นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะให้อดีตกรรมการ บริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเข้ามาเป็นบอร์ดในรัฐวิสาหกิจว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ได้ดูในรายละเอียด แต่ทราบว่ามีสื่อมวลชนเข้าไปสอบถามผอ.สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ซึ่งในแง่ของคุณสมบัติเบื้องต้น หากไม่มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ถ้าอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย มีการถือหุ้นที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อนก็คงไม่สามารถมาทำหน้าที่ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ อดีตประธานที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมกับ 4 หน่วยงานเรื่องเกี่ยวกับมาตรการกันสำรอง 30 % ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวย้อนถามว่าใครบอกว่านายพันศักดิ์เข้าร่วมประชุม การประชุมครั้งนั้นมี 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อถามย้ำว่าการประชุมวันนั้นนายพันศักดิ์เข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ รมว.คลัง กล่าวเลี่ยงว่า ผู้ที่เข้าร่วมประชุม ต้องเป็นผู้ที่มีข้อมูล และเป็นผู้ที่จะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้รอบคอบมากขึ้น แต่การประชุมจะต้องเป็นความลับ ตนไม่รู้ว่าข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้พูดคุยกันมีการเปิดเผยออกมาได้อย่างไร
'สำหรับคุณพันศักดิ์ผมถือว่าเป็นที่ปรึกษาที่ผมเชื่อว่ามีความรู้ความสามารถ และเคยเป็นถึงอดีตประธานที่ปรึกษาของอดีตนายกฯ เป็นผู้ที่มีบทบาทในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ มามาก เพราะฉะนั้นแม้จะเข้าประชุมหรือไม่เข้า ในบางเรื่องผมก็ต้องปรึกษาคุณพันศักดิ์อยู่ดี” นพ.สุรพงษ์ กล่าว เมื่อถามว่าแต่นายพันศักดิ์ไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เหมาะสมแล้วหรือที่จะเข้าร่วมประชุมด้วย นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในอดีตผู้ที่เคยเป็นรัฐมนตรี มีความรู้ มีความเชี่ยวชาญ ก็มีโอกาสให้คำปรึกษากับ ธปท. และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ ไม่ได้หมายความว่าถ้าไม่มีตำแหน่งอย่างเป็นทางการจะไม่สามารถมาให้คำปรึกษาได้ แต่ยอมรับว่าตำแหน่งที่เป็นทางการก็เป็นเงื่อนไขหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าตนจะไม่สามารถไปปรึกษากับคนเหล่านั้นได้