ที่มา บางกอกทูเดย์ ระบบต้องแน่น..ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ “การเมือง” หรือ“การบอล” จะต้องมี “สูตร” ที่ดีและนำมาใช้เพื่อความเหมาะสมกับทีมจึงจะประสพความสำเร็จ!! “ฟุตบอล” สูตรหลักๆ ที่หลายทีมนำมาใช้จนเป็น “แชมป์โลก” เท่าที่เห็นมีระบบ 4-4-2 หรือไม่ก็ 4-3-3- บางครั้งอาจจะเป็น 4-3-2-1 ไม่มีโค้ชคนไหนเอา “นักฟุตบอล” มาวิ่งสะเปะสะปะ เต็มสนาม ไม่มี กองหน้า กองกลาง กองหลัง บอลไปไหนนักบอลก็เฮโลไปนั่น อย่าว่าแต่ ทีมนั้นจะง่อยแดกเลย..คนดูก็เวียนหัว!! “การเมือง” ก็เฉกเช่นเดียวกัน..แต่ละ “รัฐบาล” ก็ต้องมี “สูตร” เฉพาะตัวว่าจะเล่นระบบไหนจึงจะเหมาะ…อาจจะเป็น 5 -8 -10 หรือ 12 หมายความว่า “กลุ่มคุณ” หรือ พรรคของคุณ มี ส.ส. หรือ “มีเสียง” เท่าใด ..ก็เอาตัวเลขหรือสูตรเหล่านี้มา “หาร” ออก นั่นละคือตำแหน่ง “รัฐมนตรี” ที่พวกคุณจะได้ มันก็เป็นมาอย่างนี้แหละครับ เจ๊เล้ง!! โดยเฉพาะ รัฐบาล ของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ผ่านมาใช้ “สูตรพิเศษ” กับนักการเมืองพรรคร่วมซึ่งเป็น สูตร ลด แลก แจก แถม อุตลุต!! โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย มีนักฟุตบอลถูกจัดให้มายืนอยู่ในตำแหน่ง “ศูนย์หน้า” มากที่สุด!..สามารถที่จะเข้าทำ “ประตู” ได้ดีกว่าผู้เล่นในตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งมีทั้ง มหาดไทย เบ้อเริ่มเทิ่ม!..คมนาคม งบกระจุย! หรือ พานิชย์ ที่สามารถจะ “เตะไซด์ก้อย” ลอยเข้าประตูแบบพิลึก พิลั่น.. ให้คนดูงง-งวยได้ ทำให้ พรรคเพื่อแผ่นดิน ถึงกลับยอมโหม่ง “ประตูตัวเอง”..เพราะทนไม่ไหว ยอมรับ “ใบแดง” ดีกว่า!! แม้ “นายกฯ อภิสิทธิ์” ที่พูดจนคอแหบคอแห้งในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทย เรื่อง “การปฏิรูปประเทศไทย” แต่.. ก็ไม่มีคนเชื่อ!! เพราะจากการสำรวจของ สำนักเอแบคโพลล์ ถึงร้อยละ 66.3 เปอร์เซ็นต์ไม่เชื่อว่านายกฯ จะทำได้ตามที่แถลง..ผลมาจาก “สูตรการเมือง” ที่มีระบบไม่ปรกตินั่นเอง!! ผู้จัดการรัฐบาลน่าจะลองสูตรใหม่นะครับ.. “สูตรเตี๋ยว” ก็ไม่เลว!!