิน ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุมัติหมายจับผู้ร้องทั้งหมด ถือเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากก่อน หน้านี้เคยมีผู้ยื่นคำร้องและศาลปกครองกลางได้รับวินิจฉัย ในประเด็นพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 บังคับใช้ได้หรือไม่เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ออกตาม มาตรา 218 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 ซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว

รอท่าที - แกนนำนปช.แถลงข่าวยืนยันยังจะชุมนุมต่อไป เพื่อรอดูท่าทีและความชัดเจนจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าจะกำหนดยุบสภาวันไหน หลังจากนายอภิสิทธิ์เชิญทั้งแกนนำพันธมิตรฯ และกลุ่มเสื้อหลากสีเข้าหารือ



-สุนัย-อภิวันท์ช่วยเบิกความ

อีกทั้งการที่นายกรัฐมนตรีประกาศสถาน การณ์ฉุกเฉิน ยังขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณา จักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 184 ที่ให้อำนาจนายกรัฐมนตรีใช้อำนาจตราพระราชกำหนดเฉพาะในกรณีเร่งด่วน แต่ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏว่ามีสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง เนื่องจากสภาวการณ์ในกรุงเทพมหานคร แม้จะมีประชาชนนับแสนคนออกมาชุมนุมเรียกร้อง แต่ไม่พบว่ามีการกระทำผิดกฎหมายอาญาร้ายแรง ที่จะนำไปสู่การประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เนื่องจากรัฐบาลยังสามารถควบคุมสถาน การณ์ได้โดยใช้อำนาจตามพ.ร.บ.ความมั่นคงภาย ในราชอาณา จักร พ.ศ.2551

นอกจากนี้ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงของนายกรัฐมนตรี ยังไม่ชอบตามคำนิยามคำว่า "สถานการณ์ฉุกเฉิน" ตามมาตรา 4 แห่งพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุก เฉิน พ.ศ.2548 ดังนั้น ที่ศาลพิจารณาออกหมายจับผู้ร้องทั้งหมดตามคำร้องพนักงานสอบสวนตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีจึงเป็นการออกหมายจับโดยไม่มีกฎหมายรองรับ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมผู้ร้องจึงขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับผู้ร้องทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายทนายความ นำนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย และพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นพยานขึ้นไต่สวนอีก 2 ปาก เสร็จแล้ว ศาลนัดฟังสั่งคดีในวันที่ 11 พ.ค. เวลา 09.00 น.

-สภาถกกระทู้สดเรื่องม็อบ

เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภา ผู้แทนราษฎร มีนายชัย ชิดชอบ ประธานสภา ผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณากระทู้ถามสดเรื่องการบริหารราชการผิดพลาดในการใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมจนมีเหตุให้ประชาชนเสียชีวิต ของนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ถามต่อนายอภิสิทธิ์ โดยนายชัย แจ้งว่ากระทู้ดังกล่าวค้างมา 2 สัปดาห์ เนื่องจากรองเลขาธิการนายกฯ มีหนังสือแจ้งมติครม.ว่าเนื่องจากสถานการณ์ยังมีเหตุฉุกเฉินร้ายแรง หากมีกระทู้ถามเกี่ยวกับความปลอดภัยร้ายแรง จะขอเลื่อนการตอบกระทู้ออกไปก่อน ซึ่งวันนี้มีหนังสือแจ้งขอเลื่อนมาอีกครั้งเลขที่ นร 0404 /4604 ลงวันที่ 6 พ.ค. จึงแจ้งให้ทราบ

นายวิชาญ กล่าวว่า นายกฯ แถลงโรดแม็ปปรองดอง 5 ข้อเมื่อคืนวันที่ 3 พ.ค. ทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว เพราะเริ่มมีการปรองดอง ดังนั้น กระทู้เรื่องการบริหารที่ผิดพลาดจนทำให้มีคนตาย ควรนำมาพูดกันว่าเป็นเพราะอะไร ญาติผู้เสียชีวิตถามมามาก ตนจึงต้องสอบถาม แต่หากนายกฯ ไม่ตอบวันนี้ ตนไม่ติดใจ ขอให้บันทึกไว้

-พท.กล่าวหาหนักร.พ.จุฬาฯ

จากนั้นพิจารณากระทู้ถามสดของน.พ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เรื่องการธำรงไว้ซึ่งความเป็นกลางของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ถามนายกฯ ว่า มีการเผยแพร่ภาพผู้ป่วยที่ต้องระหกระเหิน ซึ่งภาวนาว่าเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุ อย่าเกิดจากความจงใจ ได้ข่าวมาว่ามีการโยกย้ายผู้ป่วยก่อนที่นายพายัพ ปั้นเกตุ จะบุกโรงพยาบาล 2 วันแล้วใช่หรือไม่ เพื่อให้รัฐบาลเตรียมประกาศกฎอัยการศึกใช่หรือไม่ การพูดอะไรต้องไม่ให้คนเกลียดชังกัน โดยเฉพาะศอฉ. ตนเรียกว่า ศูนย์อับเฉา ที่ชอบประกาศอยู่เสมอว่าต้องใช้วิธีเด็ดขาดแม้จะสูญเสียบ้างก็ต้องยอม ขณะที่แพทย์ควรหลีกเลี่ยงก้าวก่ายทางการเมือง จึงอยากถามว่าที่ผ่านมามีทหารกี่คนเข้าไปอยู่บริเวณโรงพยาบาลจุฬาฯ และตึกชาญอิสสระ ผู้ที่เสียชีวิตจากการย้ายโรงพยาบาล รัฐบาลจะมีมาตรการเยียวยาอย่างไร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ชี้แจงว่า ได้รับการยืนยันว่าโรงพยาบาลยึดหลักกาชาดมาตลอด ไม่ลำเอียง เป็นอิสระ เป็นเอก ภาพ และหลักความเป็นสากล ฉะนั้น การดำเนินการของร.พ.จุฬาฯ ได้ทำอย่างเหมาะสม เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นอันตราย ตามมาตรฐานวิชาชีพและสถานพยาบาลนั้นๆ ขณะนี้เมื่อมีความพร้อมจะเปิดให้บริการในบางแผนกก็จะเปิดต่อไป ทั้งนี้ ได้รับรายงานว่ามีการย้ายผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.ก่อนที่แกนนำนปช.จะบุกจริง เนื่องจากมีเสียงคล้ายระเบิดใกล้ร.พ. ขณะที่นปช.ยืนยันว่าไม่รับรองความปลอดภัย และได้รับรายงานขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย 4 ราย คือที่ร.พ. เกษมราษฎร์ ร.พ.หัวเฉียวและร.พ.กลาง ซึ่งเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และร.พ.สมุทรปราการ เสียชีวิตจากโรคเบาหวาน โรคหัวใจและไตแทรก ซ้อน ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขประกาศหลายครั้งแล้วว่ายินดีดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงที่ย้ายไปรักษาตัวอยู่ในร.พ.เอกชน 13 แห่งด้วย ส่วนผู้เสียชีวิตจะมีศูนย์เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดูแลอยู่แล้ว

-เทือกลุยอัด-พายัพตัวต้นเหตุ

นายสุเทพ ชี้แจงว่า เนื่องจากผู้ชุมนุมบุกเข้า ไปยึดสี่แยกราชประสงค์ ศอฉ.จึงส่งกำลังคุ้ม ครองประชาชนที่อยู่บริเวณสีลม จากนั้นวันที่ 22 เม.ย.มีกลุ่มคนติดอาวุธยิงใส่รถไฟฟ้า ครั้งแรก 3 ลูก ลูกแรกยิงจากพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 และยิงไปสี่แยกศาลาแดงอีก 2 ลูก ศอฉ.จึงสั่ง การให้ช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่งร.พ. และส่งเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปบินตรวจตรา ซึ่งศอฉ. เกรงว่าโรงพยาบาลจุฬาฯ อาจไม่ปลอดภัย จึงประสานกับโรงพยาบาลเพื่อจัดกำลังเข้าไปอารัก ขา แต่ร.พ.ปฏิเสธ อ้างว่าต้องการรักษาความเป็น กลาง ศอฉ.จึงเคารพการตัดสินใจ ไม่ส่งกำลัง ทหารเข้าไปในร.พ. มีเพียงตำรวจท้องที่อยู่หน้า ร.พ.เท่านั้น

นายสุเทพ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากนายพายัพ ปั้นเกตุ บุกรุกเข้าไปข่มขู่จนสร้างความหวาดกลัวให้กับแพทย์และพยาบาล เป็นเหตุผลสำคัญที่ต้องย้ายผู้ป่วย ไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลหรือโรงพยาบาล แต่เขารู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะมีคนของนปช.เดินเข้าไปข่มขู่ เป็นการตัดสินใจโดยอิสระของพยาบาลไม่เกี่ยวกับศอฉ. กรณีการให้ความเห็นของพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เป็นเพียงความเห็นและยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่ทราบตามสื่อว่าพบสารไนเตรตจาก ชั้น 7 ของโรงพยาบาลเท่านั้น

-สัณฐานรุดเยี่ยมตร.ทัวร์คว่ำ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท. สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. มีบันทึกถึง รอง ผบช.น. และ ผบก.ทุกนายทราบ ความว่า "ด้วยข้าพเจ้าเดินทางไปราชการในพื้นที่จว.สุราษฎร์ ธานี ในระหว่างวันที่ 6-7 พ.ค. ดังนั้น ระหว่างที่ข้าพเจ้าเดินทางไปราชการดังกล่าว พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. จะเป็นผู้รักษาราชการแทนตาม ม.72 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ จึง แจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นอกจากนี้ ผบช.น.ยังได้อนุมัติให้ พล.ต.ต. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบก.อคฝ. และ พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ผกก.สน.จระเข้น้อย ร่วมเดินทางไปด้วย โดยระบุว่า ด้วยเมื่อวันที่ 4 พ.ค. เวลา 04.15 น. เกิดเหตุรถทัวร์กองร้อยควบคุมฝูง ชน ภ.จว.ตรังพลิกคว่ำ บริเวณ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างเดินทางกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ กองร้อยควบคุมฝูงชนในพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ข้าราชการตำรวจได้รับบาดเจ็บรวม 33 นาย รักษาพยาบาล ร.พ.บ้านนาสาร 11 ราย และ ร.พ.บ้านนาเดิม 22 ราย โดยมีอาการสาหัส 2 ราย นำส่ง ร.พ.สุราษฎร์ธานี โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรักษาพยาบาล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจจึงอนุมัติให้เดินทางไปราชการในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีเพื่อตรวจเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว"

-พระเทพฯเสด็จร.พ.จุฬาฯอีกครั้ง

เมื่อเวลา 10.10 น. ศ.น.พ.อดิศร ภัทรดูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เปิดเผยว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมายังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อเยี่ยมดูอาการผู้ป่วย และทรงตรวจเยี่ยมห้องยาและห้องฉุกเฉิน ทั้งนี้ ทรงรับสั่งให้เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาลทุกคนช่วยกันดูแลคนไข้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ร.พ. จุฬาลงกรณ์ เปิดให้บริการเต็มรูปแบบแล้ว ทำให้มีผู้ที่มาเข้ารับบริการทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก แม้ว่าในช่วงเช้าจะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก

ศ.น.พ.อดิศร กล่าวว่า ในวันที่ 8-9 พ.ค.นี้ จะเริ่มเปิดให้บริการคลินิกนอกเวลาอีกครั้ง และจะประเมินสถานการณ์ว่าจะเปิดต่อเนื่องในวันที่ 10 พ.ค.หรือไม่ ในส่วนของผู้ป่วยที่ส่งต่อกลับมารักษาที่ร.พ.จุฬาฯ จนถึงวันที่ 5 พ.ค. มีจำนวน 60 คน ซึ่งย้ายไปรักษาที่อาคารด้านหลังอังรีดู นังต์ ส่วนจะย้ายไปที่ตึกภปร.และตึกสก.เมื่อใด คงต้องพิจารณาความพร้อมและสถานการณ์ก่อน เพราะการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับผู้ป่วยร.พ.จุฬาฯ ที่ส่งต่อไปโรงพยาบาลอื่นแล้วเสียชีวิตนั้น ทางโรงพยาบาลจะมอบเงินช่วยเหลือรายละ 10,000 บาท ทั้งนี้ สำหรับการทูลเชิญสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกฯ โรงพยาบาลจะต้องมีความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยก่อนจึงจะทูลเชิญกลับมารักษา

-ผู้ป่วยเก่า-ใหม่กลับมาใช้บริการ

"วันนี้เป็นการเปิดให้บริการผู้ป่วยนอก ห้อง ฉุกเฉิน ห้องคลอด และห้องเอกซเรย์ โดยมีผู้ ป่วยทั้งเก่าและใหม่ มาติดต่อขอรับบริการจำนวนมาก แต่ตึกผู้ป่วยใน 2 อาคาร ยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ คาดว่าการให้บริการจะกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังการชุมนุมยุติลง ซึ่งล่าสุดกำลังปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัย และกล้องวงจรปิดรอบตึก" ศ.น.พ.อดิศร กล่าว

ด้านนางสมศรี ตันติไพบูลย์วุฒิ หัวหน้ากลุ่มสังคมจิตวิทยา คลินิกนิรนาม สภากาชาดไทย กล่าวว่า คลินิกนิรนามปิดให้บริการนาน 7 วัน ก่อนที่จะเปิดให้บริการวันนี้เป็นวันแรก เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ป่วยเดินทางมาที่คลินิกนิรนามด้วยความยากลำบาก ผู้ป่วยที่จะมาเจาะเลือดจะต้องขออนุญาตการ์ดนปช.ก่อน จึงจะสามารถเข้ามาที่คลินิกได้ ทำให้ผู้ที่จะมาเจาะเลือดรู้สึกอายที่จะบอกว่า มาเจาะเลือดตรวจเชื้อเอชไอวี ที่น่าเป็นห่วงมากกว่านั้น คือเกรงว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้รับยาหรือขาดยาจะเกิดปัญหาการดื้อยาขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่า มีผู้นำเลือดมาตรวจพิสูจน์น้อยลง จากเดิมที่มีผู้มาขอรับบริการตรวจเลือดวันละ 300 หลอด ลดลงเหลือ 100 หลอดต่อวัน หรือบางวันไม่มีผู้มาใช้บริการเลย

-พธม.จี้มาร์คโละโรดแม็ป

เวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันเดียวกันนี้ เวลา 15.30 น. ตัว แทนกลุ่มพันธมิตรจะมาพบกับตนเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงทางออกของประเทศ ส่วนกลุ่มเสื้อหลากสีจะพบกันในเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งรุ่น 1 และรุ่น 2 อาทิ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายพิภพ ธงไชย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข นายสุริยะใส กตะศิลา อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 9 ประเด็นการจัดทำแผนโรดแม็ปปรองดองแห่งชาติ กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ 14 พ.ย. ซึ่งพันธ มิตรฯ เห็นว่าขาดความชัดเจน รัฐบาลทำตัวเหนือปัญหา ทั้งที่ประกาศมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวในกลุ่มผู้ชุมนุม รัฐบาลควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ การประกาศยุบสภาถือเป็นการทำลายกระบวน การปฏิรูปประเทศ พันธมิตรคาดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นผลมาจากการเจรจาลับระหว่างอดีตนายกฯ กับรัฐบาล รัฐบาลจะได้ประโยชน์จากการใช้งบประมาณโยกย้ายข้าราชการ รวมถึงแก้ไขรัฐธรรม นูญ และหาทางช่วยไม่ให้พรรคประชาธิปัตย์ถูก ยุบ สอดคล้องกับแผนข้อที่ 5 ของนายกฯ จึงเรียกร้องให้นายกฯ ทบทวนยกเลิกแผนดังกล่าว มิฉะนั้นควรลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนี้พันธ มิตรจะติดตามสถานการณ์เรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

-ประณาม-ทำอันตรายต่อชาติ

"เราขอประณามการประกาศวันเลือกตั้งเป็น การล่วงหน้าว่า เป็นการทำลายกระบวนการปฏิ รูปประเทศไทย เปิดโอกาสให้ขบวนการก่อการร้ายขยายตัวไปทั่วประเทศ" นายสุริยะใสกล่าว

ด้านพล.ต.จำลอง กล่าวว่า การที่นายกฯ ใช้มือเปล่าต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายโดยใช้แผนปรองดองนั้น ถือว่ายอมทำตามคำขู่ ทำให้การปรองดองครั้งนี้ เป็นอันตรายร้ายแรงต่อประเทศชาติอย่างมาก ดังนั้น นายกฯ ต้องปราบปรามผู้ก่อการร้าย ส่วนจะนัดชุมนุมใหญ่หรือไม่นั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ยังไม่กำหนด แต่จะรอดูท่าทีจากนายกฯ ก่อน และจะส่งตัวแทนเข้าหารือกับนายอภิสิทธิ์ด้วย หากเชิญมาเพื่อชี้แจงในแผนปรองดอง

ต่อมาเวลา 16.25 น. กลุ่มพันธมิตรฯ นำโดย นายพิภพ ธงไชย และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้เข้าพบนายอภิสิทธิ์ ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1 เพื่อพูดคุยถึงกรณีนายกฯ เสนอโรดแม็ป 5 ข้อ และจะเลือกตั้งใหม่วันที่ 14 พ.ย. โดยใช้เวลาพูดคุยนานเกือบ 2 ชั่วโมง

-บอกสนธิห่วง-ก่อการร้ายลาม

จากนั้นนายปานเทพ เปิดเผยว่า เราชี้แจงจุดยืนว่าการยุบสภาไม่ใช่ทางออก โดยขอให้ทบ ทวนกระบวนการคิดและการเจรจากับกลุ่มที่ยัง มีปัญหา รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมาย เราเห็นว่าถ้ายุบในช่วงนี้ ปัญหาจะบานปลาย ซึ่งนายกฯ ได้ยืนยันเรื่องการเจรจาระหว่างพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับรัฐบาลว่า จะไม่ทำในสิ่งที่ขัดแย้งกับสิ่งที่เคยพูดไว้เด็ดขาด ทั้งการนิรโทษกรรม หรือการจับมือตั้งรัฐบาลแห่งชาติ แต่จะยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก นายกฯระบุว่าสิ่งที่พันธ มิตรฯ เป็นห่วง เมื่อถึงเวลาที่ประเทศอยู่ในภาวะไม่ปลอดภัย ไม่มีความสงบและประชาชนไม่ปลอดภัย จะไม่ยุบสภา และยืนยันว่าจะไม่แก้รัฐ ธรรมนูญที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง โดยเฉพาะมาตรา 237 เรื่องการยุบพรรค ดังนั้น ขอให้ เลิกเป็นห่วงว่าการเจรจาต่อรองยุบสภาเพื่อแก้รัฐ ธรรมนูญ เพื่อฟอกความผิดของพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่เกิดขึ้น

นายปานเทพ กล่าวว่า ตนได้แจ้งข้อกังวลของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ให้นายกฯ ทราบว่า การประกาศยุบสภาล่วงหน้า อาจทำให้ปัญหาการก่อการร้ายและการติดอาวุธคุกคามประชาชนมีมากขึ้น อีกทั้งเป็นห่วงว่าข้าราชการจะใส่เกียร์ว่าง เพราะแม้แต่คดีของนายสนธิก็ยังไม่คืบหน้า นอกจากนี้ยังฝากเรื่องการปฏิรูปการเมือง เช่น การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น ความยากจน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม ต้องใช้เวลาเป็นปี ไม่ใช่แค่ 4 เดือนครึ่งแล้วจะแก้ได้ รวมทั้งการใช้สื่อของรัฐ ต้องทำให้ประชาชนศรัทธาและให้ข้อเท็จจริงกับประชาชนมากที่สุด ส่วนการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรฯ ขึ้นอยู่กับมติของแกนนำ

-เชื่อปฏิรูปสังคมไม่ทัน 14 พ.ย.

ด้านนายพิภพ กล่าวว่า การพูดคุยวันนี้ไม่ใช่การเจรจา เป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูล นายกฯ ไม่ได้ก้าวก่ายในคำแถลงของกลุ่มพันธมิตรฯ ทั้งนี้ เราอธิบายความกังวลใจ โดยเฉพาะการปฏิรูปสังคมว่าช่องว่างก่อนถึงวันที่ 14 พ.ย. นี้ จะดำเนินการไม่สำเร็จ ซึ่งนายกฯ รับปากว่าจะหาทางสร้างกลไกปฏิรูปใหญ่ให้เดินหน้าต่อไป แม้รัฐบาลชุดนี้จะพ้นวาระไป ส่วนข้อเสนอของเราที่ให้บังคับใช้กฎหมาย ไม่ได้หมายความว่าต้องทำให้เกิดการสูญเสีย แต่ต้องทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการพูดคุยกันภายในกลุ่มพันธ มิตรฯ จะกำหนดอีกครั้ง

แหล่งข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ เผยว่า จากการที่ส.ส.เข้าพูดคุยกับนายกฯ รับรู้ได้ว่านายกฯ มีความกังวลเรื่องโรดแม็ปเป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งเกรงว่าอาจจะไม่ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรไม่เห็นด้วย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะโรดแม็ปดังกล่าว กำหนดวันยุบสภาภายใน 4 เดือน หลังพ.ค.นี้ อาจกระทบกับการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล หัวหน้าพรรคยังหนีคดีอยู่ต่างประเทศ ดังนั้น หากมีการเลือกตั้งขึ้นจริง ก็มั่นใจว่าพรรคการ เมืองใหม่จะไม่สามารถแย่งจำนวนส.ส.ของพรรคไปได้ เพราะแม้จะมีฐานเสียงเดียวกัน แต่ก็ไม่น่าจะมีความพร้อมเรื่องตัวผู้สมัคร และที่สำคัญ การที่นายกฯ โฟนอินเข้ารายการสภาท่าพระอาทิตย์ เมื่อเช้าวันที่ 6 พ.ค. ถือว่าสามารถทำความเข้าใจกับสมาชิกกลุ่มพันธมิตร ที่ส่วนใหญ่ล้วนติดตามข่าวสารทางเอเอสทีวี ไม่ได้ดูข่าวทางช่องทีวีธรรมดา อาจทำให้ข่าวสารของรัฐเข้าไม่ถือกลุ่มคนพวกนี้ หลังจากนายกฯ ได้ชี้แจง ก็ได้รับเสียงตอบรับว่าเข้าใจในแผนโรดแม็ปมากขึ้น

-เหลิมจวกดีเอสไอน่าเกลียด

ที่รัฐสภา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีดีเอสไอระบุผู้ต้องหาสารภาพจะยิงวัดพระแก้วว่า แม้จะคิดร้ายจริงๆ ก็ไม่บอก ภาษาตำรวจเขาเรียกน้ำเต้า ไม่มีผู้ต้องหาคนไหนมารับสารภาพว่าจะยิงวัดพระแก้ว ตนทำคดีมา 30 ปีไม่เคยพบแบบนี้ เป็นการสร้างเรื่องแรงให้กระทบจิตใจประชาชน ดีเอสไอยุคนี้น่าเกลียด

เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุมของกลุ่มพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน หรือกลุ่มคนเสื้อหลากสี และกลุ่มเฟซบุ๊กต้านการยุบสภา ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิว่า มีจำนวนผู้ชุม นุมบางตา เนื่องจากน.พ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มไม่ได้มาปราศรัย โดยเดินสายไปปราศรัยที่สะพานหิน จ.ภูเก็ต ส่วนกิจกรรมบนเวทีรถหกล้อติดเครื่องขยายเสียง มีแกนนำสับเปลี่ยนขึ้นปราศรัย ร้องเพลงปลุกใจอย่างต่อเนื่อง และนำป้ายผ้าระบุข้อความ "สิ่งเดียวที่คนชั่วต้องการเพื่อชัยชนะก็คือ การเห็นคนดีนิ่งเฉย" มาติดไว้ด้วย

-ม็อบหลากสียันต้านยุบสภา

นายกมล ยกย่องสกุล ผู้ประสานงานกลุ่ม เปิดเผยกรณีนายอภิสิทธิ์ให้กลุ่มคนเสื้อหลากสีและกลุ่มพันธมิตรฯ ไปพบเพื่ออธิบายถึงโรด แม็ปทั้ง 5 ข้อว่า ต้องรอดูท่าทีหลังจากน.พ. ตุลย์ นำแกนนำเข้าพบนายกฯ ในวันที่ 7 พ.ค. ก่อน จากนั้นน.พ.ตุลย์จะกลับมาชี้แจงให้ประชา ชนทราบ ส่วนสถานที่นัดพบยังไม่ระบุ ต้องรอ นายกฯ นัดอีกที

"ที่ชัดเจนคือทางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับการนิร โทษกรรม วันนี้ชัดเจนว่าเราไม่ใช่กลุ่มที่จัดตั้งมา เพราะเราไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับนายกฯ ทุกเรื่อง เรายังแสดงจุดยืนเดิมคือต้องการความสงบกลับคืนสู่สังคม และไม่ต้องการให้ยุบสภา โดยวันที่ 7 พ.ค. เราจะชุมนุมแสดงพลังที่อนุสาวรีย์ชัยสมร ภูมิ ส่วนวันเสาร์ที่ 8 พ.ค. จะไปแสดงพลังที่วงเวียนใหญ่ ส่วนการชุมนุมใหญ่นั้น เรากำหนดวันเสาร์ที่ 15 พ.ค. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า แต่ต้องดูท่าทีของกลุ่มคนเสื้อแดงอีกครั้ง ถ้ายุติการชุมนุมก่อน เราจะยุติเหมือนกัน โดยน.พ.ตุลย์ จะไปมอบตัวตามที่ประกาศไว้อย่างแน่นอน" ผู้ประ สานงานกลุ่มกล่าว

-ม็อบยกพื้นหนีน้ำท่วมขัง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสี่แยกราชประสงค์ว่า เวลา 14.00 น. กลุ่ม นปช.เริ่มปูไม้พาเลท ยกระดับพื้นขึ้นสูง 1 คืบ เพื่อหนีน้ำท่วมหลังจากต้องเผชิญกับฝนที่ตกกระหน่ำติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ความเป็นอยู่ของผู้ชุมนุมยากลำบาก นอกจากนั้นยังมีผู้นำที่นอนนุ่นแบบพับ 3 ท่อนมาบริจาคจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ผู้ชุมนุมได้ใช้นอน โดยผู้ชุมนุมได้เข้าช่วยกันคนละไม้คนละมือ คาดว่าในช่วงค่ำจะปูพื้นให้ผู้ชุมนุมได้ครบทั่วบริเวณ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ฝนที่ตกลงมาในช่วง 3-4 วัน ทำให้มีน้ำท่วมขังตามถนนที่ผู้ชุมนุมพักอาศัย ส่งผลให้น้ำดังกล่าวไหลไปรวมกับเศษอาหารและขยะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง รวมถึงมีแมลงวันจำนวนมากบินตอมตามแหล่งทิ้งขยะและเข้าไปตามเต็นท์ของผู้ชุมนุม นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ประจำเต็นท์พยาบาลในที่ชุมนุม ระบุว่าในช่วงที่มีฝนตกลงมามาก ผู้ชุมนุมเริ่มมีอาการป่วยเป็นโรคทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัด เจ็บคอ หรือท้องเสีย โดยเต็นท์พยาบาลมีเวชภัณฑ์เพียงพอต่อความต้องการของผู้ป่วย หากรู้สึกไม่ดีสามารถเข้ามานอนพักรักษาตัวภายในเต็นท์ได้ ซึ่งตั้งแต่เริ่มชุม นุมมาเจ้าหน้าที่พยาบาลยังไม่พบอาการแพ้ยาของผู้ป่วย

-เย้ยมีพธม.มาแข่งไล่นายกฯ

เวลา 15.30 น. นายณัฐวุฒิกล่าวถึงท่าทีของนายอภิสิทธิ์ ที่เรียกกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าไปปรึกษาที่ห้องทำงาน อาคารรัฐสภา หลังจากกลุ่มพันธ มิตรฯ ออกแถลงการณ์คัดค้านการยุบสภา ไม่เห็นด้วยกับแนวทางปรองดอง พร้อมเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ลาออกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นว่าขบวนการนับสองยังไม่อาจเริ่มต้นขึ้นได้ เพราะ มีคนคัดค้าน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ต้องไปจัดการกับกลุ่มพันธมิตรฯ ให้เรียบร้อย และหากนายกฯ พร้อมจะหักกับกลุ่มพันธมิตรฯ ในวันนี้ ช่วงเย็น แกนนำจึงจะเริ่มนับสอง ปรึกษากันเพื่อหาทาง ออกด้วยความปรองดอง ขอถามว่าคนเสื้อแดงทำอะไรผิด เพราะขับไล่รัฐบาลมาดีๆ อยู่ๆ มีคนอื่นจะมาแย่งไล่แทนได้อย่างไร

นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธานนปช.ให้ สัมภาษณ์ถึงนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบ สวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม แถลง ข่าวเมื่อช่วงเช้าระบุหากแกนนำ นปช.ไม่มอบตัวในวันที่ 15 พ.ค.ตามที่เคยประกาศไว้ ดีเอสไอจะดำเนินการตามแนวทางที่เตรียมไว้ว่า การที่แกนนำเคยประกาศจะเข้ามอบตัวในวันที่ 15 พ.ค.นั้น เพราะคิดว่าการชุมนุมจะจบลงก่อน แต่หากการชุมนุมยังไม่จบลงจะยังไม่ไปมอบตัว โดยคดีที่จะมอบตัวในวันนั้นเป็นคดีผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่คดีก่อการร้าย เพราะวันนี้คดีก่อการร้ายยังไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ เท่าที่ทราบก่อนที่จะ ไปขอหมายจับนายธาริตปิดห้องคุยกับอธิบดีศาลอาญา แต่เมื่อคดีไม่มีหลักฐานจึงออกมาบอกว่าให้ใช้ตามหมายจับเดิม ไม่มีในกระบวนการยุติธรรมไหนที่แต่ละความผิดจะมีหมายจับเดียวกัน ดังนั้น หากแกนนำไปมอบตัวตามหมายจับความผิด พ.ร.ก. จะมาแจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้ายไม่ได้

-อ้างรอบคอบ-ไม่รีบสลายตัว

นายจตุพรกล่าวว่า นอกจากนี้ การดำเนินการของนายธาริตไม่ถูกต้องอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยการสืบสวนสอบสวน เท่าที่ทราบกรณีจับชาย 2 คนและหญิง 1 คนที่ย่านอ่อนนุช มีการซ้อมผู้ต้องสงสัยให้รับสารภาพและใส่ร้ายคนเสื้อแดง และนายธาริตถือเป็นผู้ที่มีส่วนได้เสียและมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับเหตุการณ์ เนื่องจากเป็นหนึ่งใน ศอฉ.ที่เคยสั่งปราบปรามประชาชน ทำ ให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงไม่มีความชอบธรรมจะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน

นายจตุพรกล่าวถึงกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาต่อต้านโรดแม็ป 5 ข้อที่นายอภิสิทธิ์เสนอว่า นายอภิสิทธิ์กับกลุ่มพันธมิตรฯ ต้องไปว่ากันว่าจะเอาอย่างไร ส่วนคนเสื้อแดงกับรัฐบาลนั้น หากรัฐบาลประกาศความชัดเจนคนเสื้อแดงพร้อมเดินหน้าเจรจาอย่างเปิดเผยในรายละเอียด คนเสื้อแดงต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เพราะที่ผ่านมาโดนเบี้ยวมาหลายครั้ง กลัวว่าจะเกิดขึ้นอีก ที่สำคัญ คือประชาชนวันนี้ไปไกลแล้ว ทุกคนต้องการ สิ่งที่ดีที่สุดเพื่อบ้านเมือง ดังนั้น คนเสื้อแดงจึงไม่ผลีผลามตัดสินใจ การจะทำอะไรต้องรอบคอบ เพราะไม่มีสิทธิ์รู้เลยว่าระหว่างทางกว่าจะถึงการยุบสภาจะมีอะไรเกิดขึ้น

-จี้สัตยาบันยอมรับผลเลือกตั้ง

รองประธาน นปช.กล่าวว่า วันนี้คนในพรรคประชาธิปัตย์มีบางกลุ่มไม่อยากให้เดินหน้าตามโรดแม็ป บางกลุ่มต้องการเอาคืนในภายหลัง จึงไม่มั่นใจว่าระหว่างทางที่คนเสื้อแดงยุติการชุมนุมโดยไม่พิจารณาอะไรนั้น จะมีบางกลุ่มมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลไม่ยุบสภาอีกหรือไม่ หรือระหว่างที่เจรจากันมีการส่งซิกให้ยุบพรรค แล้วโรดแม็ปจะมีความหมายต่อไปหรือไม่ แต่ละจุดมีปมซ่อนเงื่อนอยู่จากความไม่ชัดเจนของรัฐบาล ดังนั้น จึงต้องรอบคอบ ความจริงกลุ่มพันธมิตรฯ และพรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งมิตรชิดใกล้ การพูดคุยคงไม่ยาก หากต้องการให้ทุกอย่างยุติลงหลังกระบวนการของรัฐบาลกับคนเสื้อแดงเสร็จสิ้น ควรมีผู้ใหญ่สักคนเป็นคนกลางแล้วให้พันธ มิตรฯ นปช. พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย พรรคภูมิใจไทย และทุกพรรคที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกองทัพ มาลงสัตยาบันร่วมกันว่าจะยอมรับผลเลือกตั้ง หากประชาชนเลือกพรรคไหนต้องให้สิทธิพรรคนั้นบริหารประเทศ

-ฮ.บินผ่าน-จุดตะไลไล่กันวุ่น

นายจตุพรกล่าวว่า สาเหตุที่กองทัพต้องมาร่วมลงสัตยาบันยอมรับผลเลือกตั้ง เนื่องจาก ที่ผ่านมากองทัพไม่เป็นปกติ ทำให้ประชาชนและทหารมองตากันได้ไม่สนิทใจ และเรื่องการลงสัตยาบันเป็นภาระของรัฐบาล ต้องไปทำความเข้าใจกับคนเหล่านั้นให้มาร่วมลงสัตยาบันกัน เพราะคนเสื้อแดงพร้อมดำเนินการตามโรดแม็ปทุกประการอยู่แล้ว

เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเฮลิคอปเตอร์บินผ่านบริเวณการชุมนุมสี่แยกราชประสงค์ 2 รอบส่งผลให้ผู้ชุมนุมต่างส่งเสียงโห่ พร้อมวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา นอกจากนี้ยังมีผู้ชุมนุมบางคนจุดประทัดและตะไล เสียงดังสนั่นเพื่อขับไล่เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว และในเวลาไม่นานเฮลิคอปเตอร์จึงบินออกไป ขณะเดียวกันนายอดิศร เพียงเกษ ประธานพีเพิล แชน แนล ขึ้นปราศรัยบนเวทีถึงเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวว่า เป็นการรบกวนชุมนุมโดยสงบของกลุ่มคนเสื้อแดง ส่วนการจุดประทัดนั้นคนเสื้อแดงไม่ได้มีเจตนาทำร้าย แต่จุดเล่นเท่านั้น

-ประกาศชัดแล้ว-ชุมนุมต่อ

เวลา 18.05 น. ที่สี่แยกราชประสงค์ นายณัฐวุฒิแถลงว่า นปช.ยังไม่เปลี่ยนแปลงท่าทีในการหาทางออกทุกรูปแบบตามแนวทางสันติวิธี และความปรองดอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสีย แต่เดิมแกนนำ นปช.มีแผนประชุมกันวันนี้ เพราะคิดว่านายอภิสิทธิ์จะนับหนึ่งเสร็จ แต่ว่าหลังจากนั้นมีการคัดค้านของกลุ่มพันธมิตรฯ ถึงขั้นที่นายอภิสิทธิ์ต้องเชิญเข้าพบ เช่นเดียวกับกลุ่มคนเสื้อหลากสี และพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้การประชุมของเราต้องขยับออกไปอีกอย่างน้อย 1 วัน เพราะนายกฯ ยังนับหนึ่งไม่เสร็จ เมื่อท่าทีของรัฐบาลยังไม่ชัดเจนสิ่งที่เราทำ คือรอต่อไปเพื่อให้นายกฯ ไปทำความเข้าใจกับหลายฝ่ายในส่วนของรัฐบาลก่อนจะมาเริ่มต้นกระบวนการของเราต่อไป

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า เรารู้สึกห่วงพอสมควร เพราะท่าทีของพันธมิตรฯ กำลังจะออกมาไล่นายกฯ ออกจากตำแหน่งแล้ว กลัวสถานการณ์การเมืองกำลังจะไปกันใหญ่ ถึงต้องรอท่าทีนี้ให้ชัดเจนก่อน สิ่งนี้สะท้อนถึงภาวะผู้นำของนายกฯ ที่ไม่สามารถตัดสินใจอะไรในทางการเมืองได้เลย เพราะมีกลุ่มคนเบื้องหลังที่พร้อมจะทวงบุญคุณ นายกฯ มากมาย อ่านถ้อยแถลงของ พธม.แล้วรู้สึกเห็นใจที่ทำเพื่อให้นายอภิสิทธิ์ ได้เป็นนายกฯ การชุมนุมของคนเสื้อแดงยังเดินหน้าต่อไป และเสาร์-อาทิตย์จะมีจำนวนผู้ชุมนุมเพิ่มมากขึ้น

-เผยศอฉ.ยังตามกดดันหนัก

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ท่าทีของ ศอฉ.ที่อ้างความจำเป็นบังคับใช้กฎหมายกับคนเสื้อแดง ถ้าจะมาแบบนี้ไม่สร้างบรรยากาศปรองดอง ศอฉ.ควรลดความรู้สึกว่าประชาชนเป็นศัตรูให้ได้ การร่วมกันหาทางออกด้วยการเจรจาเป็นสิ่งที่สังคมไทยอยากเห็น แต่ ศอฉ.กลับมองไม่เห็น รวมทั้งยังมีการกระชับพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาใกล้ชิดกับบริเวณพื้นที่ชุมนุม มีการละเมิดสิทธิประชาชน ด้วยการส่งข้อความสั้นผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือเอสเอ็มเอส ซึ่ง ศอฉ.ไม่มีความจำเป็นต้องทำเลย เพราะ ศอฉ.มีสื่อในมืออยู่แล้ว แต่ ศอฉ.ไปบีบบังคับเอกชนผู้ให้บริการให้ความร่วมมือ ดังนั้น ศอฉ.จะต้องแจ้งหมายเลข เพื่อให้ประชาชนส่งข้อความกลับไปด้วย เพื่อให้ฝ่ายที่เห็นแตกต่างมีพื้นที่ในการแสดงความคิดเห็นกลับไป การตั้งด่านของ ศอฉ.โดยรอบที่ชุมนุม เมื่อถึงจังหวะเหมาะจะออกไปเจอ

นายจตุพรกล่าวว่า ในที่ประชุม ศอฉ.มีการวางแผนขอตรวจค้นในพื้นที่ชุมนุม เพราะในช่วงสองวันที่ผ่านมาพวกเราได้รับข่าวจากชุดรักษาความปลอดภัยมาตลอด พบว่า ศอฉ.ส่งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบมาวางอาวุธในพื้นที่ และจะขอใช้สิทธิ์เข้ามาตรวจ เพื่อเชื่อมโยงในคดีการก่อการร้าย วันนี้มีเจ้าหน้าที่ ศอฉ.เข้ามา 7 คน แต่เราจับไม่ทัน ถ้าจะให้เจ้าหน้าที่เข้ามา จะอนุญาตให้ พ.อ.สรรเสริญเพียงคนเดียวเท่านั้น

นายจตุพรกล่าวว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไม่มีความเหมาะสมที่จะเข้าสอบสวนในคดีก่อการร้าย เพราะทราบมาจากคนในดีเอสไอว่ามีการซ้อมผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิง ให้ซัดทอดแกนนำนปช. ว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีการก่อการร้าย ความผิดตามกฎหมายถ้าเราจะมีความผิดก็มีเรื่องเดียว คือ การชุมนุมเกิน 5 คนที่ผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อเราไปมอบตัวในคดีนี้ดีเอสไอก็จะแจ้งข้อหาการก่อการร้ายและล้มสถาบัน โดยที่ไม่มีหลักฐาน ยืนยันว่าจะไม่ขอให้มีการนิรโทษกรรมเราในคดีเหล่านี้

-ธาริตยัน9แกนนำ"ก่อการร้าย"

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวชี้แจงกรณีหมายจับ 9 แกนนำนปช. ข้อหาก่อการร้ายว่า ตามที่ศาลได้แนะนำให้ดีเอสไอใช้หมายจับตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาแกนนำนปช. ทั้ง 9 คน ประกอบด้วย นายวีระ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ น.พ.เหวง โตจิราการ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายขวัญชัย ไพรพนา และ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์นั้น ดีเอสไอไม่ต้องขอหมายจับซ้ำ เมื่อจับกุมตัวได้แล้ว จึงให้แจ้งข้อกล่าวหาก่อการร้าย มีผลให้ทหารและตำรวจเป็นผู้มีอำนาจจับกุมตามหมายจับ

นายธาริต กล่าวว่า แต่หากในระหว่างนี้ ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ดีเอสไอจะรอจนถึงวันที่ 15 พ.ค. ซึ่งแกนนำนปช.ได้ประกาศต่อสาธารณ ชนว่า จะเข้ามอบตัวสู้คดีพร้อมกันทั้งหมด หากเลยระยะเวลาที่กำหนดแล้วยังไม่มามอบตัว ดีเอสไอเตรียมแนวทางในการดำเนินการต่อไปไว้แล้ว หากแกนนำนปช. เดินทางเข้ามอบตัวที่ศอฉ. ดีเอสไอจะให้พนักงานสอบสวนเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาทันที จากนั้นจะพิจารณาตามข้อเท็จจริงว่าจะให้ประกันตัวหรือจะควบคุมตัวไว้สอบสวน

-การเมืองเกี้ยเซียะ-แต่คดียังอยู่

นายธาริต กล่าวว่า การออกมายืนยันหมายจับจะไม่ทำลายบรรยากาศการปรองดองระหว่างรัฐบาลและนปช. เพราะความผิดทางอาญากับการเจรจาถือเป็นคนละส่วนกัน พนักงานสอบสวนไม่สามารถยอมความ หรือยกข้อหาหนักเพื่อไปแจ้งข้อกล่าวหาที่เบากว่าได้ กรณีดังกล่าวมีความจำเป็นที่ดีเอสไอต้องออกมาชี้แจง เพราะเริ่มมีกระแสความไม่พอใจและกังวลว่า เมื่อการเมืองเกี้ยเซียะกันแล้ว ความผิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการวางระเบิดกว่า 40 จุด การปะทะจนเป็นเหตุให้ทหารและพลเรือนบาดเจ็บและเสียชีวิต การขโมยอาวุธเจ้าหน้าที่จะต้องยกเลิก จึงขอยืนยันว่าในส่วนของดีเอสไอยังคงต้องดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง มิเช่นนั้นจะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ความผิดตามที่รับไว้เป็นคดีพิเศษทั้ง 4 ข้อหา ประกอบด้วย การก่อ การร้าย การข่มขู่บังคับเจ้าหน้าที่รัฐ การประทุษร้ายเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน และการกระทำความผิดด้านอาวุธยุทธภัณฑ์ จะยกเลิกได้ต่อเมื่อฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติมีความเห็นตรงกันที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรมความผิดทั้งหมดเท่า นั้น หากนิรโทษกรรมบางส่วน ความผิดในส่วนไม่มีการนิรโทษกรรม ก็จำเป็นต้องถูกดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง การเจรจาปรองดองมิใช่มาคุยกันบอกว่านิรโทษกรรมแล้วจบ การนิรโทษกรรมต้องออกเป็นกฎหมายเท่านั้น กระบวนยุติธรรมจึงจบลงได้ และจะต้องระบุให้ชัดด้วยความจะนิร โทษกรรมให้แก่ความผิดใดบ้าง เพราะความผิดที่เกิดขึ้นมีเป็นจำนวนมากและหลายเหตุการณ์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

-เร่งตรวจสลักบึ้มของแรมโบ้

เมื่อถามถึงการดำเนินคดีล้มเจ้า ซึ่งเป็นความผิดฐานกระทำความกฎหมายความมั่นคงแห่งรัฐ นายธาริต กล่าวว่า ตนจะเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดดังกล่าว มีรองอธิบดีดีเอสไอทั้ง 2 คนคือ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ และพ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน เป็นรองหัวหน้าพนักงานสอบสวน และจะทำหนังสือให้ทั้ง 12 หน่วยงาน ส่งผู้แทนเข้าร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย คาดว่าจะมีการเรียกประชุมนัดแรกได้ในสัปดาห์หน้า

ส่วนกรณีต้องเรียกตัวพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เข้าให้ข้อมูลหรือไม่นั้น นายธาริต กล่าวว่า คงต้องรอผลการประชุมพนักงานสอบสวนก่อน สำหรับข้อมูลแผนผังที่ศอฉ. นำมาเปิดเผยเป็นเพียงข้อมูลทางลายลักษณ์อักษร แต่ข้อมูลสำคัญอยู่ที่คำให้การของเจ้าหน้าที่ศอฉ. ในฐานะผู้กล่าวหา ซึ่งต้องดูว่าในที่ประชุมจะมีมติให้เรียกใครเข้าให้ปากคำบ้าง

ช่วงท้ายของการแถลงข่าว นายธาริต กล่าวถึงกรณีถูกนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำนปช.แจ้งความดำเนินคดี จากการนำกำลังเข้าตรวจค้นห้องพักในเฟิร์สอพาร์ตเมนท์ ว่า เป็นการเข้าค้นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ค้นพบหลักฐานสำคัญที่น่าสนใจคือสลักนิรภัย และกระเดื่องระเบิดใช้งานแล้วจำนวน 3 รายการ ขณะนี้สำนัก งานนิติวิทยาศาสตร์กำลังตรวจพิสูจน์ลายพิมพ์นิ้วมือและสารดีเอ็นเอ รวมถึงตรวจสอบด้วยว่าเป็นสลักระเบิดชนิดใด

-มาร์คโต้ถูกหาไปสมคบคิด

เวลา 18.30 น. นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการหารือกับตัวแทนกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า หลังการเสนอโรดแม็ป ตนได้ยืนยันว่าเป็นแผนที่เกี่ยวข้องกับทุกฝ่าย ไม่ใช่เรื่องระหว่างรัฐบาลกับผู้ชุมนุม เมื่อมีการแสดงความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วยกับแผน เช่น กลุ่มพันธมิตรฯ กลุ่มเสื้อหลากสี ทุกกลุ่มควรได้ทำความเข้าใจถึงแนวคิด ตัวแทนกลุ่มพันธมิตรฯ จึงต้องมาทำความเข้าใจ ที่เห็นตรงกันคือการแก้ไขปัญหาความยากจน โครง สร้างการปฏิรูป แต่ที่เห็นต่างกันคือการยุบสภา ซึ่งได้ย้ำไปแล้วว่าอยู่บนเงื่อนไขว่าทุกฝ่ายสามารถเข้ามาร่วมสร้างความสงบเรียบร้อยได้ อาจมีมุมมองที่ต่างกันว่าเวลามันสั้นไปยาวไป แต่เป็นหลักการที่คิดว่า เราต้องมีคำตอบให้ทุกฝ่าย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ได้หารือเพิ่มเติมเรื่องการออกแถลงการณ์ บางครั้งอยู่บนข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะตัวแผนหมาย ความว่าอย่างไร ตนมีเจตนาอะไรที่เสนอแผน ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกันคิดว่าเขาคงเข้าใจมากขึ้น แต่ต้องสอบถามฝ่ายพันธมิตรเอง เพราะบางทีไปกล่าวหากันรุนแรง เช่น ที่ตนทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไปสมคบตกลงอะไรกับใคร ซึ่งไม่เป็นความจริง ซึ่งต้องรอดู เพราะที่มามีเพียง นายพิภพ และนายปานเทพเท่านั้น เขาก็ต้องไปปรึกษาหารือกันในกลุ่มพันธมิตร วันที่ 6 พ.ค. ได้เชิญตัวแทนกลุ่มคนหลากสีเข้ามาหารือ ต้องทำความเข้าใจกับทุกกลุ่มไปเรื่อยๆ

-ย้ำม็อบเลิกชุมนุมได้แล้ว

"ในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุม (นปช.) ผมคิดว่าไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มเติมแล้ว ผมได้สร้างความชัดเจนไปแล้ว หวังว่าถ้าเขาเข้าสู่กระบวนการปรองดองจริง ก็ควรจะยุติการชุมนุมโดยเร็ว" นายอภิสิทธิ์ กล่าว เมื่อถามว่าหากหลายภาคส่วนไม่ยอมรับกระบวนการปรองดอง จะทำให้กระบวน การชะงักไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้อง พยายาม ตนไม่ลดละความพยายาม หากทุกคนมองเห็นเจตนาที่บริสุทธิ์ของตน แล้วความพยา ยามที่จะแก้ไขปัญหา น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทุก ฝ่ายรับกันได้ เมื่อตนเดินหน้า ก็หวังว่าคนจะมองเห็นว่ามันเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับส่วนรวม ก็อยากให้มาร่วม

เมื่อถามว่า กลุ่มนปช.ยื่นเงื่อนไขเพิ่มว่าต้องคืนสถานีโทรทัศน์พีทีวี และอาจไม่ไปมอบตัวในวันที่ 15 พ.ค. ตามที่ได้ประกาศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี เรื่องเงื่อนไขคงมีไม่ได้ เป็นแนว ทางที่ตนเสนอ ถ้าเขาไม่รับเรื่องยุบสภา ก็เป็นเรื่องที่ไม่สามารถกำหนดวันได้เลย เพราะเท่ากับว่าไม่สามารถทำให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ เขาก็ต้องตัดสินใจ ส่วนเรื่องพีทีวีอยู่ในโรด แม็ปข้อ 3 อยู่แล้ว ฉะนั้นเงื่อนไขอื่นมันไม่ควรจะมีแล้ว มันเป็นเรื่องการเข้าสู่กระบวนการนี้แล้วจะเดินหรือไม่

-บ้านเมืองไม่สงบก็ไม่ยุบสภา

เมื่อถามว่าหากการชุมนุมยืดเยื้อเกินวันที่ 15 พ.ค. รัฐบาลจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันที่ 15 พ.ค. มันนานไปอยู่แล้ว ถ้าเขายังแสดงเจตนาในเรื่องกระบวน การ แล้วมันติดขัดเรื่องการบริหารจัดการคงไม่เป็นไร แต่เมื่อไหร่ชัดเจนว่าไม่ได้มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกระบวนการ ก็ถือว่าคำเสนอเรื่องการยุบสภา ก็ต้องเป็นอันยกเลิกไป ตนก็ทำส่วนอื่นใน 5 ข้อ การบังคับใช้กฎหมายก็ต้องเดินหน้าไป

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวออกมาว่าการที่กลุ่มนปช. ประวิงเวลา เนื่องจากต้องการขนอาวุธออกจากที่ชุมนุม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีด่านตรวจเรื่องอาวุธก็ต้องตรวจ เมื่อถามว่ากลุ่มนปช. ต่อรองเรื่องคดีหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องคดีต่อรองไม่ได้อยู่แล้ว เพราะในการแถลงก็พูดชัดว่าเรื่องคดีอาญา ต่อรองกันไม่ได้ เมื่อเขาแถลงว่าอยากเข้าสู่กระบวนการก็น่าพยายามบริหารจัด การและเร่งรัด

เมื่อถามว่า หากปล่อยให้เวลาผ่านไปวันเลือกตั้งที่กำหนดไว้ในวันที่ 14 พ.ย. จะต้องเลื่อนออกไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องการบริหารจัดการ แต่ถ้าเกิดหลังจากนี้ชัด เจนว่าการชุมนุมไม่เลิก บ้านเมืองไม่สงบ เรื่องการยุบสภาต้องยกเลิกไป เมื่อถามว่าจะใช้เวลานานเท่าไรประเมินความจริงใจของกลุ่มนปช. นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าคงดูออกในชั้นนี้ ก็ยังให้โอกาสเขาบริหารจัดการ ไม่ขอบอกเป็นเวลา แต่จะดูจากพฤติกรรม หากพฤติกรรมมันชัดว่าจริงๆ แล้วเขาไม่เอา ก็ต้องถือว่าจบกันไป ขณะนี้เขาก็ยังบอกว่าเขาตอบรับอยู่ แต่อาจจะขี้สงสัยหน่อย

-ไม่แก้รธน.เพื่อช่วยพรรค

เมื่อถามว่า นายปานเทพ ระบุว่านายกฯ สัญญาว่าจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ผมบอกแนวคิดเลยว่า สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อตัวเอง ฉะนั้นมาตรา 237 ในขณะที่พรรคเรามีคดียุบพรรคอยู่ เราคงแก้ไม่ได้ เมื่อถามว่าหากมีแรงกดดันจากพรรคร่วมรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องพรรคร่วมรัฐบาลจะพูดคุยกันในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะคุยกันว่าเรื่องรัฐธรรม นูญที่ติดใจกันอยู่ในมาตราเขตการเลือกตั้ง และมาตรา 190

หลังการให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น นายกฯ เดินทางออกจากอาคารรัฐสภา กลับไปที่บ้านพักในซอยสุขุมวิท 31 และวันที่ 7 พ.ค. เวลา 10.00 น. ได้เชิญตัวแทนจากกลุ่มคนเสื้อหลากสีคือ น.พ. ตุลย์ เข้าพบปะหารือกันที่ห้องรับรอง อาคารรัฐ สภา

-กี้ร์มั่นใจทุกอย่างจบใน 15 พ.ค.

ที่เวทีราชประสงค์ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ทำงานมา เพิ่งเห็นว่ามีวุฒิภาวะก็ในวันที่ประกาศโรดแม็ปปรองดอง กรณีกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาคัดค้านแผนปรองดอง จึงเป็นหน้าที่ที่นายอภิสิทธิ์ต้องทำความเข้าใจกับพันธมิตรฯ เพราะถ้าหากนายอภิสิทธิ์ยอมอ่อนข้อก็เท่ากับยอมให้พันธมิตรฯ บริหารประเทศ นายอภิสิทธิ์เพียงบอกให้ชัดเจนว่าจะยุบสภาวันที่เท่าใด ระหว่างวันที่ 15-30 ก.ย. นปช.ก็จะยุติการชุมนุมทันที และไม่ต้องการเงื่อนไขพิเศษใดๆ เพียงนายอภิสิทธิ์พิจารณามาให้ชัดเจน และมีความเหมาะสม ไม่สุดโต่ง ไม่ใช่ให้นายศิริโชค โสภา ออกมาพูดแทน และหากทุกฝ่ายตกลงกันได้ นปช.ก็จะยุติการชุมนุมก่อนวันที่ 15 พ.ค.

"ถึงอย่างไร ม็อบก็ต้องจบก่อนวันที่ 15 พ.ค. ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เคลียร์กันในพรรคและพรรคร่วมได้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อเลือกตั้ง 14 พ.ย.เราก็จบยุติการชุมนุมรอการเลือกตั้ง แต่ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์เคลียร์พรรคร่วมไม่ลงตัวเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ภายในรัฐบาลก็จะล้มกันเองและจะจบกันเองก่อนวันที่ 15 พ.ค. ดังนั้น ภาย ในวันที่ 15 พ.ค.ทุกอย่างจะจบอย่างแน่นอน" นายอริสมันต์กล่าว

-ฟุ้งล่วงหน้าลงส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์

นายอริสมันต์กล่าวว่า ส่วนกรณีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงจะไปมอบตัวข้อหาก่อการร้ายในวันที่ 15 พ.ค. แกนนำทั้งหมดจะไปมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ เพียงแต่อธิบดีดีเอสไอที่กล่าวหาตนและแกนนำว่าก่อการร้าย ถ้าแกนนำคนเสื้อแดงไม่ใช่ก่อการร้ายนายธาริตก็ต้องติดคุกแทนด้วย ในฐานะเจ้าพนักงานหากกล่าวหาใครสักคน ถ้าไม่ ใช่แล้วเกิดความเสียหายต่อผู้ถูกกล่าวหา ผู้กล่าวหาจะต้องรับผิดชอบ ดังนั้น ถ้าโทษประหารชีวิต ผู้ที่กล่าวหาว่าแกนนำคนเสื้อแดงก่อการร้ายจะต้องได้รับ คือถูกประหารชีวิตด้วย

นายอริสมันต์กล่าวว่า หลังจากยุติการชุมนุมจะขอใช้ชีวิตส่วนตัวบ้าง จะพาครอบครัวไปพักผ่อน พร้อมกับตั้งใจว่าขอลาอุปสมบทเป็นเวลา 19 วัน หลังจากไปบนไว้ที่วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณ บุรี ไว้แล้วว่า หากการชุมนุมได้รับประชาธิปไตยจริงก็จะลาบวช หลังจากนั้นคาดว่าจะลงสมัคร ส.ส. แต่ขอเป็นระบบปาร์ตี้ลิสต์

-ปทีปยันตร.เดินหน้าคดีม็อบ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า แม้ขณะนี้อยู่ในช่วงการเจรจา แต่ตำรวจยังคงทำตามหน้าที่ปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง วางกำลังตั้งด่านเข้มแข็งบังคับใช้กฎหมายปกติทุกอย่าง ทั้งนี้ การดำเนินการในการขอคืนพื้นที่นั้น ต้องรับฟังนโยบายจาก ศอฉ.อีกครั้ง ซึ่ง ตร.ต้องเอานโยบาย นั้นมาคิด มาวางแผนว่าต้องประกอบกำลังกับฝ่ายใดบ้าง ต้องมาเตรียมการกันก่อน ซึ่งขณะนี้กำลังตำรวจอยู่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่มากอยู่แล้ว มากกว่า 50-60 กองร้อย จนตอนนี้ไม่มีกำลังตำรวจจากไหนจะมาเพิ่มแล้ว ทำได้เพียงสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังเท่านั้น

สำหรับการดำเนินคดีนั้น พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า คดีที่เกี่ยวกับการชุมนุม ทั้งที่เกี่ยวกับระเบิด การจับกุมอาวุธ หรือการคืนพื้นที่ ขณะนี้โอนไปเป็นคดีพิเศษในความรับผิดชอบคดีของดีเอสไอ ในส่วนของตำรวจยังคงทำหน้าที่สืบสวนให้ทุกคดี แต่การสอบสวนเป็นของดีเอสไอ โดยการสืบ สวนนั้น มีพล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา ที่ปรึกษา (สบ 10) รับผิดชอบ

-ยัน"ภาณุพงศ์"เป็นสีกากี

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า มีภรรยาของที่ปรึกษาตร. อักษรย่อ ภ. สนับสนุนเสื้อแดง ซึ่งมี ภ. แค่คนเดียว จะมีผลต่อการทำคดีหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีปกล่าวว่า ไม่หรอก เป็นเพียงข่าว ตนยืนยันว่าตำรวจมีเพียงสีเดียวคือสีกากี เพราะฉะนั้นต้องเดินหน้าต่อ

"ในส่วนจิตใจแล้ว ใครสีอะไรผมตอบไม่ได้ แต่ถ้าสวมเครื่องแบบแล้วเขาต้องเป็นตำรวจปฏิบัติหน้าที่ตำรวจ แม้แต่ผมยังโดนครหาเรื่องสีเลย แต่ก็บอกว่าผมสีกากี" พล.ต.อ.ปทีปกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีการสั่งย้ายพล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ขอนแก่น มาช่วยราชการ รรท.ผบ. ตร. กล่าวว่า เหตุผลจากกรณีผู้ชุมนุมไปปิดล้อม ไปตั้งด่านเอง ไม่ให้ทหารตำรวจเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในส่วนกลาง ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยหลายครั้ง ส่วนกรณีพื้นที่อื่นจะทำสั่งการแบบนี้หรือไม่ ตนต้องดูเป็นรายกรณี แต่ที่ขอนแก่นถือว่าหนักหน่อย แต่ก็ไม่ได้ถือว่า ผบก.ขอนแก่นบกพร่อง เพราะเพียงสั่งการมาช่วยราชการ ไม่ได้ตั้งกรรม การสอบสวนแต่อย่างใด ซึ่งกำหนดมาช่วยราช การก็เพียงระยะหนึ่ง จนกว่าการชุมนุมจะเสร็จสิ้น