WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, May 7, 2010

เหวง-ไพร่-เด็กดื้อ แสลงใหม่ 'วัฒนะ' ไม่ใช่ 'หายนะ' ทางภาษา

ที่มา ไทยรัฐ


Pic_81326

เหวง – ตู่ –กี้ร์ – วีระ – จตุพร - เด็กดื้อ - ขอคืนพื้นที่ - สลายการชุมนุม - โรดแมป - นิรโทษกรรม - ไอ้โม่ง- ผู้ก่อการร้าย - เกียร์ว่าง - เบื้องสูง - ปรองดอง - ไพร่ - อำมาตย์ ชนชั้นสูง รัฐไทยใหม่ สงครามประชาชน - ล้มปืน - ล้มทุน - ล้มเจ้า - ไพร่ BB - ไพร่แท้ - ไพร่เทียม - แดงแท้ - แดงเทียม - ทหารแก่ – ทหารแตงโม –ตำรวจมะเขือเทศ – นักข่าวสตอเบอรี่ - ทหารเสือราชินี ทหารเสือวงศ์เทวัญ - องค์กรอิสระ – เคเบิลทีวี- เนติบริกร- กาวใจ - แอบจิต – สว่างจิต - เป้หลังรัฐบาล - ส.ส.นอกไส้ - ปากกล้าขาสั่น – เปิดหน้าชก - น้ำหมักชีวภาพ – แดงทั้งแผ่นดิน- ป่วนเมือง – เลือดสาด – ม้วนเสื่อ - M79 – ทหารตุ๊ด - ขอนแก่นโมเดล - ไพร่ตัวแม่ ฯลฯ

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ยกเป็นตัวอย่างขึ้นมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัจจุบันการประดิษฐ์คำ และแสลงที่มีความหมายใหม่ขึ้นมากันอย่างมากมาย อีกทั้งคนในสังคมแทบจะทั้งประเทศยังเข้าใจในความหมายกันจนเป็นวงกว้างมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ชาติไทย คงไม่ผิดถ้าจะบอกว่าหลายปีที่ผ่านมาคำฮิตทางการเมืองได้รับความนิยมและดูท่าทางจะเป็นอมตะมากกว่าคำฮิตของวงการบันเทิงอย่างถล่มทลาย

คำถามก็คือคำการเมืองที่กำลังฮิตมากมายเป็นวงกว้างมันสะท้อนอะไร แล้วมีองค์ประกอบอย่างไรบ้างที่ทำให้คำเหล่านี้โด่งดังเป็นวงกว้างบ้าง...?

นายกิจมาโนชญ์ โรจนทรัพย์ หรือ ครูลิลลี่ ซึ่งเคยได้รับรางวัลเมขลา “รายการสำหรับเด็กและเยาวชนดีเด่น” ประจำปี 2545 จากรายการ “ภาษาไทยน่ารู้กับครูลิลลี่” วิเคราะห์เรื่องปรากฏการณ์คำการเมืองที่ฮอตสุดๆ ในรอบหลายปีว่า ถือว่าเป็นปีทองที่คำใหม่ หรือแสลงใหม่ๆ ทางการเมืองต่างๆ ได้รับความนิยมเป็นวงกว้างมากกว่าคำใหม่หรือแสลงใหม่ของวงการบันเทิง

“ถามว่าปรากฏการณ์คำใหม่ แสลงการเมืองใหม่ ที่คนประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างมากมายครั้งหนึ่งมันสะท้อนว่าอะไร มันสะท้อนว่าความเก่งกาจของคนประดิษฐ์ภาษา ประดิษฐ์คำชมหรือด่าในความหมายใหม่ที่ไม่ได้ใช้พูดตรงๆ เช่นคำว่า “อำมาตย์” ที่เสื้อแดงประดิษฐ์ความหมายใหม่ หรือแฝงนัยยะของคำนี้ หรืออย่างคำว่า “ไพร่” ที่คนเสื้อแดงเรียกตัวเอง และก็ได้รับความนิยมจนสื่อมวลชนนำไปขยายต่อ ซึ่งถือว่าเป็นคำที่สั้น - ง่าย และได้ใจความที่ครบหมดเลย ไม่ว่าจะแดกดัน ประชด ซึ่งจะเป็นไพร่แบบคำกริยา หรือจะเป็น “ไพร่” แบบคำนามก็มีทั้งนั้น หรือคำที่เขาประดิษฐ์กันอย่างคำว่า “สงครามชนชั้นต่ำ” เขาก็ใช้ไปเปรียบกับคำว่า “ไพร่” ซึ่งจริงๆ ในสมัยประชาชนโบราณแล้วคำว่า “ไพร่” มันก็คือ “ประชาชนทั่วไป” ไม่ว่าจะเป็นไพร่สม ไพร่ส่วย ไพร่หลวง ที่สมัยก่อนเขาก็เรียก “ไพร่” แต่กลับประดิษฐ์คำและความหมายใหม่ๆ ขึ้นมาจนได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง แม้กระทั่งเด็กๆ ชั้นประถมที่เมื่อก่อนไม่เคยสนใจการเมืองกลับสนใจพร้อมกับนำคำการเมืองใหม่ๆ เหล่านี้ไปพูด-คุยและโพสต์กันในเฟซบุ๊ก”

ครูลิลลี่ กล่าวว่า ในฐานะผู้ที่อยู่กับภาษาไทย และเฝ้ามองภาษาไทยก็ต้องขอชื่นชมคนที่คิดคำใหม่ และแสลงใหม่ๆ ทางการเมืองขึ้นมาแล้วทำให้ได้รับความนิยมและสร้างการรับรู้อย่างถล่มทลาย ซึ่งส่วนใหญ่คนที่สร้างสรรค์คำเหล่านี้ได้ก็เป็นสื่อสารมวลชนที่จะต้องพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ทุกๆ วัน ให้พอดีกับเนื้อที่จำกัดให้สั้นกระชับ ซึ่งแม้แต่ครูภาษาไทยยังคิดไม่เก่งเท่าเลย

เมื่อถามว่าในฐานะผู้เชี่ยวชาญภาษาไทยชอบคำ-แสลงใหม่ ความหมายใหม่ทางการเมืองคำไหนบ้าง

“ส่วนตัวคำว่า “เหวง” โด่งดังที่สุด แต่อย่างไรก็ดีส่วนตัวค่อนข้างสงสารเจ้าของชื่อแม้หลายคนจะสะใจ แต่ถ้าเราลองเป็นลูกหลาน หรือเป็นคนที่ชื่อเหวงจะทำอย่างไรเนื่องจากคำๆ นี้มันจะต้องติดตัวเขาไปตลอด หรืออย่างคำว่า “ปรองดอง” ที่นายกฯ เพิ่งพูด จริงๆ มันมีความหมายว่าสมานฉันท์นั่นแหละ แต่เราเชื่อว่าที่ท่านใช้คำนี้เพราะว่าคำว่า “ปรองดอง” มันฟังแล้วรู้สึกว่าง่ายกว่า เข้าใจง่ายกว่า มันเหมือนจับต้องได้ แต่คำว่าสมานฉันท์มันเหมือนเป็นอุดมคติมากกว่า บางทีคำมันก็สูงไป หรืออย่างคำว่า “เด็กดื้อ” ที่เขาใช้เรียกนายกฯ ก็ดีเพราะมันเป็นคำที่มีความหมายมันก็ลึกกว่านั้น ทั้งความคิดเป็นเด็กหรือทำตัวเป็นเด็ก ซึ่งคนคิดคำนี้ขึ้นมาก็ถือว่าเก่งมากๆ เนื่องจากสามารถใช้คำว่าทั้งเด็ก ทั้งดื้อ ไร้เดียงสา ไม่โต ทั้งสองตัวนี้ถ้าเอามารวมกัน”

แต่ถามว่าในฐานะครูคำไหนชื่นชอบมากที่สุดในปรากฏการณ์คำการเมืองมากมายในปัจจุบัน ครูลิลลี่ บอกว่า ส่วนตัวชอบคำว่า “ไพร่” เนื่องจากคำนี้มันเป็นคำนาม กริยา วิเศษณ์ กินความหมายได้หมดจริงๆ ต้องชื่นชมว่าคนคิดคำนี้เก่งมาก แต่ว่าระวังคิดแล้วมันจะเข้าตัวเองซึ่งก่อนตั้งเขาลืมไปว่าไพร่จริงๆ แล้วมันมีหลายความหมาย มันสามารถเอามาโจมตีฝ่ายตรงข้ามได้

“ถามว่าอะไรที่เป็นองค์ประกอบให้คำฮิตในช่วงเวลานั้นๆ ยืนยาว น่าจะเป็นคำที่พูดออกมาแล้วสั้น ออกเสียงสะใจ อย่างคำว่า “ตัวพ่อ” “ตัวแม่” ก็เป็นคำเกิดขึ้นมาใหม่แต่ก็ยังคงอยู่จนถึงวันนี้ เพราะคำคำนี้มันออกเสียงได้สะใจ ได้อารมณ์ ที่สำคัญความหมายมันโดน ซึ่งถ้าหากมองให้ดีคำเหล่านี้ถือว่าเป็น “วัฒนะ” มากกว่าจะเป็น “หายนะ” เพราะดูแล้วมันเกิดความเจริญงอกงามทางภาษา”

ครูลิลลี่ยังฝากทิ้งท้ายไปถึงคนที่ประดิษฐ์ภาษาใหม่ๆ ขึ้นมาว่า แม้ทั้งหมดจะแสดงถึงความเป็นอิสระและเสรีภาพทางความคิด แต่ก็อยากให้ระวังนิดนึงเพราะเวลาสร้างคำหรือใช้คำ โดยเฉพาะคำว่า “ล้มเจ้า” ก็ควรจะต้องระวังให้จงหนักเพราะคำว่า “เจ้า” จะไปดึงท่านลงมาเล่นทำไม ไม่น่าจะใช้คำนั้นเพราะมันง่ายเกินไปและไม่บังควร คนประดิษฐ์คำนี้เหมือนไม่ให้ความเคารพ ไม่ว่าฝ่ายไหนพูดก็ต้องระวังให้มากๆ เพราะการประดิษฐ์คำอะไรขึ้นมาใหม่ๆ ต้องให้เกียรติกันด้วย

เช่นเดียวกับ รศ.สุนีย์ สินธุเดชะ หรือ อาจารย์แม่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ที่ระบุว่า ไม่ว่าจะบัญญัติคำ หรือแสลงอะไรขึ้นมาใหม่ สิ่งหนึ่งที่อยากจะแนะนำก็คือ ต้องให้เกียรติของความเป็นคน

“ภาษามันมีชีวิต มันดิ้นได้ แล้วก็เปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย ก็แล้วแต่ว่าจะใช้กับบุคคลใด แต่ว่าในปัจจุบันนี้มักจะใช้คำไม่เหมาะสมมากๆ เนื่องจากคนไม่เคารพวัฒนธรรม ก็อยากให้คิดว่าภาษาที่เราตั้งๆ ขึ้นมามันเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาอยู่เสมอ พอมีคำไหนฮิตๆ มา ก็ตามกระแส มาแล้วก็ไป แต่สิ่งที่สำคัญก็คือควรคิดไว้เสมอว่าเราเป็นคนไทย ควรจะใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง” อ.แม่ กล่าวในที่สุด.