ที่ทำการพรรคพลังประชาชน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรคพลังประชาชน แถลงภายหลังการประชุมฝ่ายกฎหมายของพรรคพลังประชาชน ว่า ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับกรณีที่มีการฟ้องศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งในข้อกล่าวหาที่ว่าพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย รวมทั้งการแจกจ่ายซีดี ซึ่งฝ่ายกฎหมายได้เตรียมข้อมูลไว้ชี้แจงต่อศาลฎีกาที่จะมีการไต่สวนมูลฟ้องนัดแรกในวันที่ 15 ม.ค. นี้ โดยจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริง ที่ว่าพรรคพลังประชาชนเป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาโดยมีนโยบายชัดเจน และการแจกซีดีเราก็เน้นการแจกซีดีที่เกี่ยวข้องกับการปราศรัยของหัวหน้าพรรค และนโยบายด้านเศรษฐกิจเท่านั้น
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้เตรียมข้อมูลเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการกฤษฎีกาที่จะมีการประชุมในวันที่ 7 ม.ค. เพื่อพิจารณามติของ กกต.ในการให้ใบแดงว่าที่ส.ส.เขต 1 บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน เพราะพรรคได้รับข้อมูลใหม่ซึ่งมีทั้งเอกสาร และซีดีการบันทึกคำพูดของ กกต.จังหวัดบุรีรัมย์ ว่า ไม่เคยเสนอให้กกต.กลางให้ใบแดงแก่ว่าที่ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชนเลย ซึ่งขัดกับข้อเท็จจริงที่ทาง กกต.กลางระบุออกมาว่าการให้ใบแดงว่าที่ส.ส.บุรีรัมย์ เป็นข้อเสนอของกกต.จังหวัด อีกทั้งอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของกกต.ระบุว่าควรเป็นใบแดง กกต. ทำให้ข้อมูลที่ออกมาทั้ง 2 ฝ่ายไม่ตรงกัน ซึ่งตามหลัก กกต.กลางควรที่จะเรียกว่าที่ส.ส.ของพรรคไปชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อให้เป็นการรับฟังข้อมูลรอบด้าน ตนอยากให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษาของการพิจารณาให้ใบเหลืองใบแดงของ กกต.ในการพิจารณาให้กับว่าที่ส.ส.ที่ยังไม่ได้รับรองอีก 83 คน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่ไม่เห็นด้วยกับการให้ใบแดงของกกต. ทำให้เกิดการชุมนุมของประชาชนในจังหวัดบุรีรัมย์หรือไม่ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า การแสดงออกของประชาชนเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีการขนคนมาหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าประชาชนมีสิทธ์แสดงความเห็น ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ซึ่งตนอยากยกตัวอย่างการใบเหลืองที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งก็ไม่มีประชาชนออกมาเคลื่อนไหวเพราะอาจจะเห็นว่ากระบวนการพิจารณาของ กกต.เป็นไปตามขั้นตอนที่ถูกต้อง แต่ในกรณีการให้ใบแดงที่จ.บุรีรัมย์ ก็มีข้อสงสัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความเห็นของ กกต.จังหวัด หรือการไม่เรียกผู้ถูกกล่าวหาไปชี้แจง ซึ่งข้อสงสัยเหล่านี้เป็นสิทธิ์ที่ประชาชนสามารถตั้งข้อสงสัยได้
เมื่อถามว่าแสดงว่าจุดยืนของพรรคเห็นด้วยการกับชุมนุมกดดันกกต. น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เรายืนยันว่าประชาชนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย สิ่งนี้อาจจะเป็นกรณีศึกษาของกกต.ที่จะต้องดำเนินการให้โปร่งใสและเป็นธรรม ไม่ให้ประชาชนทั่วไปสงสัยได้ เมื่อถามต่อว่า เกรงหรือไม่ว่าจะเกิดกระแสการไม่ยอมรับคำวินิจฉัยของกกต.แล้วจะเกิดการชุมนุมทำให้เกิดความวุ่นวายในหลายจังหวัด น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า หากกกต.พิจารณาด้วยความโปร่งใส เรื่องพวกนี้ก็คงไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตามตนยังเชื่อมั่นว่ากกต.ทั้ง 5 จะพิจารณาขั้นตอนการให้ใบเหลือง-ใบแดงอย่างเป็นธรรม และว่าที่ส.ส.ของพรรคที่ยังไม่ได้รับรองจะสามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้.