เมื่อวันที่ 3 ม.ค. บรรยากาศภายในพรรคพลังประชาชนว่าเป็นไปอย่างเงียบเหงา มีเพียงบรรดาแกนนำและสมาชิกพรรคบางส่วนเดินทางเข้ามาประชุมประปราย โดยทุกคนล้วนแต่งกายด้วยสูทสีดำ และงดการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เพื่อเป็นการไว้อาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทั้งนี้ ในช่วงเช้ามีนักธุรกิจตลอดจนประชาชนได้นำกระเช้าดอกไม้มาอวยพรเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ให้พรรค มี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน เป็นตัวแทนรับมอบ
เบรกรับรองผลว่าที่ ส.ส.ราชบุรี ปชป.
ต่อมาเวลา 11.30 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคพลังประชาชน แถลงว่า ขอเรียกร้องให้ กกต. ระงับการรับรองผลเลือกตั้งของนายปรีชญา ขำเจริญ ว่าที่ ส.ส. เขต 1 ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้คะแนนเข้ามาเป็นลำดับที่ 3 ด้วยคะแนน 92,169 เพราะตรวจสอบพบความผิดปกติในการส่งผลคะแนนในหน่วยเลือกตั้งที่ 5 ต.ท่านัด อ.ดำเนินสะดวก ของ น.ส.ชะวรลัทธิ์ ชินธรรมมิตร ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคพลังประชาชน ที่มีหลักฐานชัดเจนปรากฏบนกระดานนับคะแนนว่าได้ 83 คะแนน แต่พอส่งคะแนนประจำหน่วยไปยังจังหวัด กลับมีเลข 3 เพียงตัวเดียว หายไป 80 คะแนน เป็นผลให้ผู้สมัครของพรรคพลังประชาชนที่ได้ 92,123 คะแนน ตกลงไปอยู่ลำดับที่ 4 ไม่ได้รับการเลือกตั้ง เมื่อได้ตรวจสอบไปยังนายสุนทร พูลศิริวิทย์ ผอ.เลือกตั้งประจำหน่วยเลือกตั้งที่ 5 ก็ได้รับหนังสือตอบกลับยืนยันว่า น.ส.ชะวรลัทธิ์ได้คะแนนในหน่วยดังกล่าว 83 คะแนน เบื้องตัน น.ส.ชะวรลัทธิ์ได้ยื่นหนังสือต่อ กกต.จังหวัดแล้ว จากนั้นจึงไปยื่นต่อ กกต.กลาง เราไม่ทราบสาเหตุของความผิดพลาดดังกล่าว เพียงแต่ขอความเป็นธรรมให้กับผู้สมัคร ส่วนความผิดปกติในเรื่องอื่น ก็จะตรวจสอบและร้องเรียนต่อ กกต.ต่อไป
จี้ กกต.-สตช.เปลี่ยนตัว “ชัยยะ”
นายสมพงษ์กล่าวว่า สำหรับการยื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อขอให้เปลี่ยนตัว พล.ต.ต.ชัยยะ สิริอำพันธ์ รองผบช.ส. ประธานคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต.นั้น ทางพรรคได้ยื่นเรื่องต่อ กกต.ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. และจะเดินทางไปยื่นต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) อีกทางหนึ่งด้วย เพราะที่ผ่านมายังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า กกต.หรือ สตช.จะเป็นผู้พิจารณาในการเปลี่ยนตัวดังกล่าว สาเหตุที่ต้องการให้เปลี่ยนตัวเนื่องจาก พล.ต.ต. ชัยยะทำงานร่วมกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรฯ ที่โจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มของเรามาโดยตลอด แต่เราไม่ได้มองว่า พล.ต.ต.ชัยยะมีความเกี่ยวข้องกับกรณีการแจกใบแดง แก่ว่าที่ ส.ส.เขต 1 บุรีรัมย์ แต่อย่างใด เป็นคนละเรื่องกัน
ดิ้นสู้ร้องกฤษฎีกาถอนมติ กกต.
ด้านนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ว่าที่ ส.ส.เขต 1 บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชนทั้ง 3 คน ที่ถูก กกต.ให้ใบแดง และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง พร้อมให้ชำระค่าเสียหายในการเลือกตั้ง รวมทั้งดำเนินคดีอาญา ได้ไปยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมและคัดค้านการถูกเพิกถอนสิทธิ์ต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว เพราะเห็นว่าคำสั่งของ กกต.ไม่เที่ยงธรรมและไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยทั้ง 3 คนต้องได้รับโทษทั้งที่ ยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อ กกต.กลาง ซึ่งตามกฎหมายมาตรา 24 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. ระบุไว้ชัดเจนว่าต้องให้ถ้อยคำต่อ กกต. เท่านั้น ฉะนั้น การให้ถ้อยคำเฉพาะแค่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนจังหวัดจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้ร้องเรียน ถึงกระบวนการสืบสวนสอบสวนที่ทำโดยไม่เที่ยงธรรม เนื่องจาก กกต.บุรีรัมย์มีพฤติการณ์หลายอย่างปรากฏตามสื่อ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมีอคติ เป็นฝ่ายตรงข้ามกับพรรคพลังประชาชน จึงขอเพียงโอกาสไปชี้แจงต่อหน้า กกต.ตามกฎหมายเท่านั้น
ข้องใจ กกต.พิจารณาคดี ปชป.ล่าช้า
ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ว่าที่ ส.ส.แบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ขอตั้งคำถามถึง กกต.ว่ามีขั้นตอนและกระบวนพิจารณาพิจารณาคำร้องเรียนของผู้สมัครแต่ละพรรคอย่างไร เหตุใดจึงแตกต่างกัน เพราะหากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์จะใช้เวลามาก แต่ถ้าเป็นเรื่องของพรรคพลังประชาชนกลับพิจารณาอย่างรวดเร็ว สำหรับกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ยอมแพ้และมีความเชื่อว่าพรรคพลังประชาชนจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้นั้น ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ประหลาด เปรียบสถานการณ์ตอนนี้ก็เหมือนกับเจ้าสาวกับเจ้าบ่าวที่แต่งงานกันไปเรียบร้อยแล้ว แต่นายสุเทพกลับมาบอกว่าอย่าเพิ่งเข้าหอ นายสุเทพคงต้องไปพบจิตแพทย์บ้าง ส่วนตัวรู้สึกเขินแทนพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เป็นความสง่างามของพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันมายาวนาน วันนี้ ต่อให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯ ก็ไม่มีความสง่างาม เพราะไม่เคยตอบคำถามเรื่องการหนีทหารได้เลย
ชท.งดเคลื่อนไหวการเมืองต่ออีก 2 วัน
ด้านพรรคชาติไทยนั้น วันเดียวกัน นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย แถลงข่าวว่า พรรคชาติไทยของดกิจกรรมทางการเมืองต่อเนื่องไปอีก 2 วัน คือวันที่ 3-4 ม.ค. พร้อมทั้งขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคชาติไทยได้ไปร่วมลงนามถวายสักการะ หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้า กัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยในกรุงเทพมหานคร ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรม มหาราชวัง ส่วนต่างจังหวัด ณ ศาลากลางจังหวัด หรือในสถานที่ที่ทางราชการจัดไว้ให้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ กกต.จะประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง แต่ทางพรรคจะไม่มีความเห็นเหมือนเดิม หลังจาก 2 วันนี้แล้ว ทางพรรคจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะเริ่มกิจกรรมทางการเมืองอีกเมื่อใด เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.อาจไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เป็น ส.ส.แบบสัดส่วน นายนิกรได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็น
รช.มุ่งสอยเก้าอี้โคราช 3 ที่นั่งก่อน
วันเดียวกัน ที่พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวถึงความคืบหน้าในการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อแจ้งมติเรื่องการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนว่า คาดว่าจะเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรคได้หลังวันที่ 13 ม.ค. เพราะขณะนี้ทางพรรคกำลังให้ความสำคัญกับการเตรียมการเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครราชสีมา เขต 3 หากมีการเรียกประชุมกรรมการบริหารพรรค จะแจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงผลการเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชน รวมถึงจะแจ้งให้ทราบถึงเรื่องโควตาเก้าอี้รัฐมนตรีที่พรรคจะได้รับ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะได้กี่ที่นั่ง ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชาชนจะว่าอย่างไร เพราะนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน บอกว่าจะให้ความสำคัญกับพรรคเล็กที่เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลตั้งแต่แรก แต่ขณะนี้ นายสมัครก็ยังไม่บอกว่าจะให้ตำแหน่งอะไรบ้าง
ยอมรับสภาพไม่ต่อรองเก้าอี้ รมต.
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวว่าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนาจะได้โควตาเก้าอี้รองนายกรัฐมนตรี กับเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง นายประดิษฐ์ตอบว่า เป็นแค่การคาดคะเนกันไป เพราะยังไม่มีการตกลงอะไรกัน แต่ ณ วันนี้ให้อะไรมาเราก็ต้องรับ เพราะเราเป็นพรรคเล็กมีแค่ 9 ที่นั่ง คงไปต่อรองอะไรลำบาก แต่ก็ต้องดูว่าสิ่งที่ให้มาเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งพรรคพลังประชาชนต้องอธิบายได้ว่าให้ด้วยเหตุผลอะไร ส่วนที่มีการคาดการณ์ว่า พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา จะได้ตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ยังตอบไม่ได้ เพราะยังไม่มีการวางตัวผู้มาเป็นรัฐมนตรี โดยหลักเกณฑ์ของผู้ที่จะเป็นรัฐมนตรีต้องมีความเหมาะสม มีเหตุผล และสามารถอธิบายต่อสังคมได้ ไม่ได้ดูจากโควตาว่ากลุ่มใดนำ ส.ส.เข้ามาได้มากเพียงอย่างเดียว ต้องพิจารณาจากหลายเหตุผลประกอบกัน