ผมว่า นโยบายที่รัฐบาลจะแถลงต่อสภาภายในสัปดาห์หน้า คงจะไม่มีอะไรตื่นเต้นเร้าใจ เท่ากับข่าวการจะกลับมาประเทศไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตผู้นำ
อันที่จริง ถ้าดูกันตามเนื้อผ้า ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เป็นคนไทยคนหนึ่งย่อมมีสิทธิและเสรีภาพเท่าเทียมกัน เพียงแต่ว่ามีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นเท่านั้น
การจะกลับเข้ามาสู้คดีเพื่อเคลียร์ตัวเองว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็น ยิ่งเป็นที่เรื่องที่สาธารณชนจับตาดูอยู่ ผมว่าทุกฝ่ายย่อมจะทำอะไรอย่างตรงไปตรงมาอยู่แล้ว
ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายและระบบยุติธรรมเดียวกัน
ศาลสถิตยุติธรรมในยุคนี้ท่านประกาศ ยึดหลักระบบยุติธรรมเป็นที่ตั้ง ไม่มีอะไร น่าเป็นห่วง เพราะฉะนั้นระยะเวลาจะเป็นเดือน ก.พ. หรือ มี.ค.หรือ เม.ย. หรือจะ พ.ค. จะช้าจะเร็ว ไม่สำคัญ
เพียงแต่ว่าทุกฝ่ายอย่าตั้งแง่ อย่าก่อเรื่องให้เกิดวิกฤติประเทศขึ้นมาอีก ที่ผมต้องพูดดักคอเอาไว้อย่างนี้ เพราะได้ยินข่าวมาว่า เกมชิงอำนาจการเมืองภาคสอง กำลังก่อตัว
โดยเอาเงื่อนไข ทักษิณ มาเป็นตัวจุดชนวน
เรื่องอย่างนี้อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ผมถึงได้บอกไว้แล้วว่า วิกฤติการเมืองที่ผ่านมาลงรากลึก ไม่มีใครแพ้หรือชนะอย่างถาวร มีช่องมีจังหวะเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น
คงไม่ต้องเล่ารายละเอียดว่าใครกำลังทำอะไร
และถ้าเกิดวิกฤติขึ้นครั้งนี้ จะมีผลกระทบไปถึงรัฐบาล กระทบไปถึงการเมือง และการเดินหน้าของอนาคต ประเทศอีกครั้ง เพราะการเมืองดันแบ่งขั้ว แบ่งข้างกันเกือบจะถาวร
ไม่ว่าจะเกิดจากปัจจัยภายในรัฐบาลหรือนอกรัฐบาลผลกระทบจะเป็นโดมิโน
ตรงนี้ที่ผมห่วงมากที่สุด เงื่อนไขที่เป็นกับดักนำไปสู่วิกฤติประเทศ ยังมีอยู่เต็มไปหมด ถ้ายังกู้กับระเบิดเหล่านี้ไม่หมด
การเมืองอย่าเพิ่งขยับ
เพราะฉะนั้น อะไรที่เป็นจุดล่อแหลมต่อการนำไปสู่หายนะของประเทศก็ควรจะหยุดเอาไว้ก่อน จะเป็นการเดินทางกลับประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ การคิดจะลองของรัฐธรรมนูญ ต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ
ถึงจุดปลอดภัยจากวิกฤติการเมืองหรือไม่
อย่าเปิดช่องว่างเด็ดขาด
เราช่วยกันประคับประคองประเทศให้ผ่านวิกฤติมาได้จนถึงขณะนี้ โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อ ก็ต้องบอกว่าเป็นโชคดีของประเทศและประชาชนอย่างที่สุด ความหวังของประชาชน ต่อรัฐบาลชุดนี้คือเข้ามาแก้ปัญหา ไม่ใช่สร้างปัญหา โปรดอย่าคิดว่าชัยชนะ คือรางวัล แต่ชัยชนะคือความรับผิดชอบต่างหาก
อย่าไปเหลิง.
หมัดเหล็ก
คอลัมน์ คาบลูกคาบดอก