นายแก้วสรร อติโพธิ กรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนกรณี พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับตนเอง ครอบครัวและพวกพ้อง เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการไต่สวนว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามกำหนดในวันที่ 3 ม.ค. นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. ได้ลงนามส่งข้อกล่าวหาไปทางไปรษณีย์ถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ตามภูมิลำเนาจำนวน 2 สำนวน คือ 1. คดีอาญา ประกอบด้วยการกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ยังคงถือไว้ซึ่งธุรกิจสัมปทาน มีความผิดทางอาญาตามกฎหมาย ป.ป.ช. มาตรา 100 และความผิดเกี่ยวกับการแปลงค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต ซึ่ง พ.ต.ท. ทักษิณ มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง ผิดกฎหมายอาญา มาตรา 152 ฐานมีส่วนได้เสีย และมาตรา 157 การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และ 2. คือคดีทางแพ่ง มีฐานความผิดคือได้ทรัพย์มาโดยไม่ สมควร เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่ง คตส. เคยมีมติอายัดทรัพย์เงินจากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป และเงินปันผลทั้งหมดรวม 7.7 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้หลังจากส่งข้อกล่าวหาไปให้ พ.ต.ท. ทักษิณแล้ว อนุกรรมการได้กำหนดให้เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับข้อกล่าวหา แต่หากหนังสือถูกตีกลับและไม่มีการติดต่อกลับ คตส. อนุกรรมการฯจะถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ติดใจ อนุกรรมการไต่สวนฯจะเดินหน้าต่อเพื่อสรุปส่งให้ คตส. ชี้มูลก่อนที่จะส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาส่งศาลต่อไป ซึ่งทั้ง 2 สำนวนนี้จะเป็นคดีต่อไปที่ คตส. จะดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ.