WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, February 14, 2008

อนุฯ กกต. มีมติให้ใบแดง 'ยงยุทธ'

คณะอนุ กก.สอบทุจริตเลือกตั้งเชียงรายมีมติให้ใบแดง"นายยงยุทธ ติยะไพรัช" หลังพยานยืนยันทำผิดจริง นอกจากนี้กกต.มีมติ ให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 2 จ.เพชรบูรณ์

กกต.มีมติ ให้เสนอเรื่องให้ศาลฎีกาสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 2 จ.เพชรบูรณ์ ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายเอี่ยม ทองใจสด นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ และนายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธุ์ ซึ่งทั้งหมดสังกัดพรรคพลังประชาชน

นายสุวิทย์ ธีรพงศ์ ประธานคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน คดีทุจริตจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า คณะกรรมการได้มีความเห็นสรุปความเห็นเสนอต่อ กกต.แล้วในกรณีที่มีการกล่าวหาว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่มที่1 พรรคพลังประชาชนกระทำผิดกม. เลือกตั้ง โดยดูจากการสอบพยานไม่ได้ให้การผิดไปจากที่เคยให้การไว้กับชุดสืบสวนสอบสวนของสันติบาล ดังนั้นจึงได้เสนอข้อเท็จจริงพร้อมความเห็นประกอบข้อกฎหมายเลือกตั้ง ม. 53 (2) และมาตรา 57 ให้ กกต.แล้ว จึงถือว่าหน้าที่ของคณะกรรมการยุติแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ กกต.ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ไปแล้ว หาก กกต.มีความเห็นยืนว่ายงยุทธ์มีความผิดจริง ตามที่กรรมการชุดนายสุวิทย์ มีความเห็นก็ต้องเสนอต่อศาลฎีกา ให้พิจารณา โดยเมื่อศาลฏีการมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาแล้วนายยงยุทธ ติยะไพรัช จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ในทันทีจนกว่าศาลจะมี่คำสั่งยกคำร้อง แต่ทั้งนี้หากศาลมีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายยงยุทธ ติยะไพรัช นายยงยุทธ์ ซึ่งมีตำแหน่งรอง หน.พรรคพลังประชาชนในขณะที่มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น กกต.ก็จะมาพิจารณาในเรื่องของการเสนอยุบพรรคพลังประชาชน

ทั้งนี้นายสุวิทย์ ธีรพงษ์ ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนสำนวนร้องคัดค้านการทุจริตนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ภายหลังที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพยานจำนวน 6 คน ซึ่งเป็นพยานทั้งฝ่ายผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ จากการที่ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อสืบสวนและสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ากำนันและผู้ใหญ่บ้านบางคน จากจำนวน 10 คน ยังคงยืนยันตามการให้ปากคำกับคณะอนุกรรมการสอบสวนของตำรวจสันติบาลไปก่อนหน้านี่ ดังนั้น ตรงจุดนี้ คณะอนุกรรมการฯ จึงไม่จำเป็นต้องสอบสวนเพิ่มเติมแล้ว ทั้งนี้ ขบวนการสอบสวนสำนวนทั้งหมด คณะอนุกรรมการฯ ได้นำสำนวนเดิมของกกต.มาใช้เป็นฐานข้อมูลในการสืบสวนและสอบสวน

นายสุวิทย์ กล่าวว่า วันที่ 14 ก.พ.นี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้นำเสนอสำนวนดังกล่าวให้กกต.รับทราบ โดยเป็นการสรุปรายละเอียดทั้งหมด ประกอบกับข้อกฎหมาย มาตรา 53 และ 57 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ทั้งนี้ กระบวนการเสนอสำนวนคงยังอยู่ระหว่างกระบวนการทางธุรกาตของกกต. โดยคาดว่าวันที่ 18 หรือ 19 ก.พ.นี้ เจ้าหน้าที่กกต.จะส่งสำนวนถึงมือกกต. เพื่อให้นำไปพิจารณาต่อไป