WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, January 4, 2008

ประชาธิปัตย์มั่นใจ?

กาหลิบ

ถึงสิ่งเหล่านี้จะมาจากจิตใต้สำนึกของคุณสุเทพเองคนเดียว แต่ก็สะท้อนเป็นคำถามต่อไปได้ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งในสายตาของพรรคประชาธิปัตย์เป็นองค์กรอิสระที่มีบทบาทหน้าที่และอิสรภาพในการดำเนินการอย่างเป็นเอกเทศ หรือเป็นเพียงเครื่องมือของใครคนหนึ่งเท่านั้น
ผู้สังเกตการณ์จำนวนไม่น้อยตั้งข้อสังเกตว่าหลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม 2550 ที่พรรคพลังประชาชนทำคะแนนนำพรรคประชาธิปัตย์ชนิดไม่เห็นหลังกันนั้นทำให้เกิดปฏิกิริยาที่น่าสนใจขึ้นบางอย่าง
นั่นคือแทนที่พรรคประชาธิปัตย์จะนิ่งเงียบและลดบทบาทไป กลับแสดงความมั่นใจอย่างเอกอุว่าพรรคพลังประชาชนจะไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และตนจะเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลตัวจริงที่มีหัวหน้าพรรคของตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี
ไม่ว่าจะเป็นคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์อย่างนี้เหมือนกันหมด
คนที่เขารู้ภาษาและมารยาทถึงกับถามกันดังๆว่า พรรคประชาธิปัตย์ไปเอาความมั่นใจชนิดแหวกประเพณีอย่างนี้มาจากไหน
คนที่เขารู้อะไรๆอยู่บ้างจะถามลึกลงไปว่า ใครเขาบอก "ข้อมูลใหม่" อะไรกับประชาธิปัตย์มาหรือถึงได้ลิงโลดขนาดนี้
เหมือนกับจะถามว่าใครเคาะกะลาให้ประชาธิปัตย์ดีใจนั่นล่ะครับ แต่คงจะเกรงใจกันอยู่บ้าง
ประเด็นคือพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอะไรให้ลุกขึ้นมาไล่เบี้ยเขาอย่างนี้แน่ หากไม่มีใครหรือข้อมูลใดๆมาหนุนหลัง
ถามว่าเขาคือใครหรือข้อมูลที่ว่านั้นคืออะไร
คำอธิบายในภาพรวมนั้นคงไม่พ้นคำมั่นสัญญาจากคนที่พรรคประชาธิปัตย์เชื่อถือว่าพรรคพลังประชาชนจะไม่มีวันหวนกลับคืนสู่อำนาจ เพราะ "อำนาจเดิม" ได้ตัดสินใจแล้วว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายหน้าที่ดีที่สุดของกลุ่มตน
วิธีการก็หลากหลายไปตามขั้นตอน
ขั้นแรกก็คือการใช้ข้อตกลงที่สอดใส่ไว้ในพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อที่จะทำให้เกิดการแบ่งค่ายที่ชัดเจนระหว่างขั้วพลังประชาชนและขั้ว "อำนาจเดิม"
พรรคเพื่อแผ่นดินและพรรคชาติไทยจึงมีอาการที่ค่อนข้างแปลกประหลาด ทั้งๆที่ความต้องการจริงคือการเข้าร่วมรัฐบาล ไม่ว่าจะขั้วของใครทั้งนั้น
แผนปฏิบัติการเมื่อปลายปีซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ความรุนแรงต่างๆก็ถูกปล่อยออกมาอย่างแพร่สะพัด เพื่อให้เกิดความเข้าใจว่าฝ่ายคุมกำลังนั้นจะไม่ยอมที่จะให้รัฐบาลประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้ในเงื่อนไขที่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีการคิดบัญชีหรือล้างแค้นกันหรือไม่
คณะกรรมการการเลือกตั้งนั่งอยู่เฉยๆแท้ๆก็มีคนอย่างคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาพูดได้ราวกับตัวเป็น กกต. เสียเองว่าอาจจะมีใบเหลืองและใบแดงรวมกันถึง 60 ใบ
ถึงสิ่งเหล่านี้จะมาจากจิตใต้สำนึกของคุณสุเทพเองคนเดียว แต่ก็สะท้อนเป็นคำถามต่อไปได้ว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งในสายตาของพรรคประชาธิปัตย์เป็นองค์กรอิสระที่มีบทบาทหน้าที่และอิสรภาพในการดำเนินการอย่างเป็นเอกเทศ หรือเป็นเพียงเครื่องมือของใครคนหนึ่งเท่านั้น
และยังมีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการยุบพรรคพลังประชาชนและการเอาผิดเอาโทษกับคุณสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ซึ่งอยู่ในฐานะที่ดีที่สุดในการก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในไม่ช้านานนี้
ปุ่มทั้งหลายที่เราเคยพูดกันมาแล้วน่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้พรรคประชาธิปัตย์และผู้บริหารระดับสูง คือหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เกิดความมั่นใจจนออกนอกหน้าขนาดนี้
ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงผลการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า คือหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ซึ่งทำให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับคะแนนมากขึ้นในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ
เพราะถ้ารวมเรื่องนี้เข้าแล้วอาจจะมีความมั่นใจจนเกินพิกัดชนิดปรอทแตกได้ เพราะเผลอหรือหลงคิดไปเลยทีเดียวว่านอกจากจะบังคับหรือชี้ทางของการจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว อาจจะมีความขลังและศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองขนาดเสกเป่าให้เกิดผลการเลือกตั้งตามใจตนเองได้ด้วยซ้ำไป
ความมั่นใจของพรรคประชาธิปัตย์จึงมีนัยสำคัญที่ชี้ถึงการเมืองในปัจจุบันและอนาคตของไทย
ถ้าเป็นนักเล่นละครที่แนบเนียนกว่านี้ก็คงจะเก็บรอยยิ้มไว้ในสีหน้า แล้วก็รอไชโยเมื่อคราวของตนเองมาถึงจริงๆ
แต่นั่นแหละครับ คนเราลงมั่นใจจนเกินขีดและได้รับหลักประกันชนิดที่อยากจะคุยอวดไปสามบ้านแปดบ้านว่าตนเองมีดีเหนือใคร มันเป็นความหลงเฉพาะหน้าที่ทำให้เสียคนได้
เราจึงควรใช้เหตุการณ์ในขณะนี้ในการวิเคราะห์เบื้องหลังและเบื้องหน้าของการเมืองไทยว่าใครทำหน้าที่เป็นองค์กรทางการเมืองเพื่อประชาชน หรือใครทำหน้าที่เพื่อบางชนชั้นและผู้มีอำนาจบางคน ซึ่งต้องการจะสืบทอดอำนาจไปชั่วนิรันดร์
การจัดตั้งรัฐบาลเที่ยวนี้จึงเป็นการตรวจสอบกำลังของขั้วต่างๆในเมืองไทย หาใช่ขั้นตอนปกติธรรมดาตามรัฐธรรมนูญไม่
ใครเผลอคิดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้คือจุดจบแห่งความวุ่นวายในสังคมไทยได้โปรดคิดใหม่
เพิ่งจะเริ่มต้นนับหนึ่งเท่านั้นเองครับ.--จบ-

///////////////////////////

คอลัมน์: เลือกคบ ไม่เลือกข้าง

จากหนังสือพิมพ์โลกวันนี้