WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, June 6, 2008

ขีดเส้น7วันคตส.ยุติบทบาท รอวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

“กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์” บุก คตส. ยื่นหนังสือให้ยุติการทำงาน ภายใน 7 วัน และงดรับเงินเดือน เพื่อรอผลวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน อีกทั้งหลังหมดอายุต้องแจ้งทรัพย์สินให้ประชาชนรับรู้ เพราะดูแล้ววาระแอบแฝงอื้อ ส่วนเรื่องหมายเรียกกองปราบคดีแจ้งความเท็จ คตส.ยังแข็งกร้าว ไม่ยอมโผล่แน่หลังร่อนหนังสือขอความคุ้มครองเปรอะไปทั่ว

เมื่อตอนสายวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา กลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ นำโดยนางสิริวารี ลำเพย เลขาธิการกลุ่มฯ พร้อมคณะได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เพื่อขอให้ คตส.ทั้ง 11 คน หยุดการทำหน้าที่ ภายใน 7 วัน เพื่อรอฟังผลการวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญก่อนว่า คตส.มีอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

ตามที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองยื่นให้วินิจฉัยไว้ และให้ส่งคดีต่างๆ ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อแทน รวมทั้งขอให้ยุติการใช้เงินของรัฐ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายตามมา นอกจากนี้ หลัง คตส.ยุติการปฏิบัติหน้าที่แล้ว ควรแสดงบัญชีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ได้รับการแต่งตั้งจนถึงปัจจุบัน และบัญชีทรัพย์สินให้สาธารณชนรับรู้ด้วย

โดยเนื้อหาของหนังสือระบุโดยสรุปว่า ที่ผ่านมา การทำงานของ คตส.มีวาระแอบแฝง รีบร้อนสรุปคดีต่างๆ เพื่อสั่งฟ้องให้ทันระยะเวลาที่ คตส.จะต้องหมดอายุลงในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ถูกกล่าวหาหลุดคดี และกลายเป็นไม่ให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา จึงเห็นว่าน่าจะส่งคดีที่ยังคั่งค้างอยู่ทั้งหมดต่อ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันจากการรีบร้อนเร่งตรวจสอบและไม่ต้องเสียเงินจ้างทนายความส่งฟ้องคดีแทนอัยการ จึงขอให้ยุติการทำหน้าที่และการใช้จ่ายอื่นๆ และเมื่อครบ 7 วันกลุ่มของตนจะมาฟังคำตอบอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม คตส. ได้ให้ นางสาววิไลรักษ์ อัญมณีรัตน์ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้ออกมารับหนังสือแทน โดยเลขาธิการกลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ เปิดเผยภายหลังด้วยว่า เจ้าหน้าที่ผู้ออกมารับหนังสือ ได้กล่าววาจาชอบกล ทั้งที่น่าจะนิ่งเฉยด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใส หรือกล่าวต้อนรับมากกว่า แต่กลับย้อนมาว่า ทำไมทางกลุ่มถึงไม่ไปยื่นถอนถอนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ด้วย ซึ่งได้กล่าวตอบไปว่า ส.ส. คือตัวแทนของประชาชนที่ได้การเลือกตั้งมาตามระบอบประชาธิปไตย มีความชอบธรรมในการเสนอกฎหมายหรือขอแก้กฎหมายตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ต่างจาก คตส.

"วันนี้เรามากันไม่มาก เพราะไม่ต้องการให้ดูเป็นเรื่องกดดัน หรือกล่าวร้ายเกิดขึ้น แต่หากยังนิ่งเฉย ไร้คำตอบ ทางกลุ่มจะนำมวลชนไม่ต่ำกว่า 200-300 มาทวงถามอีกครั้ง” นางสิริวารี กล่าว

นอกจากนั้น ในวันเดียวกันนี้ นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. ได้ออกมากล่าวถึงการที่กองปราบปรามได้ออกหมายเรียกคดีแจ้งความเท็จว่า ไม่รู้สึกหวั่นไหวหรือกดดัน ขณะเดียวกันก็เชื่อมั่นในชั้นศาลที่จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้อย่างเป็นธรรม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ คตส.จะถูกฟ้องร้องในการปฏิบัติหน้าที่หรือการฟ้องกลับจากผู้ที่ถูกตรวจสอบ แต่การทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี และอดีตคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) รวมถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลต่างๆ เพราะอยากเห็นกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส และมีบรรทัดฐาน

ด้าน พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และอดีตรักษาการประธานคมช. กล่าวถึงหนังสือของ คตส.ที่ส่งมาให้คุ้มครองการทำงานของ คตส. นั้น ขณะนี้ สถานะของ คมช. ได้หมดสิ้นลงไปแล้ว แต่ก็ รู้สึกเป็นห่วงเพราะเป็นส่วนหนึ่งที่ได้เชิญ คตส. เข้ามาทำงาน และส่วนตัวหากมีอะไรที่สามารถช่วยเหลือได้ก็จะช่วยเหลือ

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงหนังสือของ คตส.ว่า ยังไม่ทราบเรื่องและเป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมาย เพราะขณะนี้ คปค.ได้ประกาศยุติบทบาทไปแล้ว

สำหรับการส่งหนังสือของ คตส. นายสัก ได้ออกแถลงเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า คตส.มีมติทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผบ.ตร. และ ผบ.เหล่าทัพ ซึ่งเป็นอดีต คปค. ให้ดำเนินการกับพนักงานสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากปรากฏมีเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจที่น่าจะเป็นการบิดเบือนกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดความสะดวกในการทำหน้าที่ของ คตส.

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสำนักงานกฎหมายนิติเอกราช ได้ทำหนังสือถึง คตส.ขอให้ยกเลิกคำสั่งอายัดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และครอบครัว 2 ฉบับ แต่ปรากฏว่าถ้อยคำในหนังสือดังกล่าวมีลักษณะดูหมิ่น คตส.ว่าเลือกปฏิบัติ คตส.จึงแจ้งความกลับ ต่อมาสำนักงานกฎหมายแห่งนี้ได้มีการแจ้งความกลับ คตส.ในข้อหาแจ้งความเท็จ

อย่างไรก็ตาม จากนั้นพนักงานสอบสวนได้มีหนังสือออกหมายเรียก คตส.ถึง 2 ครั้ง คือ 30 พ.ค. และ 10 มิ.ย. โดยในหมายเรียกมีการระบุว่า หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามกำหนด โดยปราศจากเหตุอันควร อาจเป็นเหตุให้ออกหมายจับ ขณะที่ คตส. ทั้ง 11 คน จะไม่ไปพบพนักงานสอบสวน เพราะการทำหนังสือไปถือเป็นการชี้แจงด้วยวาจาแล้ว

ทั้งนี้ อดีตแกนนำ คปค. ที่ คตส.ทำหนังสือถึง ประกอบด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส. พล.อ.วินัย ภัททิยกุล ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. และ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร.