ที่มา เดลินิวส์
โดยกกต.ลงมติเอกฉันท์ 5 ต่อ 0 ให้ยุบพรรคปชป.นั้น
ที่สุดก็คืบหน้าแล้ว ท่ามกลางสถาน การณ์ทางการเมืองตึงเครียดสุดขีดจากการชุมนุมของ ม็อบเสื้อแดง ที่ศอฉ.ได้สั่งปราบปราม จนเกิดการนองเลือด เสียชีวิตทั้งฝ่ายม็อบและเจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว 2 ครั้ง ใกล้ ๆ 30 ศพ มีคนเจ็บอีกนับพัน และจนป่านนี้สถานการณ์ก็ยังยันกันอยู่ ไม่มีใครแพ้-ชนะ เด็ดขาด
แต่กลับเปราะบางอย่างมากกับภาวะสงครามกลางเมือง
สัปดาห์ที่ผ่านมา นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรธน. ก็แถลงข่าวว่า คณะตุลาการศาลรธน. ลงความเห็นว่าคดีการใช้เงินกองทุน 29 ล้านบาทนั้น เข้าองค์ประกอบความผิดตาม ม.62 และ ม.65 พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ. 2541 และ ม.82 กับ ม.93 พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ. 2550
ศาลรธน.จึงให้ผู้ถูกร้องใช้สิทธิยื่นคำ ชี้แจงใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือจากศาล (น่าจะตกประมาณกลางเดือนนี้) และหากปชป.เห็นว่าไม่ทัน ก็อาจขอขยายเวลา อีก 30 วัน (ประมาณกลางเดือน มิ.ย.) ทั้งนี้ ขึ้นกับการวินิจฉัยของศาล จะเห็นควรขยายเวลาหรือไม่
คดีดังกล่าว หากผิดจริง ก็มีโทษ ถึงขั้นยุบพรรค และ กก.บริหารจะถูกเว้นวรรค 5 ปี จึงเป็นเรื่องน่าระทึกใจจริง ๆ กก.บริหารอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สุเทพ เทือกสุบรรณ ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน และระดับบิ๊กเนมอีกหลายสิบคน
ต้องถูกห้ามเล่นการเมืองไปหมด
เหมือนนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 และ 109 เคยโดนพิษสงจากคดียุบพรรคมาแล้ว ทั้งพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ชาติไทย มัชฌิมาธิปไตย เล่นเอาระส่ำระสาย ไปหมด
นายบรรหาร ศิลปอาชา ถึงขนาดยืนร้องไห้ต่อหน้าศาลตอนพรรคถูกยุบ และกลับพรรคด้วยความร้าวรานใจ สั่งลูกพรรคทั้งหมดใส่ชุดดำเพื่อไว้อาลัย ทำการปลดป้ายลง พร้อมคำพูดประวัติศาสตร์
“ใครไม่โดนกับตัว ไม่รู้สึกหรอก”
ถึงได้บอก น่าระทึกใจอย่างยิ่งโดยเฉพาะก่อนหน้านี้ ศาลรธน.ก็เพิ่งมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังเกษตรกร ที่ถูกกล่าวหาในมูลความผิดเดียวกับพรรคปชป.และสั่งลงโทษกก.บริหารพรรค โดยตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปีด้วย
คดีปชป.ก็น่าจะถือเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน
หนึ่งในทีมกฎหมายของ ปชป. นาย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ให้ สัมภาษณ์ว่า มั่นใจพรรคปชป.จะตั้งรับได้ เพราะมีทีมงานขั้นเทพทั้ง ชวน หลีกภัย บัณฑิต ศิริพันธุ์ และข้อมูลก็ได้เตรียมไว้หมดแล้ว
ขณะที่ อดีตกกต.อย่าง นายโคทม อารียา ให้ความเห็นก่อนหน้านี้ว่า ใน 2 คดีนั้น ความจริงเอาแค่คดีเดียวคือคดี 29 ล้านบาท ก็สามารถดำเนินการได้เลย เพราะเรื่องนี้ไม่ได้ซับซ้อนแต่อย่างไรเลย
จึงมีการคาดการณ์ว่า คดีนี้น่าจะตัดสินได้เร็ว
มีผู้ใหญ่ที่เคารพบางท่านให้ข้อสังเกตว่า การที่กกต.ไม่ดึงเรื่องทั้ง 2 คดี และ ศาลรธน.รับไว้วินิจฉัยรวดเร็วด้วย หากมีการยุบพรรคปชป.เกิดขึ้นจริง ก็เท่ากับ “ปลดล็อก”สถานการณ์การเมืองที่กำลังเข้ามุมอับพอดีเช่นกัน เป็นการล้างไพ่ทางการเมือง และ เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทุกพรรค
อีกไม่นาน ก็คงรู้ จริงหรือไม่.
ดาวประกายพรึก
เพื่อไทย
Tuesday, May 4, 2010
ล้างไฟการเมือง
หลังจากเจอ “โรคเลื่อน” มานาน ที่สุด 2 คดีใหญ่ที่เป็นการชี้ชะตาอนาคตทางการเมืองของพรรคเก่าแก่ที่สุดอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ คือ คดีเงินบริจาค 258 ล้านบาทจาก ทีพีไอที่มีการแจ้งบัญชีเท็จ และ กกต.ลงมติ 4 ต่อ 1 ให้ยุบพรรคปชป. กับคดีการใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์