WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, February 15, 2008

เหตุผลที่ควรไว้ใจ จักรภพ เพ็ญแข

นายกรัฐมนตรีให้เหตุผลที่เลือก จักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ให้ดูแลสื่อของรัฐ อันได้แก่ อสมท. และกรมประชาสัมพันธ์ไว้ว่า “ต้องรู้เขารู้เรา”

ขอถือวิสาสะเพิ่มเติมเหตุผลในครั้งนี้ว่า “เพราะจะได้เอาใจเขามาใส่ใจเรา” ด้วย

จักรภพ อาจจะเคยทำงานเป็นสื่อมวลชนอาชีพก่อนเข้ามาเป็นโฆษกรัฐบาลสมัยรัฐบาลทักษิณ แต่สิ่งที่ทำให้สื่อมวลชนส่วนหนึ่งรู้สึกไว้เนื้อเชื่อใจในตัวจักรภพ ย่อมไม่น่าจะใช่เพียงความรู้ความสามารถ ซึ่งนั่นจะหาใครมาทำก็ได้

แต่เป็นเพราะห้วงยามหนึ่งที่อำนาจรัฐไม่ได้อยู่เคียงข้างเขา ห้วงยามหนึ่งที่เขาถูกรังแกโดยรัฐ เช่น การถูกสกัดกั้นการออกอากาศของสถานีโทรทัศน์พีทีวีที่จักรภพเป็นผู้บริหาร มาถึงการดิ้นรนหาทางออกด้วยการตั้งเวทีชุมนุมที่สนามหลวง แต่ก็ยังไม่วายถูกเรียกอย่างหยามหยันจากสื่อว่ารับเงินมาเคลื่อนไหวบ้าง บิดเบือนเนื้อหาหรือกระทั่งตัวเลขผู้ชุมนุมบ้าง นำเสนอข่าวอย่างเอนเอียงบ้าง...

การเคยเป็น ผู้ถูกกระทำ ดังที่ผ่านมาเหล่านี้ต่างหาก คือสิ่งที่ทำให้หลายคนมีความหวังเรืองรองขึ้นมาว่า จักรภพจะไม่กระทำซ้ำรอยเลวทรามเหล่านั้นอีก

จริงอยู่ที่ว่าการเข้ามาจัดระบบสื่อฯ ตามที่เขาเรียกนั้น จะถูกดักคอว่าเป็นการ “ตามเช็กบิล” หรือเปล่า แต่หากพิจารณาตามเนื้อผ้าแล้ว ความ “เอียง” อย่างเด่นชัดจนน่ารังเกียจของบางสื่อบางคนนั้น ก็เป็นเรื่องที่เกิดจริง เห็นได้จริง จนยากที่ใครจะปั้นน้ำเป็นตัวหรือสร้างเหตุผลมาสั่งลงดาบแบบข้างๆ คูๆ ได้

ที่น่าสังเกตมากกว่าก็คือ ในบรรดาคนที่ออกมาตีกันจักรภพไม่ให้ล้วงลูกสื่อนั้น ก็ล้วนเป็นคนที่เคยได้รับผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากเมื่อครั้ง คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นใหญ่ทั้งนั้น

“สื่อย่อมไม่มีความเป็นกลาง และจะได้ดิบได้ดีเมื่อสมประโยชน์กับอำนาจรัฐได้” ผู้ใดบ้างที่พิสูจน์ความจริงของประโยคดังกล่าวนี้...ช่วงที่ผ่านมาเราก็คงได้เห็นกันมาแล้วโดยไม่ต้องให้เอ่ยชื่อ

หากเป็นสื่อมวลชนที่ยึดการนำเสนอข่าวตรงไปตรงมาตามเนื้อผ้า ก็คงไม่ต้องออกอาการร้อนตัวว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลหรือใครจะมาดูแล ที่ออกอาการร้อนรุ่มจนอยู่เฉยไม่ได้ก็เห็นจะมีแต่พวกวัวสันหลังหวะเท่านั้นกระมัง

เช่นเดียวกับกรณีสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ที่แม้จะชวนเชื่อว่าคือทีวีสาธารณะที่ไม่ขึ้นต่อใคร แต่เพียงรายชื่อของ 5 อรหันต์ที่ถูกตั้งมาเป็นคณะกรรมการชั่วคราว ก็สร้างความสะอิดสะเอียนให้ประชาชนได้มากพอแล้ว เพราะเห็นกันเต็มตาว่าใครเป็นใคร ประวัติอย่างไร และที่สำคัญ อยู่ข้างใคร...

แม้แต่จะชวน (ให้) เชื่อว่าเป็นสาธารณะ ก็ยังอุตส่าห์ทำได้ไม่แนบเนียน จนคนเขาสิ้นศรัทธาตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มออกอากาศ

นี่ก็เป็นอีกแห่งที่แอบหวังว่าจักรภพจะช่วยเข้ามาทำให้มันสะอาดและสมกับคำว่า ทีวีสาธารณะ ได้มากขึ้น แม้เบื้องต้นฝ่ายผู้บริหารชั่วคราวของไทยพีบีเอสจะอ้าง พ.ร.บ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย มายันไว้ แต่ก็อย่างที่จักรภพตอบไว้ชัดเจนนั่นแหละว่า ไทยพีบีเอสไม่ใช่เป้าหมาย แต่ เป้าหมายที่แท้จริงคือ การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงที่จะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญต่างหาก หากพิจารณาดูแล้วว่าอะไรที่ประชาชนจะไม่ได้รับประโยชน์ หรือได้รับแต่ก็น้อยกว่าที่ควรจะได้ แล้วจะนำมาสู่การปรับเปลี่ยน...ก็คงไม่น่าแปลกอันใด

แล้วก็อย่างที่บอกไว้นั่นแหละว่า ในฐานะที่เคยเป็นสื่อที่ถูกรัฐรังแก คราวนี้เราก็เชื่อว่าจักรภพคงไม่ใช้ความเป็นรัฐของตัวเองไปรังแกสื่ออย่างที่ตัวเองเคยโดน...ทุกอย่างต้องมีเหตุมีผล และไม่ใช่เหตุผลแบบเอาสีข้างเข้าถูอีกด้วย

ขณะเดียวกัน สื่อที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ก็คงไม่มีอะไรต้องน่าห่วง เพราะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่เคยเป็นสื่อมวลชนมืออาชีพคนนี้ ไม่น่าจะทำอะไรให้น่าผิดหวัง...ด้วยความเชื่อมั่นที่มีต่อคนที่เห็นว่าเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ แล้วยังเคยผ่านมรสุมการเมืองในฐานะฝ่ายที่ถูกรังแก เพลี่ยงพล้ำมาด้วย ย่อมเข้าใจหัวอกคนที่ถูกความไม่เป็นธรรมเล่นงานได้ดีกว่าใครๆ

และยิ่งเคยเป็นสื่อมวลชนมาก่อนด้วยแล้ว คงยิ่งเข้าใจดีว่า การทำหน้าที่สื่อมวลชนของอีกหลายๆ สำนักนั้น เป็นไปด้วยความเที่ยงตรงต่อหน้าที่ หวังดีต่อประเทศชาติด้วยหลักการ “หมาเฝ้าบ้าน” อย่างจริงแท้...แม้จะตามจิกตีรัฐบาลในหลายเรื่องหลายประเด็น แต่ก็เป็นไปด้วยหลักการเดียวกันกับที่จักรภพกล่าวไว้ นั่นคือ “คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ”

อาจไม่ใช่คนในรัฐบาลทั้งหมดที่จะเข้าใจหน้าที่นี้ และมัวแต่คิดว่าสื่อจ้องเล่นงานจนเกินพอดี แต่นี่เพราะเป็นจักรภพ จึงมั่นใจในระดับหนึ่งว่าจะเข้าใจ และไม่ทำอะไรที่เป็นการก้าวล่วงหน้าที่ของกันและกัน

ไม่เพียงแต่รัฐบาลเท่านั้นที่ฝากเดิมพันไว้...หน้าตาของจักรภพก็ฝากไว้ด้วยภารกิจนี้

ซึ่งแน่นอนว่าสื่อมวลชนทั้งหลายจะเฝ้าติดตามอย่างใจจดใจจ่อกันต่อไป