เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 3 ม.ค. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ศาลโดยนายชาลี ทัพภวิมล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เจ้าของสำนวนมีคำสั่งรับฟ้องคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้งทั้งคณะ พรรคพลังประชาชน นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน และผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคพลังประชาชน เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัย 4 ข้อ 1. พรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย ซึ่งไม่มีสิทธิ์ส่งผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรคพลังประชาชนทั้งแบบสัดส่วนและแบบเขต โดยให้ศาลมีคำสั่งว่า การส่งผู้สมัครในนามพรรคพลังประชาชนทั้งแบบสัดส่วนและแบบเขต เป็นโมฆะหรือไม่ เป็นผลทางกฎหมาย 2. นายสมัครที่เป็นตัวแทนของอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไม่มีสิทธิ์ลงนามส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และการลงนามส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่ 3. ขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค. ที่ผ่านมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เพิกถอนการเลือกตั้งล่วงหน้า ตลอดจนการเอาบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปรวมนับคะแนนเสียง โดยให้เพิกถอนการนับคะแนนเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมาทั้งหมดแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ และ 4. ขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่า การแจกซีดีให้กับประชาชนเป็นการผิดกฎหมาย ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม และห้ามไม่ให้ กกต.ประกาศรับรองผลทั่วประเทศ หรือเพิกถอนการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของผู้สมัครพรรคพลังประชาชน
โดยศาลมีคำสั่งให้รับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีดำหมายเลขที่ ลต.1/2551 นัดพิจารณาคดีในวันที่ 15 ม.ค. เวลา 10.00 น. โดยให้ส่งหมายแจ้งวันนัดพิจารณาคดีพร้อมสำเนาคำร้องให้ กกต. พรรคพลังประชาชน นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรค นายสนอง เทพอักษรณรงค์ และนายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้สมัครพรรคทราบ หากผู้คัดค้านจะยื่นคำคัดค้าน ให้ดำเนินการภายใน 7 วัน นับแต่วันที่รับสำเนาคำฟ้อง มิฉะนั้นให้ถือว่าไม่ติดใจคัดค้าน ทั้งนี้ การส่งหมายแจ้งวันนัดพิจารณาพร้อมสำเนาคำร้องหากไม่มีผู้รับโดยชอบ ให้ปิดหมายไว้ในที่ที่แล เห็นได้ง่าย ณ สำนักงาน กกต. และบุคคล
ไม่รับฟ้องคดีขอไต่สวนฉุกเฉิน
ส่วนที่ผู้ร้องยื่นคำขอคุ้มครองชั่วคราวโดยศาลฎีกานัดพิจารณาไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อมีคำสั่งระงับการจัดการเลือกตั้ง ระงับการรับรองผลการเลือกตั้งและระงับการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ของ กกต.นั้น ศาลเห็นว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ม.235 วรรค 1 บัญญัติให้ กกต.เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดยเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 กกต.ก็ดำเนินการจัดการเลือกตั้งเรื่อยมา การที่ผู้ร้องขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งระงับการจัดการเลือกตั้ง ระงับการรับรองผลเลือกตั้ง และระงับการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ไว้ชั่วคราว เป็นการระงับกระบวนการเพื่อให้ได้บุคคลเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองในการใช้อำนาจปกครองประเทศ ทั้งอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจบริหาร ย่อมจะกระทบกระเทือนต่อประโยชน์ของสาธารณชนเป็นอย่างยิ่ง กรณีนี้จึงไม่มีเหตุเพียงพอที่ศาลจะไต่สวนและคุ้มครองชั่วคราวตามคำร้อง จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องดังกล่าว
นัดพิจารณาคดีร้องเลือกตั้งโมฆะ 16 ม.ค.
วันเดียวกันนี้ ศาลฎีกายังได้มีคำสั่งรับฟ้องคดีที่นายเทพพนม ศิริวิทยารักษ์ ประธานเครือข่ายประชาชนภาคอีสานพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ที่ยื่นฟ้อง กกต. เรื่องขอให้ วินิจฉัยว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค. เป็นโมฆะ ไว้เป็นคดีดำหมายเลขที่ ลต.2/2551 และนัดพิจารณาวันที่ 16 ม.ค. เวลา 10.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีที่นายสราวุท ทองเพ็ญ โฆษกพรรคความหวังใหม่ ผู้สมัคร ส.ส.แบบสัดส่วน กลุ่มที่ 3 ลำดับ 3 ยื่นฟ้อง กกต. เรื่องขอให้วินิจฉัยว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค. เป็นโมฆะเนื่องจากไม่มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในการเลือกตั้ง เป็นคดีดำหมายเลขที่ ลต. 44/2550 และนัดพิจารณาคดีวันที่ 11 ม.ค. เวลา 10.00 น.
ศาลฎีกาเรียก พปช.แจงข้อหานอมินี
ต่อมาเวลา 16.30 น. เจ้าหน้าที่ศาลฎีกาได้นำหมายนัดจำนวน 4 ชุด มาติดประกาศภายในที่ทำการพรรคพลังประชาชน เพื่อแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาคดีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 ขอให้ การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เนื่องจากพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย ได้รับทราบ โดยเปิดโอกาสให้ส่งคำคัดค้านต่อศาลฎีกาภายใน 7 วัน นับตั้งแต่ วันที่ได้รับสำนวน นายยืนหยัด ใจสมุทร คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า พรรคพลังประชาชน เกรงว่าการนำหมายดังกล่าวจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากในส่วนของนายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล และนายสนอง เทพอักษรณรงค์ ว่าที่ ส.ส.บุรีรัมย์ มิได้มีภูมิลำเนาอยู่ที่ทำการพรรคพลังประชาชน ฝ่ายกฎหมายจะรับผิดชอบเฉพาะส่วนของนายสมัครและพรรคพลังประชาชน จะไม่แจ้งต่อผู้สมัคร 2 คนดังกล่าว เพราะเป็นหน้าที่ของศาลที่ต้องดำเนินการ หลังจากนี้พรรคจะตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามพรรคไม่รู้สึกกังวลต่อกรณีที่ศาลรับฟ้องดังกล่าว โดยเฉพาะคำว่านอมินีเป็นคำจำกัดความที่มีความหมายกว้างมาก และการกล่าวอ้างนั้นไม่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย