2-3 วันนี้ มีคนพูดถึง "มือที่มองไม่เห็น" กันมากมายหลายเสียง
"มือที่มองไม่เห็น" เป็นอย่างไร แล้วทำไมถึงมองไม่เห็น
เมื่อมองไม่เห็นแล้วทำไมจึงมีอิทธิพลต่อประเทศชาติบ้านเมืองกันถึงขนาดที่ว่า จะทำให้การจัดตั้งรัฐบาล ที่ประชาชนตัดสินใจเลือกมาแล้วล้มเหลวเชียวหรือ?
"มือที่มองไม่เห็น" ที่พูดถึงกันอยู่ในเวลานี้ เดาๆ ไปตามสถานการณ์ ก็จะมีอยู่แค่สองมือ เป็นมือของคนคนหนึ่ง ที่นับวันจะมีฉายาบ่งชี้และบอกใบ้ให้เห็นตัวตนชัดขึ้นเรื่อยๆ
"อีแอบผมขาว" ก็น่าจะใช่
"ก้อนกรวดในรองพระบาท" ก็ไม่น่าจะผิด
"เตมีย์ใบ้" ก็น่าจะถูก
ตอนนี้ก็ได้ไปอีก 1 ฉายา คือ "มือที่มองไม่เห็น"
เหตุที่มองไม่เห็น ก็เพราะว่าเจ้าของ "มือ" ชอบอยู่ในที่ลับ เร้นกายอยู่ในบ้าน "เสาน้อย" ชอบแอบสั่งการ แอบทำโน่น แอบทำนี่ อยู่หลังกำแพงสีขาวของบ้าน "เสาน้อย" อย่างที่เขาครหานินทากันหรือไม่ ก็ยังไม่มีใครยืนยันได้
แต่ที่ไม่น่าจะผิดก็คือ เจ้าของมือน่าจะเป็น "อีแอบ" แน่ๆ เพราะทำแต่ละอย่างต้องคอยแอบทำ กลัวคนเห็น
ไม่รู้ว่าทำไมจึงต้องกลัวคนเห็น และต้องแอบทำ ถ้าเชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตนทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องและดีงามเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนจริง
โดยปกติวิสัยของคนชอบ "แอบ" ทำ "แอบ" พูด และ "แอบ" สั่ง มักจะเป็นคนที่รู้อยู่แก่ใจว่าทำ พูด และสั่งการในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ในสิ่งที่ตนไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่อยากจะเข้ามาเกี่ยวข้อง อยากจะเข้ามามีอำนาจ มีส่วนร่วมในการทำเรื่องนั้นๆ
อย่างเช่น แอบแก้บัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ แอบสั่งให้ทหารก่อการรัฐประหาร แอบบัญชาการคณะรัฐประหารอยู่ในบ้าน แอบแทรกแซงการเลือกตั้ง แอบแทรกแซง กกต. แอบแทรกแซงการจัดตั้งรัฐบาล ที่หนักหนาสาหัสที่สุดก็คือ แอบอยู่หลังสถาบันพระมหากษัตริย์ และแอบอ้างพระราชดำรัสเพื่อประโยชน์ส่วนตนและเป็นเกราะคุ้มครองตนเอง
ทุกเรื่องที่แอบทำ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรจะกระทำทั้งสิ้น เมื่อคำนึงถึงตำแหน่งหน้าที่ที่มีอยู่ แต่เพราะไม่อาจจะยับยั้งกิเลสและความมักใหญ่ใฝ่สูงในใจตนได้ จึงทำให้ต้องแอบยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้อง จัดการ และแทรกแซงไปเสียทุกเรื่อง
เมื่อยับยั้งหักห้ามใจตนเองไม่ได้ และต้องยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้อง แทรกแซงเพื่อให้เป็นไปตามใจและความปรารถนาของตนเอง ก็ต้องทำอย่างระมัดระวัง และทำด้วยอาการ "แอบ" เพราะกลัวคนอื่นจะเห็น กลัวคนอื่นจะรู้ว่าทำสิ่งที่ไม่สมควรทำ
แต่ไม่ว่าจะแอบอย่างไร ก็ไม่อาจจะซ่อนตัวและซ่อนมือที่ยื่นออกมาได้สักครั้งเดียว
ทุกครั้งที่แอบทำ แอบพูด และแอบสั่ง มักจะต้องมีคนเห็น เพราะ อาชญากรรมมักจะทิ้งร่องรอยและหลักฐานไว้เสมอ อีกทั้งความลับไม่มีในโลก
คำพูดที่ว่า "มือที่มองไม่เห็น" จึงไม่ใช่เรื่องจริงสำหรับผู้จับตามอง
แต่ผู้กระทำอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องจริง คือ คิดว่าไม่มีใครเห็นมือที่ตนยื่นออกไป เพราะคิดว่าตนเป็นผู้วิเศษ ล่องหนหายตัวได้ ทำอะไรไม่มีใครรู้ โดยที่หารู้ไม่ว่า ที่ผ่านมาใครๆ ก็รู้ว่าทำอะไรไปบ้าง และมีพฤติกรรมเช่นไร แต่ไม่มีใครอยากพูด เพราะเกรงใจ เห็นว่าเป็นผู้อาวุโส จึงไม่อยากถือโทษโกรธเคือง
เมื่อไม่มีใครพูด ก็ทำให้ผู้กระทำคิดว่าสิ่งที่ทำลงไปไม่มีใครเห็น จนเชื่อว่าตนคือผู้วิเศษ มี "มือที่มองไม่เห็น" จึงย่ามใจ และเข้าแทรกแซงกิจการบ้านเมืองเรื่อยมา
จนกระทั่งถูก นายสมัคร สุนทรเวช กระแอมเสียงดังและฟ้องประชาชนว่ามี "มือที่มองไม่เห็น" พยายามจะแทรกแซง กกต. จนเจ้าของมือต้องหดมือไปแบบฉับพลัน
เป็นที่น่าประหลาดว่า เหตุใด กกต. บางคน และนักการเมืองบางคนในพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และทหารบางจำพวก เช่น พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน และคนรับใช้เผด็จการ อย่าง นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ จึงเชื่อถือ "มือที่มองไม่เห็น" ว่ามีอำนาจอิทธิพลที่จะกดดันให้การจัดตั้งรัฐบาลพลิกขั้วเปลี่ยนข้างได้
บางคนเชื่อหนักไปถึงขั้นที่ว่า "มือที่มองไม่เห็น" จะดลบันดาลให้พรรคพลังประชาชน ที่ประชาชนเลือกมาเป็นรัฐบาล ต้องเป็นฝ่ายค้าน และพรรคประชาธิปัตย์มาเป็นรัฐบาลแทน
คนเหล่านี้เชื่อถือ "มือที่มองไม่เห็น" ของใครบางคนที่กระทำตัวเป็นอีแอบ ซ่อนตัวอยู่หลังฉากตลอดเวลา มากกว่า "มือที่มองเห็น" ซึ่งเป็นมือของประชาชนทั่วประเทศ ที่ตัดสินแล้วว่าจะให้พรรคการเมืองใดเป็นรัฐบาล
ระหว่าง "มือที่มองไม่เห็น" ของ "อีแอบ" กับ "มือที่มองเห็น" ของประชาชน ในระบอบประชาธิปไตย เราควรจะเชื่อถือและยอมรับ "มือ" ของใคร
วันนี้ประชาชนได้แสดงให้เห็นว่า ยกมือให้ใครไปเป็นรัฐบาล เป็นการยกมืออย่างเปิดเผย โปร่งใส ไม่ต้องแอบๆ ซ่อนๆ แต่กลับไม่ได้รับจาก กกต. บางคน นักการเมืองบางพรรค ทหารบางพวก
ยังมีความพยายามที่จะ "ไม่มอง" และตั้งใจที่จะ "มองไม่เห็น" มือของประชาชนที่ลงคะแนนให้พรรคพลังประชาชน หากแต่กลับไปมอง "มือ" ที่แอบยื่นออกมาชี้ให้ทำตามความพึงพอใจของตนเพียงคนเดียว
ผมไม่แน่ใจว่า กกต. กำลังสร้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชน และทำตาม "มือที่มองเห็น" หรือ รับฟัง "อีแอบ" และคอยดูสัญญาณจาก "มือที่มองไม่เห็น" กันแน่
กกต. ทั้ง 5 ท่าน ตอบได้ไหม