รู้สึกว่าหลังทราบผลเลือกตั้งแล้ว และหยุดฉลองปีใหม่มา ประเด็นทางการเมืองไม่ได้มีอะไรที่ตื่นเต้น มากมายนัก แม้มีเรื่องราวหลายๆ อย่างเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นที่อยู่เหนือความคาดหมายนัก ผมสรุปประเด็นได้ดังนี้
1. เรื่องการแจกใบแดง ก็อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว และคิดว่าพรรคพลังประชาชนก็คงคาดหมาย แล้วว่าจะโดนแจกใบแดง และก็คงหาทางแก้เกมได้ไม่ยากนัก เพราะประชาชนเลือกข้างไปแล้ว แจกใบแดงไป ก็ไม่มีผลให้คนที่ลงคะแนนให้ พปช. หันไปเลือก ปชป. อย่างมากคนก็เลือกพรรคเล็กที่คาดว่าจะมาอยู่กับ พปช. หรือ พปช. อาจเจรจาให้พรรคพันธมิตรเช่น พรรคประชากรไทย หรือพรรคอื่นๆ ส่งคนลงแทน และประชาชน ก็คงไม่เปลี่ยนข้าง ใบแดงจะกี่ใบ ก็ไม่มีผลให้คนเปลี่ยนข้างอย่างที่พวกอำมาตย์คาดหวัง
2. เรื่องจัดตั้งรัฐบาลมันก็เป็นไปตามความคาดหมาย สุดท้าย พรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคชาติไทย หลังจากดีดดิ้น กระบิดกระบวนเล็กน้อย แล้วก็จะรีบหอบผ้าหอบผ่อนตามมาทันที ส่วนข้อเสนอต่างๆ ทำพอเป็นพิธีเท่านั้น แต่จุดประสงค์หลักคือ ต่อรองโควต้า รมต. ประเด็นหลักของการจัดตั้งรัฐบาลของ พรรค พปช. ก็คงอยู่ที่การเจรจาโควต้า รมต. เท่านั้นว่าใครควรจะได้ตำแหน่งอะไร พรรคไหนได้โควต้า รมต. กระทรวงไหนบ้าง และได้กี่กระทรวง
3. เรื่องใหญ่และสำคัญ เกี่ยวกับสมเด็จพระพี่นางทรงเสด็จสู่สวรรครรไล ก็อยู่ในความคาดหมายของคนไทย อยู่แล้ว เพราะท่านทรงพระประชวรมานานแล้ว และก็มีรายงานของสำนักพระราชวังออกมาตลอด เรื่องนี้เป็นไปตาม กฎอนิจจัง มีเกิด มีแก่ มีเจ็บมีตาย เป็นธรรมดาโลก และท่านก็ไปตามอายุขัยของท่าน ไม่ได้จากไปอย่างปัจจุบัน ทันด่วนอย่างคุณพุ่ม แม้จะน่าเศร้า แต่ชาวพุทธถือเป็นเรื่องธรรมดาโลก แม้แต่พระพุทธองค์ยังคงเข้าสู่ปรินิพพาน มนุษย์ธรรมดาก็คงเลี่ยงไม่พ้น
4. การแถลงตั้งรัฐบาลอาจชะลอไปสองสามวัน เพื่อไว้อาลัยแด่สมเด็จพระพี่นาง
5. เรื่องมือที่มองไม่เห็นแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล ก็อยู่ในความคาดหมายอยู่แล้ว ไม่แทรกแซงซิจึงแปลก และแม้จะ'มือมองไม่เห็น' แต่คนก็เห็นตัวโค่โล่ว่าใครแทรกแซง ก็คงไม่พ้น พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่กลายเป็น คนบาปของแผ่นดิน แม้จะทำให้การตั้งรัฐบาลยุ่งยากไปบ้าง ล้าช้าไปบ้าง บ้านเมืองวุ่นวายขึ้นบ้าง น่าเบื่อหน่ายบ้าง แต่ก็จะไม่มีผลต่อทิศทางทางการเมืองในขณะนี้ เพราะ ประชาชนได้ตัดสินออกมาชัดเจนแล้ว และแรงบีบของสังคม ที่เบื่อหน่ายความวุ่นวายไม่รู้จักจบ ที่มีที่มาจาก พล.อ.เปรม นี้ ก็จะเกิดแรงต้านของสังคมส่วนต่าง ๆ ขึ้นมา เพราะคาดว่าทุกคนอยากให้มันจบแล้ว คนจะได้ทำมาหากินเสียที ประชาชนทั่วไป นักธุรกิจการค้า อุตสาหกรรม ทั้งหลายเจ็บมากพอแล้ว
6. พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร คงสบายใจและคงจะกลับเมืองไทยในช่วงครึ่งปีนี้ และแม้ว่าอาจจะยังคง มีเรื่องยุ่งยากอยู่บ้าง แต่เกมการเมืองจากฝ่ายตรงข้าม ก็อยู่ในวิสัยที่จะควบคุมได้ ชัยชนะทางการเมืองนั้น มองเห็นได้ชัดเจนแล้ว แต่จะทำให้มันราบเรียบหมดจดได้อย่างไรเท่านั้นเองคือสิ่งที่จะต้องจัดการ หากแสดงออก ถึงการให้อภัยอย่างแท้จริง และทุ่มเทกับการแก้วิกฤตเศรษฐกิจของชาติ แม้ขนะนี้จะอยู่ต่างประเทศ ก็อาจเดินสายเงียบ ๆ เจรจาทางการค้า และชัดจูงนักลงทุนต่างประเทศให้มั่นใจเศรษฐกิจไทย คาดว่าชาวโลกจะให้ความเชื่อถืออย่างยิ่ง
สรุปแล้ว ตอนนี้ฝ่ายตรงข้าม พปช. ขาด 'อาวุธสำคัญ' ที่จะรุกตอบโต้ ผมคาดว่า กกต. แม้จะมีความโน้ม เอียงลำเอียง อยู่บ้าง แต่ก็ไม่สุดกู่น่าเกลียดจนเกินไป ยังมีแรงทัดทานกันอยู่ ยังมียางอายกันอยู่ ทำให้ กกต. ไม่เป็นเครื่องมือที่ทรงประสิทธิภาพในการตอบโต้ทักษิณเท่าใดนัก และคาดว่าคงใช้ไม่ได้ผล
ส่วนทหารนั้น คงมีแต่ทหารแตกแถวบางคนเท่านั้น ที่เข้ามายุ่งกับการเมือง แต่ไม่ใช่ทหารที่อยู่ในตำแหน่ง หลักคุมกำลัง ทำให้การแทรกแซงทางการเมืองเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ผลการเลือกตั้ง ได้ชี้ชัดเจนถึงความไร้ ประสิทธิภาพในการแทรกแซงทางการเมืองของทหาร และไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ทิศทางของการลงคะแนน เสียงเลือกตั้งของประชาชนมากมายนัก
ส่วนทหารที่คุมกำลัง คาดว่าคงได้รับบทเรียนอย่างเพียงพอแล้วว่ามันเป็นการไม่คุ้มค่า ที่เอากองทัพ มายุ่งกับการเมือง และประเด็นที่กองทัพเข้ามายุ่งเกี่ยว ก็ไม่ใช่ทิศทางการอยู่รอดของบ้านเมือง เป็นแต่เพียงการ ขัดแย้งกันทางการเมืองของประชาชน ที่ไม่อาจใช้กำลังในการตัดสินได้ คิดว่ากองทัพคงไม่กล้าเข้ามายุ่งมากนัก ยกเว้นทหารบางคนที่มีผลประโยชน์มีส่วนได้ส่วนเสีย กับ พล.อ.สนธิ และ พล.อ.เปรม แต่ทหารเหล่านี้ก็ไม่ได้คุม กำลังหลักแล้ว เช่น พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ที่คาดว่าหากมี รมต.กลาโหมจากรัฐบาลใหม่แล้วอาจโดนเด้งออกจาก ตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม เพราะตำแหน่งนี้ไม่ได้คุมกำลัง จึงไม่น่าเกรงกลัวเท่าใด
พล.อ.อนุพงศ์ ก็ค่อนข้างนิ่ง เพราะได้ตำแหน่งไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงหรือแสวงโชคทางการเมือง ที่มีแต่เสียกับเสีย เพราะแม้ลงมือทำรัฐประหารไปแล้ว ตัวอย่างของ พล.อ.สนธิ ที่สร้างศัตรูและความเกลียดชัง เอาไว้มากมาย คงเป็นบทเรียนอย่างดี ว่าอยากเกษียณอายุราชการอย่างมีเกียรติ หรือ เกษียณแบบนอนไม่หลับ
ปีใหม่นี้พวกนิยมทักษิณ ค่อนข้างสบายใจ เพราะได้ชัยชนะทางการเมืองแล้ว แม้ไม่เด็ดขาดแต่ทิศทางแนวโน้มก็ไปในทางนี้ ฝ่ายตรงข้ามทำมาทุกอย่างแล้วก็ได้แค่นี้เอง 'ลงทุนทำรัฐประหารแล้ว ก็ได้แค่นี้เอง' ฝ่ายเราจึงไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว เพราะฝ่ายตรงข้ามใช้ 'อาวุธนิวเคลียร์ทางการเมืองแล้ว' คือรัฐประหาร แต่เราก็ยังรอดจากการทำลายล้างเผ่าพันธุ์ เมื่อเรารอดจากอาวุธร้ายแรงที่สุดของฝ่ายตรงข้ามแล้ว ที่เหลือก็ไม่จำเป็นต้องกลัว หรือกังวลอะไรอีก
(บทความโดย ลูกชาวนาไทย )
จากคุณ : ผัดสะตอใส่กุ้ง
ขอขอบคุณ http://www.pantip.com/
จาก Hi-Thaksin