ที่มา ไทยรัฐ
อยากไต่บันไดลงเต็มที
จับอารมณ์จากที่ "ไข่มุกดำ" นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. ส่งสัญญาณกับกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง หลังทำพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์เนื่องในโอกาสวันฉัตรมงคล พูดกันเป็นนัย จะให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้กลับภูมิลำเนาเร็วขึ้น
แต่คงต้องรอความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรี ถึงรายละเอียดของวันยุบสภาอีกครั้ง
ยักท่า กั๊กเชิงกันพอเป็นพิธี เกี่ยงกันแค่เรื่องวันยุบสภา
แต่บังเอิญว่า โดยปมนี้ไม่ใช่แค่แกนนำม็อบเสื้อแดงที่คาใจ แม้แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังออกมาทวงถามความชัดเจนจากนายกฯอภิสิทธิ์ พูดให้ชัดจะยุบสภาวันไหน ในเมื่อกำหนดวันเลือกตั้งเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต.
"อภิสิทธิ์" อาจจะรีบ "ตีไพ่" เร็วไป จนลืมคิด
และอีกคิวที่นายกฯอภิสิทธิ์น่าจะไม่ได้คาดการณ์เผื่อไว้ การกำหนดดีเดย์เลือกตั้งวันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน ตามระยะเวลาจากนี้ไปอีก 6-7 เดือน
ไม่มีหลักประกันว่า ระหว่างทางจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง
เรื่องของเรื่อง โจทย์หินของนายกฯอภิสิทธิ์ มันยังอยู่ที่คิวยุบพรรคประชาธิปัตย์ที่โดนดัก "สองเด้ง" ทั้งปมใช้เงินกองทุนสนับสนุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์ และปมอำพรางเงินบริจาค 258 ล้านบาท
โอกาสรอดบ่วงกรรมยาก
นี่แหละจุดพลิกผัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเป็นไปตามที่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง มือกฎหมายคนสำคัญในทีมสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ เดาโปรแกรมล่วงหน้า คาดว่า ผลคำวินิจฉัยคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาหลังวันที่ 14 พฤศจิกายน
ผ่านพ้นวันเลือกตั้งตามโพยของนายกฯอภิสิทธิ์ไปแล้ว
ตามโปรแกรมนี้ ถือว่าแรงตกกระทบกับพรรคประชาธิปัตย์จะเบาสุด โอกาสยังเอื้อให้นายกฯอภิสิทธิ์ประคองเกม กวาดต้อนไพร่พลไม่ให้แตกทัพกระจัดกระจาย
"อุดเลือด" ไม่ให้ไหลออกมาก
ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับสถานการณ์ ถ้าหากคดียุบพรรคประชาธิปัตย์หวยออกเร็ว จังหวะโดนล้มกระดานก่อน รัฐบาล "อภิสิทธิ์ชน" สลาย
อำนาจหลุดจากมือ นายกฯอภิสิทธิ์ไม่มีสิทธิ์ยุบสภา
ค่ายประชาธิปัตย์ก็จะเหมือนผึ้งแตกรัง บรรดา ส.ส.ก็แปรสภาพเป็นกองกำลังไร้สังกัดที่ต้องวิ่งหาค่ายใหม่ ภายใต้เงื่อนไขเพื่อความอยู่รอด และอนาคตบนเส้นทางการเมือง
ยี่ห้อประชาธิปัตย์หมดความขลัง ยากที่จะรวบรวมไพร่พลแตกค่าย
ขณะที่เงื่อนไขของฝ่ายถืออำนาจก็ไม่ปล่อยเลือกตั้งใหม่เข้าทางพรรคเพื่อไทย ลูกข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ตามเกมปล่อยให้เวทีสภาที่เหลืออยู่ซาวเสียงเลือกนายกรัฐมนตรีกันใหม่
สถานการณ์ตกเป็นหน้าที่ของ "มือจัดรัฐบาลอาชีพ" เดินเกมล็อบบี้ รวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล ตามเทอมของสภาผู้แทนฯยังเหลืออยู่อีกปีกว่า
ไม่ได้ผิดกติการัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
แน่นอนถ้าเกมไหลออกมุกนี้ โรดแม็ปก็ต้องมีอัน "โมฆะ" ตามนายกฯอภิสิทธิ์ที่หลุดจากเก้าอี้ไปโดยอัตโนมัติ
โอกาสเบี้ยวกันนิ่มๆมันก็มีอยู่
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นี่แค่มองโลกในแง่ร้ายตามมุมของ "หน่วยเฝ้าระแวง"
ส่วนมุมมองโลกในแง่ดี โดยอาการที่จับทางได้กับบทเอาจริงเอาจังของนายกฯอภิสิทธิ์ที่เดินหน้าชงโรดแม็ปแบบ "วันแมนโชว์" โดยไม่ปรึกษา "ขาใหญ่" แม้แต่ระดับนายชวน หลีกภัย ปรมาจารย์ของพรรคประชาธิปัตย์ ยังออกอาการงอนใส่ศิษย์รัก
ที่ไม่ถามกันก่อน
ลำพัง "อภิสิทธิ์" น่าจะซ่อนเขี้ยวน้อยสุด
ตามจังหวะ "ทำเพื่อตัวเอง" มากกว่าเน้นเหลี่ยมคูทางการเมืองสไตล์ประชาธิปัตย์
เหนืออื่นใด โดย "โปรโมชั่นนิรโทษกรรม" ที่เปลี่ยนอารมณ์ ไปใช้คำว่า "คืนความเป็นธรรม" ให้กับนักโทษคดีการเมือง ซื้อใจนักเลือกตั้งบ้านเลขที่ 111 และ 109 แกนนำตัวจริงเสียงจริง
พรรคร่วมรัฐบาล ไปยันลูกข่ายของพรรคเพื่อไทย ที่โดนโทษ
ดองเค็ม 5 ปี
"ปลดโซ่ตรวน" ให้คู่แข่ง ปล่อยการเมืองกลับสู่ธรรมชาติของนักเลือกตั้ง
"อภิสิทธิ์" ตีไพ่หมดมือก็แล้วกัน.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน