ที่มา ประชาไท เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.53 เวลาประมาณ 12.00 น. ณ ศาลาวัดอรุณธรรมรังษี บ้านโนนสมบูรณ์ ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี สภาผู้ชมและผู้ฟังรายการขององค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือทีวีไทย จำนวนกว่า 70 คนได้เดินทางมาเพื่อรับฟัง และแลกเปลี่ยนในประเด็นปัญหาของชาวบ้านในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ โดยมีกลุ่มชาวบ้านที่จากหลายพื้นที่ อาทิ กลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากการขุดลอกลำห้วยพะเนียง จ.หนองบัวลำภู กลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากแนวสายส่งไฟฟ้าแรงสูง ขนาด 500 กิโลโวลต์ (น้ำพอง 2 – อุดรธานี 3) และกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่โครงการเหมืองแร่โปแตช จ.อุดรธานี บรรยากาศในเวทีเป็นไปอย่างเป็นกันเอง เริ่มจากการรับประทานอาหารร่วมกันในมื้อเที่ยง มีการแลกเปลี่ยนสนทนากันระหว่างรับประทานอาหาร หลังจากนั้น เมื่อเริ่มเวทีคุย ก็มีการเล่าถึงสภาพปัญหาของแต่ละพื้นที่ โครงการพัฒนาต่างๆที่สร้างผลกระทบกับชาวบ้าน แนวทางการเคลื่อนไหว ต่อสู้ของแต่ละพื้นที่ประสบการณ์ต่างๆ มีการถาม-ตอบกันอย่างไม่ขาดสาย ตลอดจนการมีข้อเสนอ และให้กำลังใจกันและกัน พ่อวิเชียร ศรีจันทร์นนท์ หนึ่งในชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการขุกลอกลำพะเนียง จังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวว่า ตนเป็นหนึ่งในประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาของรัฐ การพัฒนาที่ไม่ได้เกิดจากการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ที่รัฐเอามาวางไว้หน้าบ้าน ทุกวันนี้โครงการขุดลอกลำพะเนียงได้สร้างผลกระทบกับวิถีชีวิตตนและชาวบ้านในแถบเดียวกันอย่างยิ่ง เช่น การหาอยู่หากินที่ยากขึ้นเนื่องจากปลา และพืชน้ำหลายชนิดหายไปกับการขุดลอกดังกล่าว นอกจากนี้ยังต้องเสียเงินลงทุนในการสูบน้ำขึ้นมาใช้ในการเกษตรมาขึ้นกว่าเก่าหลายเท่าตัวอีกด้วย ดังนั้น ตนจึงอยากให้สื่ออย่างทีวีไทยมาช่วยนำเสนอถึงปัญหา ณ จุดนี้ไปสู่สาธารณชนด้วย พ่อบุญเลี้ยง โยธะกา ตัวแทนจากคณะกรรมการชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากแนวสายส่งไฟฟ้า (คชส.) กล่าวว่า ทุกวันนี้ตนต้องนอนทุกข์ เพราะกำหนดชะตาชีวิตของตนเองไม่ได้ แนวสายส่งไฟฟ้าที่พาดผ่านบ้านและที่นานั้น ขนาด 500 กิโลโวลต์จะทำให้มีโอกาสเกิดโรคต่างๆ เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว และที่ดินผืนดังกล่าวก็จะไม่สามารถนำไปจำนอง หรือขายไม่ได้ราคา ค่าชดเชยที่ทางไฟฟ้าจะจ่ายให้นั้นแม้จะมาก แต่ถ้าเทียบกับที่ทำกินทั้งชีวิตตลอดจนรุ่นลูกรุ่นหลานแล้วไม่คุ้มกัน “ขอบคุณทางสภาผู้ชมและผู้ฟังเป็นอย่างมากที่มารับฟังเรื่องราวความทุกข์ของชาวบ้าน โดยเฉพาะการนำเสนอเรื่องราวเหล่านี้ให้ไปสู่สังคมภายนอกให้ได้รับรู้ ให้เรื่องราวของชาวบ้านเป็นแบบอย่าง เป็นแนวทางให้คนทั่วไปได้คิดว่า สิ่งที่รัฐเอามาให้ชาวบ้านนั้นไม่ใช่สิ่งที่ดีและถูกต้องเสมอไป” แม่จันทา สัตยาวัน แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมจังหวัดอุดรธานี เล่าให้พี่น้องในเวทีฟังว่า “ทุกวันนี้ ความเจริญจากข้างนอกที่รัฐเอามาให้นั้น ได้ทำลายความเป็นชุมชนท้องถิ่นไปมาก คนสะดวกสบายจนลืมวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น ยิ่งตอนนี้ชาวบ้านกำลังต่อสู้กับโครงการเหมืองแร่โปแตชที่กำลังเกิดขึ้นในชุมชน ทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมาย เช่น ความแตกต่างในชุมชน จึงอยากฝากทางรายการทีวีไทยให้ไปบอกสังคมข้างนอกว่า ความเจริญในความหมายของรัฐ กับความเจริญในความหมายของชาวบ้านไม่เหมือนกัน อย่ายัดเยียดอะไรที่ใหญ่เกินตัวมาให้พวกแม่อีกเลย” นายกิตติชัย ใสสะอาด ประธานสภาผู้ชมและผู้ฟังรายการทีวีไทย กล่าวว่า การที่ตนได้มีโอกาสรับฟังปัญหาชาวบ้านในครั้งนี้ ถือว่าเป็นผลดีอย่างยิ่ง จะได้รวบรวมข้อมูลที่สะท้อนความต้องการ ของผู้ชมและ ผู้ฟังรายการทีวีไทย ตลอดจนจัดทำข้อเสนอแนะที่มีเหตุผลสนับสนุนที่สมบูรณ์จากข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ เสนอต่อคณะกรรมการบริหาร และคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. เพื่อให้ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ประธานสภาผู้ชมฯ ยังกล่าวให้กำลังใจกับกลุ่มชาวบ้านว่า “การต่อสู้ของชาวบ้านแต่ละพื้นที่ถือว่าเป็นตัวอย่างที่สำคัญมาก และต้องบอกว่าขอให้ทุกคนสู้ต่อไป อย่าท้อ การคิดที่จะพึ่งตนเองต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นสิ่งที่ควรยกย่องและนำเสนอต่อคนอื่นอย่างยิ่ง” นายกิตติชัย กล่าว ด้านนายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ ผู้ประสานงานศูนย์ข้อมูลสิทธิมนุษยชนและสันติภาพ (ศสส.) อีสาน กล่าวว่า ตนทำงานกับชาวที่ได้รับผลกระทบอย่างนี้เป็นเวลานาน ส่วนหนึ่งที่สำคัญของการเคลื่อนไหวของกลุ่มชาวบ้านก็คือ สื่อต้องมีบทบาทสำคัญเพื่อมาช่วยหนุนเสริม เพื่อขับเคลื่อนประเด็นในพื้นที่ และชาวบ้านก็มีช่องทางการสื่อสารของตน เช่น วิทยุชุมชน จดหมายข่าว เขียนข่าวส่งให้กับสื่อ ต่างๆ ทั้งนี้ ก็เพื่อนำเสนอประเด็นปัญหา ข้อเท็จจริงของชาวบ้านในพื้นที่ออกสู่สาธารณะ
หวานเจี๊ยบบบบ
5 hours ago