00 หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์ สื่อทางเลือกของประชาชน เพื่อประชาธิปไตย สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับหน้าแหลมฟันดำ กากเดนของเผด็จการ ฉบับวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ.2551
00 นับเป็นยุทธศาสตร์ ทำลายความเชื่อถือ หรือที่เรียกกันว่า ดิสเครดิต กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เรียกประชุม มินิ ครม. แก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ได้อย่างเฉียบพลัน พลิกเกมให้ เลี้ยบกิมฮวง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งใช้สมองทำงานมากกว่าปาก เป็นเจ้าภาพ ให้ ธ.ก.ส. รับจำนำข้าวเปลือกราคาตันละ 14,000 บาท ทันทีตั้งแต่วันวาน แถมแจกโบนัสหากราคาขึ้นไปอีก ก็จะจ่ายเงินให้กับชาวนาตามราคาข้าวส่วนต่างที่ขึ้นสูงไป
00 ในยุทธศาสตร์นี้ เสียดายอยู่นิดตรงที่ นายกฯ สมัคร สุนทรเวช แสดงอาการ เกรงใจพ่อค้าข้าวส่งออก แทนที่จะ ฉีกหน้ากาก ตัวการทำให้ราคาข้าวในเมืองลดลง ขณะที่ราคาข้าวในตลาดโลกยังสูงคงเดิม แต่ยังไม่สายหากจะนำไปแฉกันให้เห็นจะจะในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” วันอาทิตย์ที่จะถึง ดีกว่าไปข้องแวะกับกลุ่มพันธมิตรพันธมาร
00 แน่นอน วิพากษ์วิจารณ์กันสนุกปากที่กระทรวงพาณิชย์ การประชุมมินิ ครม. แก้ไขปัญหาราคาข้าวให้ชาวนา เพื่อตัดปัญหาชาวนาชุมนุมประท้วงปิดถนน เป็นการหักหน้า นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเคยเป็นเจ้าภาพแก้ไขปัญหาราคาข้าว แต่ไม่ได้นั่งร่วมประชุม เพราะติดประชุมอยู่ที่ประเทศเปรู ก็แล้วแต่มุมมอง รมต.มิ่งขวัญ ต้องยอมรับความจริงเหมือนกัน การแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรของไทย ต้องทำมากกว่าพูด เพราะเส้นสนกลในของพ่อค้าส่งออกมีทั้ง นักการเมือง และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ พูดก่อนทำ เข้าทางพ่อค้าหัวใส มีวิธีพิสดารมากมายที่จะกดราคาสินค้าไม่ให้โงหัว เพื่อกำไรเต็มพิกัด กลับถึงเมืองไทยวันไหน คนใกล้ชิดต้องรีบไปสะกิดบอก รองนายกฯ มิ่งขวัญ ต้องทำใจ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ นายกฯ สมัคร จะต้องเล่นบทล้วงลูกเร่งแก้ปัญหา ก่อนสภาจะเปิดประชุมสมัยสามัญ ปิดทางการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
00 เมื่อ รัฐบาลพลิกเกมเข้าเกียร์เดินหน้าเต็มสูบ แก้ปัญหาให้กับประชาชน เลิกตอแยกับขบวนการป่วนเมือง ปล่อยให้ธรรมชาติลงโทษ เหี่ยวเฉาไปเอง ไม่มีน้ำเลี้ยง จะใช้อะไรเป็นตัวล่อไปเกณฑ์คนให้มานั่งตากแดดตากฝนบนเวทีพันธมิตรพันธมาร นับวันยิ่งหาสาระการปราศรัยไม่ได้ นอกจาก ใช้คำหยาบคายเพื่อความสะใจของคนพ่นน้ำลาย แล้วยังมีหน้ามาพูดว่าเป็นการให้ความรู้กับประชาชน เอกฉัตร ไม่เถียงหรอกถ้าเป็นการสอนภาษาไทยสมัยพ่อขุนรามคำแหง แล้วยังมีหน้าประกาศจะตั้งมหาวิทยาลัยราชดำเนินขึ้นมาสอนความรู้ให้กับประชาชน ถ้าสอนให้ใช้คำว่า มึง กู ไอ้ อี ไม่ต้องถึงกับตั้งเป็นมหาวิทยาลัยหรอก ดูหนังตลกของไทยก็ได้ยินคำพวกนี้คุ้นหู
00 ถ้าจะให้ การดิสเครดิตกลุ่มพันธมิตรพันธมาร สมบูรณ์แบบ เอกฉัตร เสนอให้ นายกฯ สมัคร สุนทรเวช สั่งการ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สัก 1 สัปดาห์ เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น แถมยังทำให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่มีขวัญกำลังใจ ในแต่ละวันจะมี ผู้ว่าราชการ 14 จังหวัดในภาคใต้ ไปเยี่ยมเยียน เพื่อเข้าคิวพบรัฐมนตรีมหาดไทยวันละ 2 คน 7 วัน ครบ 14 คนพอดี ตัวเลขลงตัวเป๊ะ
00 เพื่อเป็นสิ่งจูงใจให้ ดอกเตอร์เหลิม กล้าที่จะลงไปอยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เลิกกังวล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะสร้างอนุสาวรีย์ให้ ก็มอบงาน ให้รับผิดชอบกำกับควบคุมดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ที่ จ.ยะลา สัก 1 สัปดาห์ ในเมื่ออยากจะคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะได้คุมตำรวจสมใจอยาก ส่งผลให้ตำรวจทั่วไปเลิกสับสนเสียที วันนี้ใครกันแน่กำกับควบคุมดูแลงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกฯ สมัคร หรือ รมต.เฉลิม
00 หากข้อเสนอของ เอกฉัตร ได้รับการขานรับ จะทำให้บนเวทีพันธมิตรพันธมาร นายสนธิ ลิ้มทองกุล จะหมดมุกปราศรัยไปโดยปริยาย ถ้าไม่มีเรื่อง สิงห์เหลิมรายวัน ก็ไม่รู้จะหยิบเรื่องอะไรขึ้นมาพูดให้คนฟังปรบมือโห่ฮา อุตส่าห์ใช้เวลาถึง 6 ปี ทำปริญญาเอกเป็นดอกเตอร์ทางด้านกฎหมาย ยังถูกสบประมาทว่า ได้มาได้อย่างไร ในเมื่อ สิงห์เหลิมพูดภาษาอังกฤษ เป็นแค่คำว่า เยส โน โอเค โคคาโคลา ฟังแล้วเจ็บแทน ดูถูกกันเกินไป พับผ่าเหอะ
00 อีกเด้งหนึ่งที่จะต้องได้รับแน่นอน ร.ต.ดวง อยู่บำรุง ได้โชว์ผลงานปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคใต้ ประเภทยาแก้ไอผสมใบกระท่อม ที่เรียกกันว่า สี่คูณร้อย ซึ่งระบาดหนักในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ถ้าปราบปรามได้ ภาพจะต้องดีกว่าพากำลังเฉพาะกิจไปตรวจผับตรวจบาร์ ตรวจยาเสพติด จะได้เลิกนินทากระแนะกระแหนกันเสียที
00 ตลอดชีวิตราชการตำรวจ รับบทบู๊มากกว่าบุ๋น เป็นฝ่ายรุกมากกว่าตั้งรับ เห็นอาการของ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล น่าเห็นใจ เกือบครึ่งเดือนที่อดหลับอดนอน เป็นใครก็ต้องเครียด ยิ่งม็อบที่พูดภาษาคนกันไม่รู้เรื่อง ยิ่งเครียดทวีคูณ กำลังตำรวจชั้นประทวนสามารถสับเปลี่ยนกำลังกันได้ทุกสัปดาห์ แต่ตัวผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปลี่ยนไม่ได้ น่าเห็นใจครับ เห็นที เพื่อนร่วมรุ่น นรต.30 ที่ทำงานใกล้ตัว พ.ต.อ.ปรีชา ธิมามนตรี หัวหน้าศูนย์สืบสวนนครบาล ต้องหาทางคลายเครียดให้เพื่อนที่เป็นผู้บังคับบัญชา
00 คงเห็นประชาชนเริ่มหาเส้นทางอื่นได้แล้ว ไม่ต้องผ่านถนนราชดำเนิน ความเดือดร้อนผ่อนคลายไปเยอะ กลุ่มพันธมิตรพันธมาร กำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ให้ชาวบ้านเดือดร้อน ตั้งยุทธการดาวกระจาย ยกกำลังไปป่วนสถานที่ราชการ สร้างความยุติธรรมให้กับสังคม คนกรุงเทพ จะได้ เผชิญกับปัญหารถติด เหมือนๆ กันกับคนที่ต้องผ่านถนนราชดำเนิน