สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ซึ่งเดินทางถึงประเทศไทยวานนี้ (1 มิ.ย.) ได้ส่งสัญญาณชัดเจนต่อผู้นำไทยว่า รัฐบาลวอชิงตันจะไม่ยอมรับความพยายามใดๆ ของบรรดาผู้นำทหารในการยึดอำนาจ
การประท้วงต่อต้านรัฐบาลในกรุงเทพมหานคร เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ ได้จุดความกลัวว่ากองทัพอาจทำรัฐประหารอีกครั้ง โดย 2 ปีก่อนมีการชุมนุมลักษณะคล้ายกัน เพื่อขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จนทำให้เขาต้องลงจากเก้าอี้หลังเกิดการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549
ขณะที่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เลี้ยงต้อนรับ นายโรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐอเมริกา ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี ถนนวิทยุ โดยมี พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ตัวแทนเหล่าทัพ และเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ ให้การต้อนรับ ซึ่งการเดินทางมาเยือนของนายโรเบิร์ตครั้งนี้ เพื่อสร้างความคุ้นเคยและหารือประเด็นต่างๆ ในภูมิภาค คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับภารกิจทางการทหารที่ต้องมีความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งสื่อให้เห็นท่าทีของสหรัฐว่าเป็นห่วงการชุมนุมในประเทศไทย และต้องการเห็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้ตรวจสอบอาหาร เครื่องดื่ม ตลอดจนการแสดงศิลปะของไทยด้วยตนเอง เพื่อให้การต้อนรับเป็นไปอย่างสมเกียรติ
โดยในการพบกันครั้งนี้ เกตส์ กล่าวว่า ระบอบประชาธิปไตยเป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ของสหรัฐอเมริกา และกองทัพไทย
เจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ที่แถลงสรุปกับพวกผู้สื่อข่าว กล่าวว่า “มันเป็นเหตุผลประการหนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่ว่าทำไมรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐถึงได้มาที่นี่ ก็คือ เพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสหรัฐกับไทย วางอยู่บนพื้นฐานของการมีค่านิยมประชาธิปไตยร่วมกัน”
“เขาไม่ได้เที่ยวรังแกคนอื่นนะ” เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวถึงรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ “แต่สารของท่านความหมายชัดเจน และพึงได้รับความเคารพ”
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางมากรุงเทพฯ เกตส์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในสิงคโปร์ว่า “จุดยืนของเราไม่เปลี่ยนแปลง เราต้องการเห็นรัฐบาลเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย และเราจะบอกพวกเขาอย่างนั้น”
การเยือนไทยของเกตส์ เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ก่อนหน้าที่จะเกิดการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ที่นิยม พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ได้รับเลือกตั้งมาเมื่อเดือนธันวาคม
นายโรเบิร์ต เกตส์ เป็นอดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐต่อจาก โดนัลด์ รัมสเฟลด์ ช่วงปลายปี 2549 เขากล่าวยกย่องไทยในฐานะมิตรที่มีความสัมพันธ์แนบแน่น
“ไทยคือพันธมิตรเก่าแก่ของสหรัฐ” นายเกตส์กล่าวที่สิงคโปร์ ซึ่งเขาได้รับเชิญเข้าร่วมการสัมมนาประจำปีเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการป้องกันและความมั่นคง แชงกรี-ล่า ไดอะล็อก เมื่อ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ สหรัฐอเมริกาตัดลดเงินช่วยเหลือด้านการทหารราว 35 ล้านดอลลาร์ เพื่อประท้วงคณะทหารที่ทำการรัฐประหารแบบไม่เสียเลือดเนื้อ ขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2549 ก่อนที่จะยกเลิกมาตรการดังกล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเมื่อ 23 ธันวาคม 2550
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (31 พ.ค.) สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีของไทยขู่ใช้กำลังสลายการกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลราว 6,500 คน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่ตำรวจไม่ได้เคลื่อนย้ายผู้ประท้วงภายหลังนายสมัครเข้าเกียร์ถอย นายสมัครยังกล่าวหาสื่อมวลชนว่า บิดเบือนคำพูดของเขา
ความรุนแรงจากการชุมนุม อาจเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการดึงทหารเข้าสู่การต่อสู้ทางการเมือง โดยเฉพาะหลังจากเกิดการปะทะกันระหว่างฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านทักษิณ ระหว่างการชุมนุมเมื่อวันอาทิตย์ก่อน (25 พ.ค.)
โดยแกนนำต่อต้านรัฐบาลเรียกร้องให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมมากๆ
“เราจะอยู่ที่นี่จนกว่ารัฐบาลจะลาออก” นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สทางโทรศัพท์ ระหว่างการปักหลักชุมนุมที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งอยู่ใกล้กับเขตพระราชฐานกลางกรุงเทพมหานคร
เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า จะไม่มีการยื่นคำขาดกับผู้ชุมนุม ซึ่งลดจำนวนลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
“เราจะเจรจาอย่างสันติเมื่อถึงเวลาที่พวกเขาควรจะเคลื่อนย้าย เราจะไม่ใช้ความรุนแรง” พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุ
เจ้าหน้าที่สหรัฐเปิดเผยว่า นายเกตส์ชื่นชมประเทศไทยที่กลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย ในระหว่างการพบกับ นายสมัคร สุนทรเวช และนายทหารระดับสูงของไทย เจ้าหน้าที่สหรัฐหวังว่ากองทัพไทยจะใส่ใจกับคำพูดที่มาจากผู้บริหารจากเพนตากอน
รอยเตอร์ส ยังระบุว่า ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของไทยปฏิเสธรายงานข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) ที่ผ่านมาว่า ทหารอาจทำการรัฐประหารอีกครั้ง ขณะที่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ยังกล่าวด้วยว่า ไม่คาดหมายว่านายกรัฐมนตรีจะประกาศภาวะฉุกเฉิน และสั่งทหารไปยังท้องถนน
ที่มา : U.S. tells Thailand it wants democracy, not coup By Andrew Gray (Additional reporting by Apornrath Phoonphongphiphat, Editing by Ed Davies and Elizabeth Piper), Reuters, Sun Jun 1, 8:48 AM ET