WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, January 5, 2008

ถอดสมการดอง83ส.ส. คำตอบ=รัฐบาล"พปช."

มติชนวิเคราะห์

สิ้นคำประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบสัดส่วน โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งปรากฏว่ามีผู้ผ่านการประทับตรารับรอง 397 คน ถูกแขวนเอาไว้ก่อนเพื่อรอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ หลังมีเรื่องร้องเรียน 83 คน

โดยในจำนวนนี้เป็นว่าที่ ส.ส. จากพรรคพลังประชาชน (พปช.) 65 คน พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 6 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน (พผ.) 6 คน พรรคชาติไทย (ชท.) 4 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) 1 คน และพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) 1 คน

ทำให้หลายฝ่ายคาดคะเนไปต่างๆ ว่า "ปริมาณมือ" ที่หายไป 65 เสียง จะส่งผลกระทบต่อการฟอร์มรัฐบาลโดย พปช. หรือไม่อย่างไร

ยิ่งถ้าคำนวณเสียงของ "ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล" ทั้ง 6 พรรค จะพบว่า ขณะนี้เหลือ "มือที่แน่นอน" เพียง 238 เสียงเท่านั้น จากเดิมตั้งเป้าปิดยอดรัฐบาลที่ 315 เสียง

ในทางกลับกันหาก "พันธมิตร พปช." พลิกไปเทคะแนนให้ ปชป. ซึ่งมีแต้มเหลือ 159 เสียง หลังถูกหักออกไป 6 เสียง ก็จะสามารถ "ควบรวม ส.ส." ได้ 229 เสียง ซึ่งนับว่าสูสีกับ พปช.อย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม "โจทย์" ดังกล่าวเป็นเพียง "สูตรคณิตคิดเล่น" ยากต่อการหา "คำตอบใหม่" ให้แก่การเมืองไทย เพราะทุกอย่างได้ถูก "สมการหลัก-สมการรอง" ล็อคคำตอบเอาไว้แล้ว

สมการตัวแรกคือ มาตรา 93 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่กำหนดให้เปิดประชุมสภาภายใน 30 วันนับจากวันเลือกตั้ง (วันที่ 22 มกราคม) โดยต้องมี ส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของ ส.ส.ทั้งหมด หรือคิดเป็น 454 คน

นั่นหมายความว่า คนการเมืองที่อยู่คาเขียง กกต. 83 คน มีโอกาสได้รับ "ใบขาว" ถึง 57 คน เพื่อให้สามารถเปิดประชุมสภานัดแรกได้

"วงใน กกต." แย้มว่านอกจากการแจก 2 ใบเหลืองที่ จ.นครราชสีมา และ 3 ใบแดงที่ จ.บุรีรัมย์แล้ว เหลือสำนวนที่มีน้ำหนักในมือ "5 เสือ" เพียง 13 เรื่องเท่านั้น

ดังนั้น ไม่ว่าจะ "เลือกตั้งซ่อม-เลือกตั้งซ้ำ" อีกกี่รอบ ยอด ส.ส.ที่หายไป 18 เสียง จึงไม่ถือว่ามีนัยยะสำคัญทางการเมือง เพราะถ้าสภาเปิดเมื่อไร โอกาสก็จะกลับมาอยู่ในมือ "พรรคเสียงข้างมาก" เมื่อนั้น

อย่าลืมว่าผู้ชนะคือผู้กำหนดเกม

สมการตัวที่ 2 คือ ถ้อยแถลงเรื่องการจับขั้วกับ พปช.อย่างเป็นทางการ ที่หลุดออกจากปากของแกนนำ "กลุ่ม 21"(รช.+มฌ.+ประชาราช)เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ซึ่งตรงนี้ได้กลายเป็น "ตัวช่วย" ของพปช. กรณีถูกชักใบแดงใส่

ทั้งนี้ มีรายงานว่า พปช.ดอดทำความตกลงอย่างลับๆ กับ มฌ. ว่าจะเทคะแนนให้ "พันธมิตรใกล้ชิด" รายนี้ เพื่อไม่ให้ยอด ส.ส.ของรัฐบาลกระเด็นไปอยู่ในมือฝ่ายตรงข้าม หรือไปเติมพลังต่อรองให้แก่ "พรรคหอกข้างแคร่"

แม้ "คำสั่งแขวน" ว่าที่ ส.ส. 83 คน จะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการฟอร์มรัฐบาล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างแรงกระเทือนให้แก่ "พรรคเอสเอ็มอี" เหมือนกัน โดยเฉพาะ ชท.กับ พผ. ที่แม้จะ "เซย์เยส" กับ พปช.ไปแล้ว แต่ยังไม่มีคำประกาศจับขั้ว-รวมตัวอย่างเป็นทางการ เพราะขอรอดูตัวเลขที่นิ่ง ก่อนยื่นเงื่อนไขเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม เมื่อยอด ส.ส.ของ "กลุ่ม 61" (ชท.+พผ.) หดลงไป 10 เสียง ย่อมทำให้อำนาจในการต่อรองโควต้าต่างๆ ของ 2 พรรคลดลงไปด้วย ขณะนี้ พผ.มี "เสียงลม" อยู่ถึง 6 คน ขณะที่ ชท. มี 4 คน

นอกจากนี้ 6 เสียงที่หายไปของ พผ. ล้วนแต่เป็นสมาชิกในกลุ่มโคราชของ "ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี" ทั้งสิ้น ตรงนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบชิ่งต่อการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรี และตำแหน่งประธานกรรมาธิการชุดต่างๆ หรือไม่อย่างไร

ท้ายที่สุด เมื่อถอด "สมการ 83" ที่ กกต.เป็นผู้ตั้งโจทย์ จะพบว่า อาการ "ติดลบ" ของพรรคเอสเอ็มอี ขณะที่ พปช.ได้รับแรง "บวก"

โดยมีคำตอบสุดท้ายยังอยู่ที่การจัดตั้งรัฐบาล 6 พรรค โดดเดี่ยว ปชป. เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวเหมือนเดิม!!!