“มาวันนี้ก็มารับการอบรมบ่มนิสัยว่า เป็นนายกรัฐมนตรีแล้วก็ต้องพูดจาระมัดระวังหน่อย”
ดูเหมือนนี่จะเป็นข่าวดี ข่าวสร้างสรรค์ที่สุดในรอบวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “ลุงหมัก” นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เอ่ยปากเอง ต่อไปจะระมัดระวังคำพูดคำจาในฐานะนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะ “ชิมไปบ่นไป” ยังไงก็ได้
ใช้ฤกษ์วันแห่งความรัก ปรับบุคลิก พลิกบทบาทกันใหม่
แต่ที่ได้ลุ้นได้ตื่นเต้นกันในวันแห่งความรัก ต่อเนื่องจากที่ “สิงห์เหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ประกาศบนเวทีปราศรัยหาเสียงท้องสนามหลวง
ถ้าพรรคพลังประชาชนได้เป็นรัฐบาล จะเชิญ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายก-รัฐมนตรี กลับประเทศไทย ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ก็เลยมีข่าวลือตลอดทั้งวันที่ผ่านมาว่า อดีตนายกฯทักษิณ ซึ่งล่าสุดมาปักหลักอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
เตรียมบินกลับประเทศไทยในวันวาเลนไทน์
ข่าวลือหนาหู แต่เท่าที่เช็กไปในหมู่คนวงในใกล้ชิด ประเภทต่อสายถึงกันได้ทันที
“สิงห์เหลิม” ออกตัว ถ้ากลับจริง ระดับ มท 1 ไม่น่าตกข่าว ขณะที่ “หมอเลี้ยบ” นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯและ รมว.คลัง ปฏิเสธไม่รู้เรื่อง ได้ทราบจากข่าวเหมือนกัน ไม่ได้ติดต่ออดีตนายกฯทักษิณนานแล้ว
แต่ที่ฟันธงก็คือ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ในฐานะมือกฎหมายคู่ใจ ยืนยันอดีตนายกฯทักษิณจะยังไม่เดินทางกลับเมืองไทยในขณะนี้ตามที่มีกระแสข่าว แต่จะเดินทางกลับประเทศก่อนเดือนพฤษภาคมอย่างเปิดเผย สง่างาม
ไม่หลบๆซ่อนๆ
จบข่าวดี ข่าวสร้างสรรค์ ข่าวลือร้อนๆในวันวาเลนไทน์
มาถึงข่าวเย็นๆที่เหมือนจะวางโปรแกรมกันไว้ล่วงหน้าแล้ว ล่าสุด นพ.สุรพงษ์ยืนยันแนวคิดในการแต่งตั้งสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เข้าเป็นประธานและกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจ หลังเช็กคุณสมบัติ ตรวจสอบแล้วไม่ผิดข้อกฎหมาย
ส่งสัญญาณไฟเขียวเดินหน้า
แม้แต่ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ อดีตรองประธาน คมช. ก็ออก มาสนับสนุน ยืนยันความเห็นส่วนตัว ควรให้โอกาส เพราะเชื่อว่า ทุกคนมีความหวังดีต่อรัฐวิสาหกิจและองค์กรของรัฐ
ไม่ควรไปติติงล่วงหน้า
จะมีก็แต่คนของพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลังเงา นำทีมออกมาส่งเสียงเย้วๆ คัดค้านการตั้งสมาชิกบ้านเลขที่ 111 เป็นประธานหรือกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจ อ้างเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะบุคคลที่จะเข้ามาเป็นบอร์ดต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
มีความสำคัญเกินกว่าที่จะใช้เป็นบ้านพักสำหรับนักการ เมืองที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง
พูดไปพูดมาก็เหมือนยังไม่หายแสลงใจ ขนาดเครือข่ายไทยรักไทยโดนยุบพรรค นักเลือกตั้งบิ๊กเนมถูกดองเค็มในบ้านเลขที่ 111 ขยับไม่ออก
ประชาธิปัตย์ยังทำได้แค่ตั้ง “รัฐบาลเงา”
ก็เลยตามกัดติดไม่ปล่อย
ทั้งๆที่มันน่าเอะใจ ทีเมื่อตอนคณะรัฐประหารตั้งทหารตบเท้าเข้าไปเป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ แถมพ่วงด้วยเครือข่ายใกล้ชิดที่คน ประชาธิปัตย์คุ้นหน้าคุ้นตา ไม่ยักมีเสียงคัดค้านสักแอะดังออกมาจากค่ายประชาธิปัตย์
ปล่อยให้ขับรถไถกันตามอำเภอใจ
และผลก็อย่างที่ “บิ๊กเปย” พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกลาโหม พูดทิ้งทวนภายหลังตัดสินใจลาออกจากประธานบอร์ดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และตั้งท่าจะถอยจากเก้าอี้ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) เร็วๆนี้
ยอมรับกันชัดถ้อยชัดคำแบบลูกผู้ชายชาติทหาร
ที่ผ่านมามีคนแอบอ้างชื่อไปเรียกรับผลประโยชน์ในโครงการต่างๆของหน่วยงานที่ตนเองรับผิดชอบ เช่น กรณีกลุ่มคิงพาวเวอร์ โครงการโทรศัพท์มือถือ 3 จี
โดยเฉพาะผู้ที่ทำก็คือเพื่อนสนิทของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เสียใจมากที่สุด
ขอให้สื่อติดตามข่าวอย่างละเอียดและลึกซึ้งให้มากขึ้นก็จะทราบความจริงเรื่องต่างๆ
เรื่องฉาวๆชัดๆแบบนี้ ประชาธิปัตย์ไม่คิดลุยกัดติดมั่งหรือ.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คอลัมน์ ข่าวการเมืองวิเคราะห์