บทเรียนของประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ผ่านมาทั้งหมด พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า มีคุณค่ามหาศาลกับคนมีหน้าที่บริหารจัดการประเทศเวลานี้ประวัติศาสตร์การเมืองประชาธิปไตย ที่ระหกระเหินบนเส้นทางประชาธิปไตยมา 76 ปี มีบันทึกไว้ชัดเจนว่า จาก 24 มิถุนายน 2475 มาจนถึง 5 มิถุนายน 2551เรามีปฏิวัติ 1 ครั้ง คือ 24 มิถุนายน 2475เรามีรัฐประหาร 10 ครั้งเรามีกบฏ 12 ครั้งทั้งหมดนั้น ถึงแม้ใครจะเรียกว่า“มารผจญระบอบประชาธิปไตย” หรืออะไรก็ตามทีแต่นั่นต้องถือว่า เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์เหล่านั้น มันบ่งบอกอารยธรรมและความเจริญเติบโตของระบอบประชาธิปไตย
จะเห็นได้ชัดเจนว่า เหมือนเด็กอยากได้ของเล่น ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะเล่นเป็นหรือเปล่า ก็ขอให้ได้ร้องไห้เอาของนั้นมาก่อนเถอะ เรียกว่ายังไม่ได้ศึกษารายละเอียดของของที่อยากได้นั้นเปรียบได้กับรัฐธรรมนูญนี่แหละครับประเทศประชาธิปไตยเขามี ก็อยากมีมั่งแล้วก็ไปเอาแม่แบบของประชาธิปไตยของประเทศที่เจริญแล้ว มาใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญเพื่อให้ชาวโลกประชาธิปไตยเขาเห็นว่าเราเก่ง เราเจ๋งนั่นคือ สิ่งที่คนไทยทำผิดตลอดมาและความผิดอย่างนี้ นักการเมือง นักเลือกตั้ง นี่แหละครับ เป็นต้นเหตุสร้างขึ้นมา
วันนี้ ผมอยากจะให้คนไทยทั้งหลาย ช่วยเหลียวหลังกลับมาดูพร้อมๆ กันว่านักการเมือง นักเลือกตั้ง ควรทำอะไรก่อนจะพูดถึงรัฐธรรมนูญ แล้วเอาพลังประชาชนข้างหลังตัวเองขึ้นยืนยันและปกป้องและควรทำอะไร ถึงจะให้ประชาธิปไตยของประเทศไทยไปถึงฝั่งฝันเสียทีวันนี้ลองถามตัวเองว่า ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยเหมือนที่คุยที่อวดอ้างหรือเปล่าครับ?พินิจพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าเราแปรประชาธิปไตยเฉพาะเปลือกนอก เหมือนเสื้อผ้าที่ใส่เป็นยี่ห้อประชาธิปไตย
แต่ใจพวกเรานั่นน่ะ เป็นประชาธิปไตยจริงหรือเปล่า?ประชาธิปไตยไม่ใช่การประท้วง ไม่ใช่การสร้างม็อบประชาธิปไตยจะเกิดได้โดยการสร้างไม่ใช่ด้วยการทำลายไม่อายคนอื่นก็อายตัวเองบ้างพวกที่อ้างประชาธิปไตยเพื่อชัยชนะของตัวเองนั่นแหละ พวกคุณกำลังทำลายประชาธิปไตยที่บรรพบุรุษช่วยกันสร้างมาด้วยเลือดและชีวิตพวกอกตัญญูต่อประชาธิปไตยทั้งหลาย จงรู้ไว้เถิดว่าพวกท่านนั่นแหละ คือ อุปสรรคของความเจริญก้าวหน้าของประชาธิปไตยของคนไทยทั้งประเทศพวกท่านต่างหากที่จะต้องถูกประชาชนขับไล่ว่า “ให้ออกไป ให้ออกไป” ดังกว่าเสียงจากสะพานมัฆวานรังสรรค์
มด คันไฟ