WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Saturday, January 5, 2008

เป็นเสียเอง [5 ม.ค. 51 - 18:26]

เหมือนว่าประเทศไทยจะตกอยู่ในบรรยากาศเศร้าโศกเสียใจอาลัยต่อการจาก ไปของ “สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ” ประชาชนต่างแต่งชุดดำและไปร่วมไว้อาลัย กันอย่างเนืองแน่นและต่อเนื่อง

เพราะเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญอีกครั้งในความรู้สึกของคนไทย

เหนืออื่นใดในห้วงนี้ดูเหมือนการเมืองจะเบาบางลง เพราะนักการเมืองต่างหยุดเคลื่อนไหว ชั่วคราวเพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน

แต่ที่ยังหยุดไม่ได้คือ กกต.ซึ่งจะต้องทำหน้าที่อย่างต่อเนื่องเพราะมีเงื่อนไขเวลา อันจำกัดที่จะพิจารณาให้ใบเหลือง-ใบแดงแก่ผู้สมัครที่ถูกร้องเรียนว่ากระทำผิดเลือกตั้ง และอีกส่วนหนึ่งคือจะต้องประกาศรับรองผู้สมัครบางส่วน

ประกาศรับรองชุดแรกไปแล้ว 397 คน เหลืออีก 83 คนที่กำลังมีการพิจารณาว่า จะมีความผิดหรือไม่ จะถูกใบแดง-ใบเหลืองหรือว่าหลุดรอดไปได้ ซึ่ง กกต.จะต้องดำเนินการให้เสร็จใน 30 วันซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญ

จากนั้นก็จะเปิดสภา เลือกประธานสภาผู้แทนฯและนำไปสู่การโหวตเลือกนายกฯต่อไป ซึ่งนั่นต้องหมายความว่ามีจำนวน ส.ส.ครบจำนวนเต็ม 480 คน หรือต้องได้ 95%

ตรงนี้แหละคืองานสำคัญของ กกต.และจะเป็นการโชว์ผลงานว่ามีฝีมือแค่ไหน ถูกต้องแม่นยำแค่ไหน สุจริตโปร่งใสแค่ไหน ทำให้ การเลือกตั้งบริสุทธิ์ยุติธรรมได้หรือไม่ และที่สำคัญกล้าชี้ขาดไม่ต้องไปหวั่นไหวต่อแรงกดดันได้มากน้อยแค่ไหน

มีประเด็นหนึ่งที่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนออกมาปูดว่า มีมือลึกลับเข้ามาแทรกแซง กกต.ในการแจกใบแดง-ใบเหลือง และกล่าวถึงนายตำรวจจากสันติบาลที่เข้ามาช่วยงานสืบสวน

สอบสวนที่แนบแน่นกับพรรคการเมืองตรงข้ามและกลุ่มพันธมิตร

แต่ กกต.ก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกันเพราะอาสาเข้ามาทำหน้าที่ด้วยสุจริตและไม่มีหน้าที่ในการชี้ขาด แต่ทำให้งานรวดเร็วขึ้น

จริงๆแล้วตรงนี้คงไม่ใช่ประเด็นใหญ่หาก กกต.ยอมรับว่าจะต้องเจอสภาพการณ์เช่นนี้ จากแรงกกดันทางการเมือง ต้องเตรียมใจเตรียมปัญญารองรับเอาไว้ เพราะเรื่องแบบนี้ มันต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว

อยู่ที่ว่าจะ “นิ่ง” ได้แค่ไหนเท่านั้น

แต่ปัญหาจริงๆมันอยู่ใน กกต.เองนั่นแหละ ไม่ใช่แรงกดดันจากภายนอกที่ไหนเพราะรู้กันดี ว่าระหว่าง กกต.บางคนนั้นศรศิลป์ไม่กินกันและมีการพูดจาตอแยกันมาตลอด เพียงแต่ไม่เปิดตัวกันตรงๆเท่านั้น

ที่สุดก็เปิดตัวออกมาระหว่างนายสมชัย จึงประเสริฐ ที่รับผิดชอบงานนี้โดยตรงกับนางสดศรี สัตยธรรม กกต.ที่พยายามแสดงว่ามีบทบาทมากที่สุด พูดแสดงความเห็นมากสุด

พูดง่ายๆวุ่นจนหยดสุดท้าย

จากเหตุที่ถูกพรรคพลังประชาชนโจมตี นายสมชัยจึงออกอาการและเปิดใจ ว่าไม่อยากอยู่ต่อไปแล้ว อยากคืนสังกัดเก่าเพราะถูกโจมตีว่าทำงานล่าช้า

เหตุก็เพราะไม่พอใจที่มีการนำตำรวจสันติบาลมาทำงานทั้งๆที่มีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบอยู่แล้ว แต่นางสดศรีบอกว่ามาช่วยงานมากกว่าและยังบอกด้วยว่าหลังชี้ขาดใบเหลือง-ใบแดง อาจจะมีการเปลี่ยนหน้าที่

หรืออาจจะมี 4 กกต.แค่นั้นก็ทำงานได้ กดดันใครก็รู้กันอยู่

ครับ...ก็คงจะพอมองเห็นภาพความขัดแย้งที่เกิดขึ้น นี่มีแค่ 5 คนเท่านั้นยังวุ่นขนาดนี้ แต่ที่น่าเสียดายก็คือแทนที่ทั้ง 5 คนจะแสดงความเป็นผู้ใหญ่ เป็นหลักให้บ้านเมือง เพราะ กกต.ต้องทำหน้าที่สำคัญเพื่อชาติบ้านเมือง ในการจัดการเลือกตั้ง ตรวจสอบคุณสมบัติอย่างโปร่งใส

เพราะ “นักการเมือง” ต้องเข้ามาทำหน้าที่สำคัญของชาติ

แต่วันนี้ดันทำตัวเป็น “ผู้ใหญ่ไก่เขี่ย” ไปเสียฉิบ.

"สายล่อฟ้า"