ที่มา โลกวันนี้
ดูเหมือนว่ารัฐบาลและ ศอฉ. กำลังใช้ความพยายามอย่างมากในการปั้นมดให้ตัวโตเท่าช้าง จะเห็นได้ว่าหลายเรื่องที่คนในรัฐบาล ไล่เรียงตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี โฆษก ศอฉ. และกระบอกเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ หรือหน่วยงานอย่างดีเอสไอ พูดพาดพิงถึงคนเสื้อแดงต้องพูดให้มันใหญ่ อลังการเอาไว้ก่อน
เหมือนภาพยนตร์ที่เน้นโปรดักชั่นมากกว่าเนื้อหา ประเภทภาพสวย โลเกชั่นดี สเปเชียลเอฟเฟ็คเยอะ เอาไว้ตัดฉายเป็นหนังตัวอย่างเพื่อเรียกคนให้หันมาสนใจและเชื่อในสินค้า
แต่โทษทีช้างที่รัฐบาลและ ศอฉ. เพียรพยายามที่จะปั้นขึ้นมาจากมดนั้น ส่วนมากจะเป็นเรื่องลวงโลกที่พูดอยู่ข้างเดียว ยัดเยียดข้อมูลอยู่มุมเดียว พอคนยอมควักตังค์ซื้อบัตรเข้าไปดูต้องผิดหวังกลับมาตามๆกัน
ภาษาหนังเขาเรียกว่า หน้าหนังดีแต่เนื้อในห่วย
ยกตัวอย่างเรื่องการยิงอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหมที่รัฐบาลและ ศอฉ. บิดเรื่องให้ดูร้ายแรงมากขึ้นว่า
เป้าหมายที่แท้จริงเป็นการเล็งยิงใส่วัดพระแก้ว
ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เคารพบูชาของคนไทยทั้งชาติ แถมยังเป็นเขตพระราชฐานอีกด้วย
ด้วยความที่เป็นเขตพระราชฐานนี่แหละที่ทำให้รัฐบาลและ ศอฉ. พยายามโยงเรื่องจากลอบยิงใส่กระทรวงกลาโหมมาเป็นวัดพระแก้ว
เรื่องแบบนี้ยังไม่ทันอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่
เพราะรัฐบาลกำลังพยายามจะโยงเข้ากับเรื่องขบวนการล้มเจ้า ล้มสถาบัน ดังที่ร่างเมนของเรื่องเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรก็ต้องดึงให้เกี่ยวข้องกับขบวนการล้มเจ้าที่รัฐบาลและ ศอฉ. สร้างขึ้นมาให้ได้
มีผู้คนที่อยู่ในแวดวงหน่วยงานด้านความมั่นคง
และเกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธตั้งข้อสังเกตเรื่องการยิงวัดพระแก้วเอาไว้น่าฟังว่า
อาวุธที่คนร้ายใช้นั้นเป็นอาร์พีจี ซึ่งเป็นอาวุธวิถีตรง ไม่ใช่อาวุธวิถีโค้ง หากตั้งใจยิงใส่วัดพระแก้วก็น่าจะยิงในที่โล่งแจ้งที่สามารถมองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจน เช่น การยืนยิงที่สนามหลวง แต่จุดที่คนร้ายยืนยิงในครั้งนี้มีอาคารกระทรวงกลาโหมบดบังเป้าหมายอยู่ ประกอบกับอาร์พีจีไม่สามารถยิงวิถีโค้งได้ ข้อสันนิษฐานของดีเอสไอและ ศอฉ. จึงไม่น่าจะเป็นไปได้
คนร้ายน่าจะเลือกใช้อาวุธชนิดอื่นมากกว่า
ในประเทศไทยและประเทศในละแวกนี้มีอาร์พีจีใช้กันอยู่ 2 แบบคือ อาร์พีจี-2 และอาร์พีจี-7 หรือที่มักเรียกกันว่าจรวดต่อต้านรถถัง เวลาจะยิงต้องยืนประทับบ่าแล้วยิง ผู้ยิงจะต้องระวังแรงขับด้านท้ายเครื่องยิง ซึ่งจะพ่นออกทางท้ายเป็นทางยาวประมาณ 20 เมตร เครื่องยิงเป็นแบบจุดชนวนด้วยไฟฟ้า จรวดจะสวมที่หน้าเครื่องยิง เมื่อยิงจรวดจะพุ่งออกไป ความแม่นยำสูงระยะหวังผลระหว่าง 200-500 เมตร ยิงไกลสุดประมาณ 1,000 เมตร
การยิงเป้าหมาย ผู้ยิงจะต้องเล็งผ่านเครื่องเล็งไปยังเป้าหมายเป็นแนวเส้นตรงแบบ Line ofSight คือตามองเห็นเป้าหมายเท่านั้น จรวดจะวิ่งเป็นเส้นตรงจากเครื่องยิงสู่เป้าหมายที่ต้องการจากที่มองเห็นด้วยสายตาเท่านั้น จะมีอะไรมาบดบังระหว่างเส้นทางไม่ได้
การยิงวัดพระแก้วที่มีตึกกระทรวงกลาโหมบังอยู่เป็นไปได้หรือไม่ แถมยังยิงไปติดสายไฟที่เกะกะยุ่มย่ามระโยงระยางอยู่มากมาย ก็ลองเกาตูดคิดดูเอาเอง
เพื่อไทย
Monday, May 3, 2010
ปั้นมดให้เท่าช้าง
โดย ลอย ลมบน