ที่มา Thai E-Newsเวย์น เฮย์ ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีรา วิพากษ์กรณีที่ภาพถ่ายชายถือปืนของสำนักข่าวอัลจาซีรา ถูกนำมาใช้ทางการเมืองอย่างกว้างขวางจากทุกฝ่ายในไทย พร้อมวิพากษ์ว่าวิกฤตการเมืองไทยครั้งนี้อยู่ภายใต้การบิดเบือนข้อมูล ข่าวลือและการตั้งข้อสังเกต พร้อมระบุ ทีมข่าวไม่ได้บ่งชี้ความเชื่อมโยงอะไรระหว่างชายดังกล่าวกับการตายของทหาร เมื่อวันที่ 28 เม.ย.
ที่มา บล็อกอัลจาซีร่าร์
แปลโดย Tantawer
1 พฤษภาคม 2553
มันเป็นเรื่องน่าสนเท่ห์มากที่ภาพถ่ายเพียงช็อตเดียวของชายที่ถือปืนจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง
ขณะที่เรากำลังบันทึกการต่อสู้ระหว่างผู้ประท้วงรัฐบาลกับกองกำลังฝ่าย ความมั่นคงเมื่อวันที่ 28 เม.ย. นั้น เราเห็นคนเสื้อแดงหลายคนเคลื่อนตัวเข้าใกล้แนวทหารและตำรวจอย่างลับๆ ล่อๆ
หนึ่งในนั้นถือปืนพก ซึ่งเบน อีเมอรี่ ช่างภาพของเรา บันทึกภาพไว้ได้ และแน่นอนว่าเราใช้ภาพนั้นในการรายงานเรื่องของวันนั้น
ปรากฏว่าภาพถ่ายช็อตนั้นดึงดูดความสนใจจากคนไทยจำนวนมาก เพราะมันกลายเป็นหลักฐานแสดงว่าคนเสื้อแดงบางคนพกพาปืนจริงๆ
ภาพนั้นถูกฉายซ้ำไปซ้ำมาในสถานีโทรทัศน์ของไทย และก็ถูกใช้ในหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ และตอนนี้ก็ถูกใช้ในการต่อสู้กันทางการเมืองด้วย
ผู้นำฝ่ายเสื้อแดงพูดถึงภาพนี้บนเวที และพรรคเพื่อไทยก็ใช้ภาพนี้ในการแถลงต่อผู้สื่อข่าว พวกเขาต่างอ้างว่ารัฐบาลและสื่อไทยใช้ภาพนี้เพื่อจะโจมตีพวกเขา แทนที่จะบอกความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้น
การถกเถียงเหล่านี้เบี่ยงเบนไปจากข้อเท็จจริง
ควงปืน
ภาพผู้ชายในช็อตที่ถ่ายได้มานั้นชัดเจนว่าถือปืน เขาผูกผ้าพันคอสีแดงและเคลื่อนที่ช้าๆ ไปทางตำรวจและทหารขณะที่เขาดึงเอาปืนออกมาจากกระเป๋า
เขาอยู่ทางขวาของพวกเรา และมีอีก 3 คนในทีมของเราที่เห็นภาพนี้ด้วยสายตาของตัวเอง เราเห็นเพียงแค่ชายคนหนึ่งถือปืน แต่เขาก็เดินลับๆ ล่อๆ ไปมาในที่นั้นเช่นเดียวกับผู้ชายคนอื่นๆ หนึ่งในนั้นสวมชุดดำทำให้ผมหวาดระแวงไปถึงเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 10 เม.ย.
พวกเขาเป็นสายของรัฐบาลหรือทหารอย่างที่คนเสื้อแดงสงสัยหรือไม่? ก็อาจเป็นได้ และพวกเขาก็อาจจะเป็นมือที่สามที่จะสร้างสถานการณ์ก็ได้ หรือพวกเขาอาจจะเป็นคนเสื้อแดงธรรมดาก็ได้
แกนนำยังคงปฏิเสธว่าคนเสื้อแดงไม่ได้พกปืน แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้ในสถานกาณ์ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วคือการรายงานตาม สิ่งที่เราเห็น และเราเห็นผู้ชายผูกผ้าพันคอแดงควงปืน
ประการที่ 2 และเป็นประเด็นที่สำคัญมากในวันนั้นคือ การไม่เชื่อมโยงกับการฆาตกรรมทหาร ซึ่งอาจจะเป็นการตายโดยทหารยิงกันเอง รัฐบาลยังคงนิ่งเงียบอย่างยิ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ทำให้ทหารตาย
การบิดเบือนข้อมูล
แม้จะมีการแถลงว่าอยู่ระหว่างการสอบสวน แต่ภาพชายถือปืนของเรากลับถูกอ้างอิงถึง ภายใต้คำแถลงที่ว่า มีความเป็นไปได้ที่มี 'ผู้ก่อการร้าย' แทรกซึมอยู่ในหมู่ผู้ประท้วง ทิศทางของลูกปืนมาจาก, ภาพวีดีโอของอัลจาซีราแสดงภาพของ 'ผู้ก่อการร้าย' ถืออาวุธ และในผลการชนสูตรพบว่าเป็นสาเหตุการตายของทหาร
แม้ว่าจะมีความพยายามจากหลายองค์กรที่พยายามจะบิดเรื่องราว แต่เราไม่มีทางใดเลยที่จะบ่งชี้ว่าผู้ชายที่เราถ่ายภาพได้พร้อมกับปืนนั้นมี ส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการตายของทหาร เราถ่ายภาพเขาประมาณ 1 ชม. ก่อนที่เราจะเห็นร่างของทหารถูกหามออกไป
วิกฤตการณ์ที่ต่อเนื่องครั้งนี้ถูกครอบงำโดยการบิดเบือนข้อมูล ข่าวลือและการตั้งข้อสังเกต รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงปราศจากสิ่งหนึ่งนั่นก็คือคำอธิบายที่ชัดเจนซึ่ง ต้องปรากฏเดี๋ยวนี้
โชคดีอย่างที่สุด
เปรียบเทียบกับเหตุการณ์ระเบิดที่สีลมเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ภายหลังการระเบิด ทหารประกาศผ่านลำโพงว่าเป็นการกระทำของคนเสื้อแดง และในคืนเดียวกันนั้น รองนายกรัฐมนตรีก็กล่าวว่าระเบิดนั้นถูกยิงมาจากทิศทางของพื้นที่การชุมนุม ของคนเสื้อแดง การสืบสวนสอบสวนอยู่ที่ไหน?
จากที่ผมได้เป็นพยานในการต่อสู้ด้วยปืนเมื่อวันที่ 28 เม.ย. ต้องถือว่าเป็นโชคดีอย่างที่สุดที่ไม่มีประชาชนถูกฆ่าหรือบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารนั้นได้รับสัญญาณเตือนที่มากเพียงพอว่าคนเสื้อแดง กำลังเดินทางมา พวกเขาเดินทางด้วยมวลชนจำนวนมากและชี้บ่งได้โดยง่าย พวกเขาควรจะให้ผู้ใช้รถอื่นๆ เบี่ยงเส้นทางออกไป
แต่แทนที่จะทำเช่นนั้น ประชาชนผู้บริสุทธิ์กลับถกขนาบอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลและคน เสื้อแดง ประชาชนจำนวนมากยังคงอยู่ในรถยนต์ หลังเพียงว่าจะได้รับการปล่อยให้ไปในที่สุด แต่ทหารเริ่มต้นยิงปืน ประชาชนก็ตกอยู่ในกับดัก นอนลงในรถของตัวเอง พยายามหลบจากการถูกยิงขณะที่คนอื่นๆ ก็วิ่งหาที่ปลอดภัยที่ฝั่งตรงข้ามของถนน
สิ่งนี้ไม่ควรจะได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้น พวกเขาควรจะเคลียร์คนออกจากพื้นที่ได้โดยง่ายก่อนที่คนเสื้อแดงจะมาถึง คนถูกฆ่าตายไป 27 คนแล้ว และอะไรที่สมควรจะทำก็ควรจะทำเพื่อเป็นหลักประกันว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจะ ไม่เพิ่มจำนวนขึ้นอีก