รัฐมนตรีขี้เหร่ ไม่รู้ว่าคำพูดนี้ของนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ทำให้“ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี” เนื้อตัวบวมช้ำไปมากน้อยแค่ไหนที่จริงนายกฯ สมัคร ก็ไม่ได้บอกว่าระนองรักษ์คือรัฐมนตรีขี้เหร่ เพียงแต่มีการยกตัวอย่างให้นักข่าวญี่ปุ่นฟังว่า ตัวนายกฯ เองคือของจริง มีการแก้ชื่อรัฐมนตรีถึง 12 คนเพราะขี้เหร่ ก็เลยทำให้ระนองรักษ์ดวงไม่ดี ถูกเหมาไปเลยมาคราวนี้นายกฯ สมัคร ก็ได้พูดจาให้ “นักข่าว” หาตัวกันหูตูบอีกแล้วว่าใครคือคนที่นายกฯ สมัคร เห็นว่ามีความไม่เหมาะสมในการจะเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีตอนแรกนักข่าวก็เข้าใจว่า “วัน อยู่บำรุง” ลูกชายสุดรักของ “เฉลิม ซี สก็อต” ของพวกเราชาว “บางกอกทูเดย์” จะผ่านการอนุมัติของครม.ให้เป็น ผช.เลขานุการ รมต.สาธารณสุขในการประชุมนัดแรกอังคารที่12 ก.พ.51 นี้เลย แต่ปรากฏว่าเรื่องยังไม่เข้า ทำให้นักข่าวตื่นเต้นพากันสงสัยไปว่า “พรีเซ็นเตอร์” เลิกเหล้าเลิกบุหรี่ของ รมว.สาธารณสุข “ไชยา สะสมทรัพย์” ติดขัดอันใดฤา เพราะมีทั้งเสียงขานรับและทักท้วง
นายกรัฐมนตรี (เงา) “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์แต่เช้าวันอังคารว่า“ผมยังไม่ทราบว่ามีคำสั่งแต่งตั้งอย่างไร อยากให้รัฐบาลแต่งตั้งบุคคลที่สังคมเชื่อมั่น จริงอยู่ที่เราอาจจะไปพิพากษาใครล่วงหน้าไม่ได้ แต่หากแต่งตั้งใครที่รับความเชื่อมั่นการทำงานก็จะง่ายขึ้น แต่หากตั้งบุคคลที่มีข้อเคลือบแคลงก็ต้องทำงานหนักขึ้น และต้องไปพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งใจผมอยากให้รัฐบาลทำงานได้อย่างราบรื่น และอะไรที่เป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งก็ให้ลดลง จึงอยากให้รัฐมนตรีทุกคนตระหนักในเรื่องนี้”นี่ขนาดบอกว่ายังไม่รู้คำสั่ง แต่ท่านรัฐมนตรี (เงา) ยังสั่งสอนซะยาวขนาดนี้ในขณะที่ “เฉลิม ซี สก็อต” พ่อของ “วัน อยู่บำรุง” ยิ้มจนคนเห็นมีความรู้สึก “เมื่อยแก้มแทน” ได้ไปให้สัมภาษณ์นักข่าวที่หน้าตึกประชุมครม.ในเช้าวันเดียวกัน“ลูกชายบอกผมว่าเขายังฟิตอยู่ และเขาถามผมว่าเป็นความจริงหรือเปล่า ผมก็บอกไปว่าไม่ทราบ
เพราะพรรคพลังประชาชนเป็นผู้ดำเนินการ อย่างผู้ที่จะมาเป็นเลขานุการ และที่ปรึกษาของผมพรรคก็เป็นคนดำเนินการให้ เช่นเดียวกับกระทรวงอื่นๆ เรื่องแบบนี้เราต้องเคารพในมติพรรค ส่วนที่ว่าผมมั่นใจในตัวลูกชายหรือไม่ว่าจะทำหน้าที่ได้ ผมก็ยังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่มีเอกสารอย่างเป็นทางการ แต่คนที่เรียนหนังสือจบในระดับปริญญาโทก็น่าจะมีสติปัญญา”นักข่าวถามว่า มองเสียงวิจารณ์อย่างไร“เฉลิม ซี สก็อต” ตอบว่า“ก็ดี... เป็นสีสัน และเป็นเรื่องธรรมดาเข้ามาอยู่ในวงการเมืองต้องอดทน และต้องรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์”นักข่าวถามต่อ....รู้สึกอย่างไรที่นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุขเปรียบนายวันเป็นองคุลีมาล
คราวนี้ “เฉลิม ซี สก็อต” หัวร่อเอิ๊กอ๊าก แล้วตอบว่า“ก็ดี ...ไม่เป็นไร ความจริง รมว.สาธารณสุข รู้จักกับลูกชายผมคนนี้ดี รู้จักมตั้งแต่เด็กๆ ส่วนคำแนะนำอย่าเพิ่งพูดถึง”คำถามสุดท้าย รู้สึกอย่างไรที่มีการเตรียมเสนอชื่อให้บุตรชายเป็นพรีเซ็นเตอร์เลิกเหล้า-บุหรี่“เฉลิม ซี สก็อต” ยิ้มหน้าบานตอบว่า“ไม่ต้องลงทุนโฆษณา แต่วันนี้ยังพูดไม่ได้ เพราะยังไม่มีเอกสารยืนยัน”มีความสุขจริงจริ๊งแต่จนแล้วจนรอด รายชื่อเลขานุการ ผู้ช่วยเลขานการ และบรรดาที่ปรึกษารองนายกฯ รวมทั้งที่ปรึกษารัฐมนตรี ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ยังไม่ออกมาเลย ในขณะที่ “พินิจจารุสมบัติ” ตั้ง “นางพรรณี จารุสมบัติ” น้องสาวเป็นที่ปรึกษารองนายกฯ สุวิทย์ คุณกิตติ ผ่านครม.เรียบร้อยนายกฯ สมัคร ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ดึงเอาไว้ก็เพราะ“จะขอเวลาอีก 1 สัปดาห์ในการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้ง เนื่องจากขณะนี้การวางตัวตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรี โดยเฉพาะในส่วนของพรรคพลังประชาชนเห็นว่ายังไม่เหมาะสม ดังนั้น ในระหว่างนี้จะขอหารือกับรัฐมนตรีแต่ละคนของพรรค
ถึงการเสนอชื่อบุคคลเข้ามานั่งตำแหน่งที่ปรึกษาฯ เพื่อไม่ให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ได้ เป็นเรื่องที่ผมควรจะให้ข้อคิดแก่รัฐมนตรี เพระบางคนเลขาฯ เก่ง แต่ที่ปรึกษาไม่ไหวทำอย่างนี้ได้อย่างไร การพิจารณาให้นึกถึงหน้าผม นึกถึงหน้า ครม.ด้วย ไม่ใช่จับใครมาใส่เป็นที่ปรึกษาแล้วมีเงินเดือนให้ มันไม่ยุติธรรมต่อสังคม ผมได้แนะนำให้พิจารณาผู้ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งดังกล่าวจากรายชื่อ ส.ส.สอบตกที่มีคุณสมบัติที่เหมาะสม มานั่งตำแหน่งที่ปรึกษา”“ส่วนกรณีลูกชายของคุณเฉลิมจะเข้ามาเป็นผู้ช่วยเลขานุการรมต.สาธารณสุข คุณเฉลิมก็บอกแล้วว่าจะไม่ให้ลูกชายเข้าไปทำงานที่กระทรวงมหาดไทย แต่หากรัฐมนตรีคนใดต้องการให้นายวันไปช่วยงานก็สามารถติดต่อไปได้ ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้มีเจตนาฝากงานไปกับรัฐมนตรีคนอื่น วันนั้นผมฟังคุณเฉลิมพูดก็ยังชื่นชม แต่ท่านพูดตกไปนิดหนึ่งว่า ลูกผมจบปริญญาโทมา อายุก็ 35 ปีแล้ว หากรัฐมนตรีคนไหนไม่รังเกียจ อยากเรียกไปก็ขอบคุณ ก็ขอเขาเสียเลย แต่พูดตรงนั้นหมายความว่าจะไม่มาอยู่กับพ่อ ไม่ทำให้พ่อเสียหาย”ก็หวังว่า เมื่อ “เฉลิม ซี สก็อต” ฟังนายกรัฐมนตรีจบแล้ว ก็ขอให้ไปพูดเพิ่มเติมด้วยว่า “วัน อยู่บำรุง” จบปริญญาโท และอายุ 35 แล้ว ซึ่งหมายความว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะบ่ายวันเดียวกัน “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” ได้ให้สัมภาษณ์นักข่าวถึง ว่าที่เลขานุการ อย่างดีมากว่า
“ผมยังไม่พบกับเขา แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหากต้องทำงานร่วมกัน เขาเป็นเด็กรุ่นใหม่ไฟแรง จบการศึกษาปริญญาโทถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่ดีคนหนึ่ง สังคมควรจะให้โอกาส อย่าไปปิดกั้นโอกาสเขา ปัญหาที่ผ่านมาเกิดขึ้นสมัยเป็นเด็ก แต่ปัจจุบันโตแล้วมีวุฒิภาวะเพิ่มขึ้น ในอดีตก็ยังไม่เห็นว่าเลวอะไร ไม่ได้ติดคุกติดตะราง ไม่มีคดีความอะไร หากสังคมลงโทษอย่างนี้ไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ ถือว่าใช้ระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน เชื่อว่าผมสามารถทำให้เขาเป็นลูกน้องที่ดีได้ ส่วนที่เขามาทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ ก็ดี กระทรวงไม่ต้องเสียเงินจ้างพรีเซ็นเตอร์ราคาแพง คนหนึ่งเสียเป็นแสนบาท หากเขาดังผมก็ดังไปด้วย”จากนั้นก็หยิบการ์ดแผ่นเล็กๆ ที่ทำขึ้นเอง มาแจกนักข่าวด้านหน้าของการ์ด พิมพ์คำสอน “ปรัชญาขงจื๊อ” เป็นภาษาจีน ภาษาไทย อังกฤษ กำกับไว้ว่า“หาญ หยั่ง”ขณะที่ ด้านหลังมีคำสอน 6 ข้อ
1.การมีสติ 2.การมีความอดกลั้น 3.การมีความอดทน 4.การรู้จักผ่อนหนักเป็นเบา 5.การรู้จักให้อภัยและอโหสิ และ 6.การมีคุณธรรม“ผมยึดถือหลักปรัชญานี้เป็นคุณธรรมประจำใจมานานกว่าสิบปี หากสังคมดำเนินชีวิตตามหลักคำสอนนี้จะเป็นสังคมที่มีความสุข กรณีของนายวัน สังคมต้องยึดถือหลักข้อ 4 คือ รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา 5.ให้อภัยซึ่งกันและกัน ปรัชญานี้ผมได้แจกให้ลูกน้องทุกคนเพื่อยึดเป็นแบบอย่างด้วย”ส่วนรูปที่เราเอามาลงประกอบเรื่องในวันนี้ ถ่ายที่กรุงลอนดอน ในโอกาสเดียวกับที่ไปช้อปปิ้งกับ “ทักษิณ ชินวัตร” เมื่อกันยายน 2550 ที่เอามาลงฉบับวานนี้ รูปนี้มี “โอ๊ค-พานทองแท้” ยืนอยู่ตรงกลาง ไม่คีบบุหรี่สำหรับ “วันกับดวง” ที่คีบบุหรี่ทั้งสองคนนั้น เราเชื่อว่า จะเป็นรูปสุดท้ายที่เห็นว่ายังคีบบุหรี่กันอยู่ เพราะเมื่อมาเป็น “พรีเซ็นเตอร์” เลิกเหล้าเลิกบุหรี่ให้กับท่านรัฐมนตรีไชยาแล้ว จะคีบบุหรี่อีกไม่ได้บุหรี่มีแต่โทษ