WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, June 19, 2010

อายตัวเอง

ที่มา โลกวันนี้


คอลัมน์
บทบรรณาธิการ
จากหนังสือพิมพ์ โลกวันนี้
ปีที่ 11 ฉบับที่ 2822 ประจำวัน ศุกร์ ที่ 18 มิถุนายน 2010
โดย หนังสือพิมพ์โลกวันนี้รายวัน

ครบ 1 เดือนสำหรับการปิดล้อมฆ่าและทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นอกจากไม่มีความคืบหน้าใดๆ ทั้งการจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษ หรือการเปิดเผยรายละเอียดผลการพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ศพ ว่าเกิดจากอะไร แถมนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และผู้เกี่ยวข้องในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ก็ไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆกับการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชาชนจำนวนมาก

ทั้งยังกลับกล่าวหาและตอกย้ำว่าต้องดำเนินการกับผู้ก่อการร้ายและผู้สนับสนุนอย่างเด็ดขาด ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่รัฐบาลและ ศอฉ. ระบุว่ามีความจำเป็นต้องคง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินต่อไป จนมีคำถามว่าแล้วจะเดินหน้าแผนปรองดองได้อย่างไร

ประเด็นสำคัญขณะนี้จึงไม่ใช่แผนปรองดองหรือการปฏิรูปประเทศอย่างที่กำลังตีปี๊บกันทั่วบ้านทั่วเมืองขณะนี้ เพราะตราบใดที่รัฐบาลและ ศอฉ. ยังถือว่าเป็นฝ่ายที่ทำทุกอย่างถูกต้องทั้งทางกฎหมายและทางการเมือง ไม่ได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือใช้อำนาจไม่เป็นธรรมใดๆกับประชาชน ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ประกาศว่านักการเมืองต้องมีสำนึกและสปิริตสูงกว่าคนทั่วไป ความรับผิดชอบทางการเมืองจึงต้องมาก่อนความรับผิดชอบทางทางกฎหมาย เมื่อทำผิดต้องกล้ารับผิด โดยไม่ต้องรอกระบวนการกฎหมายสิ้นสุด

แต่วันนี้นายอภิสิทธิ์กลับเพิกเฉยที่จะแสดงความรับผิดชอบกับการตัดสินใจสั่งให้ทหารพร้อมอาวุธสงครามและยุทโธปกรณ์ต่างๆเข้าล้อมปราบประชาชนที่ชุมนุมทางการเมืองเพียงแค่เรียกร้องให้ยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากมาย ทั้งยังเห็นดีเห็นชอบกับการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งนายอภิสิทธิ์เคยต่อต้านว่าเป็นกฎหมายที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน

เช่นเดียวกับกฎเหล็ก 9 ข้อที่นายอภิสิทธิ์ประกาศเป็นแนวทางในการบริหารประเทศ โดยรัฐมนตรีทุกคนต้องคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน พฤติกรรมใดๆซึ่งนำไปสู่ความไม่เชื่อมั่นต้องระวังเป็นพิเศษ รัฐบาลต้องเชื่อมั่นในวิถีทางประชาธิปไตย และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม รัฐบาลต้องพร้อมรับการตรวจสอบทั้งในเชิงนโยบายและเรื่องอื่นๆ รัฐมนตรีทุกคนไม่มีสิทธิเหนือประชาชนในแง่การปฏิบัติตามกฎหมาย

การประกาศแผนปรองดองและปฏิรูปประเทศจึงมีคำถามว่านายอภิสิทธิ์มีความจริงใจหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ไม่ได้ทำอย่างที่พูด หรือทำอย่างพูดอย่าง โดยเฉพาะความยุติธรรมและความเสมอภาค ซึ่งล่าสุดองค์การสหประชาชาติยังติงรัฐบาลไทยให้หยุดการละเมิดสิทธิมนุษยชน เร่งแก้ปัญหาความแตกแยกร้าวลึก ไม่ 2 มาตรฐาน ไม่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ และคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชน โดยการเลือกตั้งที่อิสระและเป็นธรรม ซึ่งนายอภิสิทธิ์สามารถทำได้ทันทีหากยังมีภาวะผู้นำของประชาชนที่แท้จริง