ที่มา บางกอกทูเดย์ มีหลายคนถามเหมือนกันว่า ROAD MAP คือบันไดให้ลงจริงหรือ?!เหตุผลสำคัญก็เพราะ... ROAD MAP จะสัมฤทธิ์ผลได้...ก็ต่อเมื่อผู้เกี่ยวข้องสำคัญ อาทิ เช่น ผู้มีอำนาจสั่งการ กลุ่ม นปช. กลุ่มพันธมิตรฯ พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ รวมไปถึงนายทหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน ตลอดจนที่จะมามี บทบาทในอนาคต ทั้งหมดจะยอมรับใน “กติกา” ที่นายกรัฐมนตรี “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” เสนอแผนปรองดอง 5 ข้อ อย่างนั้นหรือโดยเฉพาะที่ออกอาการมากที่สุดในเวลานี้เห็นจะเป็น “มวลชน” กลุ่มพันธมิตร...ซึ่งมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งรุนแรงถึงขั้นไม่ต้องการให้มีการ “ยุบสภา” ในเร็ววันซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะเงื่อนไข “ความไม่พร้อม” ในหลายๆ อย่าง อาทิ พรรคการเมืองใหม่ ยังไม่พร้อม ซึ่งไม่พร้อมทั้งการจัดตั้ง และการลงพื้นที่หาเสียงและที่สำคัญคือความไม่พร้อม ระหว่างกลุ่มหลักๆ ที่เข้ามาร่วมชุมนุมพันธมิตรฯ ตั้งแต่ต้นตามที่ “คอการเมือง” ได้วิเคราะห์ออกมานั่นคือ มวลชน 3 กลุ่มของพันธมิตรฯ1.กองทัพธรรมจากสันติอโศก 2. พลพรรคจัดตั้งของสมาชิกจากพรรคประชาธิปัตย์ และ 3. กลุ่มคนทั่วไปที่นิยมชมชอบพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งการละลายและดึงคนของ “ประชาธิปัตย์” มาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่...จำเป็นต้องอาศัยเวลา แต่คำประกาศที่จะให้มีเลือกตั้งใหม่ของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ในวันที่ 14 พ.ย. นี้เหมือนกับ การเอาไฟฟ้าไปช้อตให้พวกเขาหัวใจสลายเพราะกว่าจะมีวันนี้ที่กลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งถือเป็นมือเป็นเท้าสำคัญให้รัฐบาล “ประชาธิปัตย์” ขึ้นมีอำนาจในการบริหารงานแผ่นดินพูดตามตรงว่า...เหนื่อยากแสนเข็ญยิ่งกว่าการ “เข็นครกขึ้นภูเขา”โดยเฉพาะ “บทความหนึ่ง” ของมวลชนพันธมิตรฯ ที่เขียนออกมาด้วยการระบายความรู้สึกว่า “พรรคประชาธิปัตย์” คือแกนนำการเมืองเก่าตัวจริงนั่นแสดงให้เห็นว่า...ถึงเวลาแล้วใช่หรือไม่ที่พันธมิตรฯ กับประชาธิปัตย์ต้องแยกกัน เดินอย่างจริงๆ จังๆ เสียทีเขาพูดว่า...พันธมิตรฯ สู้กับ ประชาธิปัตย์ ยากกว่าต่อสู้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” มากมายยิ่งนักเพราะทักษิณเป็นพ่อค้าจับผิดง่าย...แต่ประชาธิปัตย์เป็นอีแอบ กว่าสังคมจะจับได้ต้องอธิบาย ต้องพิสูจน์กันนาน“ยกแรก” พันธมิตรฯ ก็เสียท่า...ถูกประชาธิปัตย์หลอกใช้จนได้เป็นรัฐบาล...แล้วข่มคออยู่ทุกเมื่อทุกวัน ขณะที่พันธมิตรฯ บางส่วนยังงมงายอยู่กับภาพของ นายกฯ อภิสิทธิ์ โดยมองไม่ออกว่า... อภิสิทธิ์ คือ “ศัตรูตัวร้าย” ของการเมืองใหม่ เพราะอภิสิทธิ์ คือตัวแทนของการเมืองเก่าที่สมบูณร์แบบ และประเทศไทยไม่มีทางเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้ภายใต้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”อภิสิทธิ์ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมไปสู่สิ่งที่ดีกว่า...อภิสิทธิ์เป็นแค่โมเดลของคนที่เป็นพวกอนุรักษ์นิยม ซึ่งมีความชำนาญคือการเอาตัวรอดกับความได้เปรียบแล้วลอยตัวและรู้สึกว่า...ประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเก่าตัวจริงเสียงจริง และเป็นพรรคการเมืองที่มีความแยบยลและแยบ คายอย่างยิ่งที่จะทำให้ประชาชนยังหลงวนและจมปรักอยู่กับการเมืองเก่า......สรุปก็คือ “ประชาธิปัตย์” ไม่ได้มีบทบาทสาระสำคัญอะไรที่จะสามารถทำให้ประเทศไทยดีขึ้นในด้านที่จะทำให้หลุดพ้นจากการเมืองเก่าได้เลย ไม่ว่าจะดูจากในอดีต ปัจจุบัน หรือถ้าจะดูต่อไปในอนาคตก็ตามการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงได้ทุกวินาที...ว่าแต่ว่า...หนุ่มหน้ามลพ่อยกมวลชนพันธมิตรฯ ท่านนี้เพิ่งจะตื่นจาก “ภวังค์” หรือขอรับท่าน!