WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, May 5, 2010

เอ๊ะ... นี่เราทำอะไรลงไป

ที่มา thaifreenews


โดย Porsche

จากคุณ : พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง

ครั้งหนึ่ง

"เฮ้ย คุณพี่ แน่จริงเอาหมายเลขบัตรประชาชนมาลงเลย"

"ได้เลย"

จากนั้นผมและเขาก็เอาหมายเลขบัตรประชาชนมาลงเพื่อให้รู้ตัวตนของกันและกัน
ก่อนจะประกาศคำท้ากันว่า
"ใครแพ้พนันต้องออกจากประเทศนี้ไปซะ" จากแต่เดิมเราท้าพนันกันด้วยการตัดคอ

สาเหตุมาจากผมด่าทักษิณและมีผู้นิยมทักษิณคนหนึ่งเข้ามาเถียง
แรก ๆ ก็ว่ากันด้วยเหตุผลแต่เมื่ออารมณ์ขึ้นทั้งคู่ก็จบลงด้วยการท้าพนัน แต่สุดท้ายการพนันของเราก็ต้องเป็นอันโมฆะ
เนื่องจากคุณทักษิณยุบสภา ทำให้การพนันของเราต้องยุติลง
และทุกวันนี้พี่คนที่ผมท้าพนันนั้นก็กลายเป็นมิตรที่ดีต่อกัน

สุดท้ายแล้วผมก็ต้องกลับมาบ่นกับตัวเองว่า

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

ครั้งหนึ่ง

"พวกคุณด่า พลเอกเปรม ทำไมอะไรขนาดนั้น"

"ก็มันเป็นคนอยู่เบื้องหลังการรัฐประหาร"

"แล้วคุณรู้ได้ไงว่าเขาอยู่เบื้องหลัง"

"คุณไม่รู้หรือแกล้งโง่"

สุดท้ายก็เกิดการวิวาทะกันอย่างรุนแรง ผมไม่อยากเชื่อว่า
พลเอกเปรม จะทำแบบนั้นเพราะเขาน่าจะรู้ดีว่าประเทศนี้คือประชาธิปไตย ไม่ว่าอย่างไรก็คงไม่ชักชวนให้คนออกมาปฏิวัติ ด่ากันสองวันในกระทู้นั้น ผมยืนถกเถียงแทนพลเอกเปรมประหนึ่งว่าเขาเคยมีบุญคุณกับผมอย่างล้นเหลือ หลังจากผมประกาศปิดกระทู้ท่ามกลางเสียงด่า ผมก็กลับมานั่งบ่นกับตัวเองว่า

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

ครั้งหนึ่ง

"ไอ้พรั่ง ไอ้เลว"

"ไปว่าเขาทำไม"

จากนั้นก็ถกเถียงกันด้วยเหตุผลก่อนจะปิดฉากด้วยการด่ากัน ผมไม่เชื่อว่าเด็กเตรียมทหารคนหนึ่งจะทำเรื่องเลวร้ายแบบนั้นได้
ด่ากันไปด่ากันมา หนึ่งวันเต็ม งานกองพะเนินเต็มโต๊ะ
เจ้านายเรียกมาด่า ผมมองกระทู้แล้วบ่นกับตัวเองว่า

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

ครั้งหนึ่ง

"พวกคุณถ้าไม่แน่ใจว่าสิ่งที่คุณทำนั้นถูกต้อง อย่าทำให้สนามหลวงต้องแปดเปื้อน" ผมเขียนปิดท้ายบทความด้วยประโยคนี้
ก่อนจะเขียนหัวข้อไว้สวยหรูว่า "สงสาร สนามหลวง"

ตอนนั้น นปก. ชุมนุมที่สนามหลวงและผมสงสัยว่าเขาไม่ได้ออกมา
เพราะต่อต้านรัฐประหาร
แต่เขาออกมาเพื่อต่อสู้เพื่อทักษิณ จากนั้นก็มีการถกเถียง
ส่วนใหญ่ด่าทอผม หาว่าผมเห็นประชาธิปไตยสำคัญน้อยกว่าสนามหลวง ผมแก้ตัวและเขียนให้แต่ละคนกลับไปทบทวนสิ่งที่เขาเหล่านั้นกระทำ

ต่อมาเริ่มแรง ผมยืนเดี่ยวอีกหนึ่งกระทู้ ความเห็นวิ่งฉิวผ่านหลักสิบเข้าหลักร้อย แต่ละครั้งความเผ็ดร้อนในวาจายิ่งมากขึ้น ก่อนจะปิดกระทู้หลังจากผ่านไปกว่า 24 ชั่วโมง

ผมง่วงหมดแรงอ่านกระทู้อีกรอบ
มองหาคนมาด่ารายล่าสุดก่อนจะปิดหน้าต่างด้วยความเหนื่อยอ่อน ผมบ่นกับตัวเองว่า

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

ย้อนกลับไปนาน ครั้งหนึ่ง

"พันธมิตรเขาก็มีสิทธ์ที่จะชุมนุม คุณจะไปว่าเขาทำไม"

"พวกมันดีแต่ด่า"

"ก็เขามีสิทธ์ด่า"

จากนั้นก็แลกน้ำลายผ่านคีย์บอร์ดกันเล็กน้อยแล้วเลิกรากันไป ผมไม่เห็นว่าพันธมิตรควรถูกด่าเพียงเพราะเขาออกมาไล่ทักษิณ ผมอ่านการตอบโต้ของผมกับกลุ่มคนรักเมืองไทย หลายประโยค
ทำให้ผมต้องส่ายหัวแล้วบ่นกับตัวเองว่า

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

ย้อนกลับไปอีก

"ไอ้พวกคนผ่านฟ้า พวกคุณบ้าเหรอไปสนับสนุนการปิดล้อมเนชั่นส์"

"พวกมันเป็นสื่อชั่ว ปกปิดความผิดให้สนธิ"

"แล้วพวกคุณทำถูกไหมล่ะ"

กระทู้นี้สองวันเต็ม ผมยืนตอบโต้กับคนผ่านฟ้าและไม่เห็นด้วยที่ทำเหตุุรุนแรง
หรือสนับสนุนคนที่ไปปิดเนชั่น สี่สิบแปดชั่วโมงเต็ม ๆ รับก้อนหินเต็ม ๆ
แต่เหตุการณ์นี้ก็ได้เพื่อนมาสองคน แต่สุดท้ายแล้วผมก็ต้องบ่นกับตัวเองว่า

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

ทุกครั้งผมเชื่อในการตัดสินใจของผม ไม่ว่าผมจะตัดสินใจผิดหรือถูกผมเชื่อในสิ่งที่ผมคิด
และผมรับผิดชอบกับความคิดของผมมากพอ กี่คนมาบ่ยั่น หลายคนมาบ่ถอย
ผมเชื่อแบบนี้ผมคิดแบบนี้ อย่ามาเปลี่ยนความคิดผม เพราะผมเชื่อว่าผมยืนข้างความถูกต้อง...

แต่ครั้งหนึ่ง

ผมอ่านหนังสือต่าง ๆ เปิดข่าวอ่านดูเยอะ ๆ แล้วกลับไปนอนคิด ตัดประเด็นทักษิณออกไป

"เอ๊ะ การรัฐประหารไม่ถูกต้องนี่ ไม่ว่าทักษิณจะเลวแค่ไหน การรัฐประหารไม่ใช่คำตอบ"

เขียนกระทู้ คนที่เคยเป็นเพื่อนผมก็เริ่มไม่แน่ใจในตัวผม หาว่าผมเปลี่ยนข้าง ผมอธิบาย เหตุการณ์นั้นเสียเพื่อนไปหนึ่งคน ผมนั่งอ่านกระทู้และคิดว่า

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

แต่ครั้งหนึ่ง

ผมอ่านข่าวมากขึ้นซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านหลายฉบับ เสพเวบทั้งสองด้านแล้ว
เริ่มแสดงความเห็น เขียนด่าคณะรัฐประหารเขียนด่าคณะทำงานเอาผิดทักษิณ

คนในเวบฝั่งพันธมิตรอย่าง ผู้จัดการและโอเคเนชั่น เข้ามารุมกันด่าผมด้วยคำที่รุนแรง
และไร้เหตุผลกว่าที่ผมเคยเห็นจากที่ใด ในราชดำเนินด่าแรง
แต่เขาก็ให้เหตุผล
แต่เวบผู้จัดการและโอเคเนชั่น ไม่มีเหตุผล
แต่ฉันจะด่า ผมยืนซัดจนเวบมาสเตอร์ต้องโทรมาเพื่อขอให้ผมยุติ เหตุเพราะว่าผมสร้างความเดือดร้อนให้เวบนั้น
ผมต้องร่ำลาเพื่อนที่รู้จักกันมาเป็นปี มองดูล็อกอินที่หายสาบสูญ

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรไป"

หลายเหตุผลเราไร้เหตุผล เรามีแต่สิ่งที่เราเชื่อ วันหนึ่งเราเชื่อในอย่างหนึ่ง
แต่อีกวันเราคิดตรงข้าม ผิดไหม ? ผมตอบตัวเองได้เลยว่าไม่ผิด
แต่ผมตัดความถูกต้องออก ทุกครั้งผมเชื่อว่าผมทำในสิ่งถูกต้องยืนเคียงข้างความถูกต้อง
เหลือเป็นคำว่า "ถูกต้องสำหรับผม ถูกต้องสำหรับความคิดของผม" เพราะถูกต้องของผมอาจไม่ถูกต้องของคนอื่น แต่ผมเชื่อว่า ผมทำในสิ่งถูกต้องแล้ว

ผมเคยด่า นปก. ยืนสู้กันทางความคิดและถกเถียงเชิงทะเลาะวิวาท นปก.เถื่อน เลว
ผมไม่เคยร่วมม็อบใด
ไม่เคยเป็นพวกใดและคิดว่าคนไทยไม่มีฝักฝ่าย
แต่จากที่ฟังมา นปก. ทำไมมันเลวแบบนี้
ผมเดินทางไปดูด้วยตัวเอง เห็นคน นปก. ต่อสู้ในทางอุดมการณ์ ต่อสู้ในรูปแบบของเขา ความรู้สึกเร้าใจและฮึกเหิมอย่างยิ่ง เผลอชมในใจ

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

วันนี้ ผมไปบริจาคเลือดที่ผ่านฟ้า หวังให้เลือดผมเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ในสิ่งที่ผมเชื่อ คนรู้จักกันมานานด่าผมหาว่าผมขายวิญญาณให้ปีศาจ ผมเถียง
และกลับมาเล่นเวบเจอพี่ที่เคยเคารพกัน อ่านข้อความเรื่องเลือดแล้ว ทนไม่ไหว
เพราะเขาคนนั้นหาว่าเลือดเสื้อแดงสกปรก เลือดของข้าจะสกปรกได้อย่างไร ผมใส่ล็อกอินลงไปโต้แย้งอย่างพองาม แล้วหวนคิดถึงวันเก่า ๆ ที่ผมเคยนับถือพี่คนนั้น

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

วันนี้ ที่เชียงราย ผมเดินไปบริจาคเงินให้เสื้อแดงเชียงราย คนเสื้อแดงเป็นการชุมนุมเพียงกลุ่มเดียวที่ผมบริจาคเงินให้ กลับมาได้ยินข่าวมีคนตาย... รัฐบาลขอพื้นที่สังเวยชีวิตคนไปหลายศพ น้ำตาผมไหล ผมสะอื้น รู้สึกอัดอั้น
ผมมารู้ตัวอีกทีน้ำตาผมนองหน้า

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

วันนี้ ที่เชียงราย หลังจากคับแค้นใจ ผมไปบริจาคเงินเพิ่ม คนประกาศกล่าวชมเชย ผมใส่เสื้อขาวแล้วรีบเดินกลับไปที่รถ ผมไปสู้ไม่ได้แต่อยากให้คนไปสู้แทน ผมมองเงินในกระเป๋าที่พร่องลงไปเกือบครึ่ง มันเป็นเงินครึ่งเดือนของผม

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

วันนี้ ผมเดินออกจากรถไฟฟ้าเดินไปตามสะพานลอยเชื่อมสถานี
ตรงฝั่งโน้นเป็นมาบุญครอง เบื้องหน้าเป็นยางรถที่กองทับกันมีไม้เหลาแหลมขัดกันไว้ นั่นคือประตูไปสู่เวทีการชุมนุม คนที่เดินผ่านประตูนี้ต้องเป็นไพร่หรือไม่ก็ต้องมีหัวใจไพร่ แต่ผมเลือดเป็นอำมาตย์ กายเป็นอำมาตย์ ผมมองประตูนั้นแล้วคิด ถ้าผมเดินเข้าไปผมจะกลายเป็นประชาชนชั้นสอง เป็นคนนอกของแผ่นดินไทย ผมเดินเข้าไป

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

วันนี้ ไปถึงที่ชุมนุมแดดร้อน มองเพื่อนรอบข้างเหนื่อยอ่อน เหงื่อเป็นสาย
ผมก็ร้อนแดดก็เยอะหิวด้วย ผมลุกไปซื้อน้ำซื้อขนมซื้อผ้าเย็น แต่ละอย่างเกินจำนวนกว่าที่ผมจะกินได้คนเดียวหมด
ผมส่งของเหล่านั้นเพื่อให้คนเอาไปแจกกัน ผมรู้ว่าทุกคนในนี้คงรู้สึกไม่ต่างจากผม
เขารับไปแล้วขอบคุณ เขาส่งขนมแบ่งให้ผม อีกคนยื่นน้ำมาให้
ทั้ง ๆ ที่ผมเพิ่งแบ่งน้ำให้คนอื่นไป เขายิ้มให้ผม ผมยิ้มให้เขา
ทั้ง ๆ ที่เราไม่รู้จักกัน ทำไมรู้สึกเหมือนว่าเราเป็นพี่น้องกันนะ ผมคิด ผมนิ่ง

"เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"

แม้คำว่า "เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป" จะเป็นเหมือนคำอุทานกับเหตุที่บังเอิญเกิดขึ้น... แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นทุกครั้งหลังจากที่ผมทำอะไรลงไปแล้ว
แม้เสียงจะเหมือนเป็นเหตุบังเอิญแต่ช่วงที่ผมทำ ผมเชื่อและศรัทธาในตัวผมเอง ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องสำหรับผม

และจากนี้ไปทุกการกระทำ ผมจะไม่อุทานว่า "เอ๊ะ นี่เราทำอะไรลงไป"
แต่จากนี้ไปผมจะกล่าวกับตัวเองว่า "นี่สินะ คือ สิ่งที่เราต้องทำ"


http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9211913/P9211913.html