นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ชี้แจงกรณีที่จะมีการปรับปรุงการทำงานครั้งใหญ่ในสถานีโทรทัศน์ช่อง11ให้มีความทันสมัยเป็น'โมเดิร์น อีเลฟเว่น ' พร้อมทั้งโต้กลับนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทองที่กล่าวหามั่วกรณีถูกถอดรายการออกไป
(15 ก.พ.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ช่องใหม่ว่า ไม่ได้ต้องการให้สถานีโทรทัศน์มาสนับสนุนรัฐบาลเพราะอยู่มาได้เลือกตั้งผ่านมาไม่ต้องมีโทรทัศน์สักช่อง แค่อยากได้ข่าวตรงไปตรงมาเท่านั้น ความตั้งใจมีแค่นั้น ใครที่กระแนะกระแหนว่าต้องการจะมีทีวีเอาไว้สู้ไม่ใช่เลย เจตนาของตนตั้งใจว่า เมื่อช่องที่เขาเสนอข่าว ตรงไปตรงมา ถูกยึดเอาไปทำอย่างอื่น ตนไม่คิดจะไปตามรังควาญ คุณทำกันได้ตามสบาย และช่อง 11 เป็นช่องสาธารณะ มาตั้งแต่ต้น แต่ถูกเบี่ยงเบนไปเป็นอย่างอื่นจนกลายเป็นสถานีรัฐบาลไป ไม่เป็นสาธารณะ
“ผมนี่แหละจะทำให้ ช่อง 11 ไม่เรียก สาธารณะ แข่งกับเขาจะให้เป็นสถานีโทรทัศน์ซึ่งเสนอข่าว ตรงไปตรงมา เสนอข่าวไม่ใช่เฉพาะของรัฐบาล ไม่ต้องมาเชลียร์รัฐบาล ไม่ต้องการเลย พูดง่ายๆว่า จะปรับปรุงช่อง 11 ให้ทันสมัยโดยเอาคนที่มีฝีมือมาทำ และวิธีการคือว่า ช่อง 11 เขาใช้งบประมาณแต่เราไม่ต้องการใช้งบประมาณมากกว่าที่เขาเคยมี แต่เราจะมีวิธีการ และทำ ทำนองเดียวกับที่เขาจะทำทีวีสาธารณะ เราจะใช้ช่อง 11 ทำให้ทันสมัย แบบโมเดิร์นอีเลฟเว่น ไม่ต้องอิงหรือประจบประแจงรัฐบาล ตรงไปตรงมายิ่งชอบ ฉะนั้นขอให้เลิกวิจารณ์ เวลานี้กำลังดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย” นายสมัคร กล่าว
นายสมัคร ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากจะทำความเข้าใจคือ ตั้งใจดีจริงๆที่จะพูดจาและทำความเข้าใจรักษาเวลานี้ตลอดไปฉะนั้นเรื่องที่ใครตั้งโปรแกรมอะไรไว้ให้มันเกินเหตุ กรุณายกเลิกโปรแกรมนั้นไปแต่ไม่ขอพูดรายละเอียด
ผู้สื่อข่าวถามว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลที่เข้ามาแทรกแซงสื่อข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสมัครกล่าวว่า โปรดสบายใจได้ไม่มีการแทรกแซงด้วยประการทั้งปวงและขอท้าทายให้พิสูจน์ด้วย ไม่ได้ตั้งใจ ไม่คิด และไม่ต้องการแทรกแซงขอให้พิสูจน์ด้วยว่าแทรกแซงอย่างไร ช่วยบอกด้วย ถ้าไม่สบายใจขอให้สบายใจได้
เมื่อถามว่า การประพฤติปฏิบัติควบคุมสื่อของรัฐ รัฐบาลจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร นายสมัครกล่าวว่า นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกแล้วว่าต้องการให้สื่อตรงไปตรงมา แต่ก่อนก็ตะแคง ตะแคงใครก็ไม่ว่า ตะแคงเข้ารัฐบาลเราก็ไม่ชอบ ให้ตรงไปตรงมาเสนอข่าวทุกฝ่าย ไม่ใช่เฉพาะของรัฐคนอื่นก็ไม่เข้าไปยุ่งกับเขาด้วย
เมื่อถามว่า ทีวีช่องใหม่ที่จะเกิดขึ้นที่บอกว่า จะไม่เชียร์รัฐบาลเสนอข่าวตรงไปตรงมา แต่สังกัดอยู่กรมประชาสัมพันธ์ จะบอกได้อย่างไรว่าไม่ถูกควบคุมโดยรัฐ นายสมัครกล่าวว่า ขอให้รอดูต่อไป ไม่เห็นเป็นปัญหาผิดกฎหมายหรอถ้าให้อิงรัฐบาล ถามจริงๆไม่ได้ถามเล่นๆ ผิดกฎหมายหรอ
เมื่อถามว่า ทำไมใช้ช่องที่สังกัดกรมประชาสัมพันธ์ที่ควบคุมโดยรัฐบาล นายสมัครกล่าวว่า รัฐบาลจะทำให้ทันสมัยไม่ได้เหรอ ห้ามเหรอ หรือไง ถ้าเป็นรัฐบาลต้องหลับหูหลับตาเชียร์รัฐบาลตะบี้ตะบัน เมื่อถามว่า สิ่งที่กังวลต่อไปในอนาคตคือ เมื่อเป็นทีวีสังกัดในหน่วยงานรัฐจะหนีไม่พ้นภาพความเป็นการประชาสัมพันธ์รัฐบาล นายสมัครกล่าวว่า แล้วถ้าไม่พีอาร์รัฐบาลจะเป็นอย่างไรมั๊ย เสนอข่าวกลางๆ เราอยากอย่างนั้น เป็นไงมั๊ย ผิดรัฐธรรมนูญมั๊ย
เมื่อถามว่า หากรัฐบาลทำภาพลบช่อง 11 ก็สามารถที่จะนำเสนอได้ไหม นายสมัครกล่าวว่า แน่นอนก็ต้องการอย่างนั้น เมื่อถามว่า จะเอางบประมาณที่ไหน นายสมัครกล่าวว่า เวลาที่เขาสปอนเซอร์กันแบบไม่มีโฆษณามีไหมที่เขาทำกันอยู่ทุกวันนี้ และที่ช่อง 11 ทำอยู่ทุกวันนี้ ก็ทำอย่างเดียวกัน สนับสนุนใส่โลโก้อย่างเดียว เป็นไงมั๊ย ก็เลียนแบบอย่างนั้นเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ทำไมไม่เลือกปรับใช้ทีวีสาธารณะที่เพิ่งจะเกิดนายสมัคร กล่าวว่า “โอ๊ย ตนไม่กล้าหรอก ทีวีสาธารณะเขาสร้างองคาพยพไว้น่ากลัวจะตาย โอ้โห เปิดดูยังไม่กล้าเลย กลัว” เมื่อถามว่า ในฐานะรัฐบาลสามารถที่จะเข้าไปดำเนินการในสิ่งที่ดีได้ไม่ใช่หรือ นายสมัครกล่าวว่า เข้าไปปรับปรุงก็โดนด่าสิ เขาจะไปอย่างนั้นก็ให้เขาไป ก็ท้ากัน มาอวดกัน คุณก็ทำไปสิเราจะดู ไม่ได้ห้าม
เมื่อถามว่า เวลาในการปรับช่อง 11 ต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ นายสมัครกล่าวว่า ไม่นานเร็วๆนี้ เมื่อถามว่า การที่จะนำช่อง 11 มาทำให้ทันสมัยอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หูย ไปพูดอย่างนี้ก็เสียหาย ไม่ใช่มืออาชีพมือเก่ง ส่วนจะมีใครบ้างจะบอกตรงนี้ได้อย่างไร ไปว่ากล่าวเขาหมด ให้เขาทำให้ดูก่อน
เมื่อถามว่า จะดึงอีดตพนักงานทีไอทีวีที่เจ๋งมาทำงานในช่อง 11 หรือไม่ นายสมัครกล่าวว่า ตนไม่ดึงเข้ามาหรอก แค่ให้นโยบายไป เมื่อถามว่า ที่มีข่าวว่าจะเปลี่ยนตัวอธิบดีและบุคลากรบางคนรวมทั้งการตัดรายการบางรายการที่อยู่ในสังกัดกรมประชาสัมพันธ์ นายสมัครกล่าวว่า พูดอย่างนี้ขึ้นต้นก็เสียหายแล้ว ให้เขาทำอะไรอย่างไรเสียก่อนค่อยมาถามว่าทำไมถึงทำอย่างนั้น
เมื่อถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าจะไม่มาจัดระเบียบสื่อและแทรกแซงการทำงานสื่อให้ตรวจสอบการทำงานรัฐบาลอย่างเป็นอิสระ นายสมัครย้อนถามว่า สื่อไหน ลองบอกสิ ผู้สื่อข่าวตอบว่าสื่อทุกแขนง นายสมัครกล่าวว่า ทุกแขนงจะไปยุ่งกับเขาได้อย่างไร สื่อของรัฐบอกแล้วว่าจะให้เป็นกลางๆ เท่านี้ก็พอเพียงแล้ว เมื่อถามว่าชัดเจนใช่ไหมว่าจะไม่เข้าไปจัดระเบียบ นายสมัคร กล่าวว่า จะให้ทำสัญญามั๊ย ความเป็นสุภาพบุรุษสุภาพสตรี มันพูดกันตอนนี้กันสมควรแก่เหตุ ตั้งใจจะทำดี แล้วก็บอกว่าเขียนมาก่อนก็ดียังไง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงรายการของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง กรณีถูกถอดออกจากผังรายการวิทยุของกรมประชาสัมพันธ์ว่า คุณยืนยันว่า ใช้คำว่า ถูกถอดออกเหรอ ผู้สื่อข่าวตอบว่า นายเจิมศักดิ์ ออกมายืนยันเช่นนั้น นายสมัครกล่าวว่า แล้วเจ้าของบริษัท เขาบอกว่าอย่างไร ผู้สื่อข่าวชี้แจงว่า นายเจิมศักดิ์บอกบริษัทแจ้งว่า ทางผู้ใหญ่ขอให้ปรับปรุงรายการในแบบสมานฉันท์ นายสมัครกล่าวว่า บริษัทฟาติมาบอกอย่างนี้หรอ ตนฟังเปล่าเลย ตนฟังมาเหมือนกัน ฟาติมาเขาบอกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องที่เขาพิจารณากันเอง
นายสมัครกล่าวท้าทายว่า คุณเอาหลักฐานมาสิว่ารัฐบาลคนไหน หน้าตาอย่างที่ยืนข้างหลังนี้หรือเปล่า (นายจักรภพ เพ็ญแข ยืนยิ้มอยู่ด้านหลังนายกรัฐมนตรีขณะที่กล่าวถึงเรื่องนี้) คนไหนที่ไปสั่ง ตนจะถาม เราไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกันอย่างนี้เลยและก็มีข่าวออกมาก็เลยบอกนี่ บริษัทแถลงหน่อยสิ อธิบดีแถลงหน่อย แต่อธิบดีก็ยังไม่แถลง อธิบดีต้องแถลงว่าไปสั่งเขาหรือเปล่า มีโทรศัพท์มาหรือเปล่า ไอ้เบอร์อะไรที่ว่ามา อธิบดีต้องตอบคำถามนี้ เพื่อให้คนของเรา ได้รู้ว่าเราไม่ไปยุ่งแล้วกัน คือทำอย่างนี้ ผมว่าไม่ยุติธรรม เลิกรายการเสร็จแล้ว มาบอกว่าถูกถอดออก ปัดโธ่ ยุคนี้มันยุคข้อมูลข่าวสารไร้พรหมแดน
“ผมถามว่าใคร ออกข่าว เอาตัวมาสิ เป็นอย่างไร เรื่องนี้ก็เหมือนกัน บอกรู้เบอร์โทรศัพท์ไปเอาเบอร์มาสิ เป็นยังไง พิสูจน์มาสิ ผมบอกให้ไปถอดที่องค์การโทรศัพท์มาด้วย” นายสมัคร กล่าว เมื่อถามว่าถึงเวลานี้อธิบดียังไม่ชี้แจง นายสมัครกล่าวว่า ทำไมอธิบดีไม่ออกมาลองไปถามดูสิ รู้จักมั๊ยอธิบดี ไปถามท่านหน่อยแล้วมาถามตน