WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, June 6, 2008

ขั้นแตกหัก

“เข้าใกล้กลียุค”

“กลียุคมาแล้ว”

“สงครามประชาชน”

“สงครามศักดิ์สิทธิ์”

“ไม่ชนะไม่เลิก”

“ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง”

ถ้อยคำสวยหรูของกลุ่ม พันธมารประชาธิปไตย ที่นำมาใช้ปลุกระดม เพื่อเรียก เรตติ้ง ในการทำม็อบ ดูจะเป็นเรื่องที่ธรรมดา ใครได้ยิน ใครได้ฟัง ในครั้งแรกๆ อาจจะดูตื่นเต้น หวือหวา มันจะทำอะไรกัน ต้องไปดูซะหน่อย กลายเป็นพฤติกรรม ไทยมุง ซะมากกว่า

ส่วนคนที่ดูเยอะแยะนั้นก็ล้วนเกณฑ์กันมาดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เคลื่อนมาจากที่แห่งหนตำบลใด จาก เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระยอง ชลบุรี และพิษณุโลก

เกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บอกได้ว่า เหนือชั้น ขนาดเซียนเหยียบเมฆ เพราะแค่พูดยังไม่ทันลงมือ ก็กลัวกันหัวหด ขนาดต้องไปนั่งให้ประชาชนห้อมล้อม เห็นธาตุแท้ของผู้นำหรือยังล่ะ

ผู้นำ นักรบ เขาต้องอยู่แถวหน้า ไม่ใช่ไปมุดอยู่ในวงล้อมของประชาชน

ผู้นำจะต้องออกหน้า-กล้าตายแทนประชาชน แต่กลับกลัวอะไรไม่เข้าท่า! ไปมุดอยู่ในฝูงชน ใช้ประชาชนเป็นโล่กำบัง

การระดมคน เมื่อ วันเสาร์ ที่ผ่านมา หลังจากที่มีการประกาศเตือนครั้งที่ 1 นั้น ฝ่ายมอนิเตอร์ ซึ่งต้องหาข่าวตามปกติ ได้พบข้อมูลสำคัญหลายอย่าง มีการติดตามตรวจสอบถี่ยิบ ทำให้ทราบถึงขีดความสามารถในการระดมคนของคนกลุ่มนี้ ชักดิ้นชักงอเพื่อความอยู่รอด จึงทำทุกวิถีทาง

ผ่านเครือข่ายใด

ผ่านจังหวัดใด

ผ่านเงินจากใคร

ทั้งหมดนี้จะถูกนำไปรวบรวม เรียบเรียง เพื่อที่จะนำข้อมูลไปใช้เป็นประโยชน์ต่อไปภายภาคหน้า

อย่างน้อยๆ ส่วนราชการจะได้บันทึก จะ ได้เห็น ถึงความไม่ปกติ ความไม่ชอบมาพากลของ ม็อบพันธมารประชาธิปไตย ไม่เหมือน!! ม็อบอื่นทั่วๆ ไป ที่มีความเดือดร้อนด้านต่างๆ ที่เขามาด้วยความบริสุทธิ์ใจ เช่น ราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ การขอขึ้นค่าโดยสารรถประจำทาง เป็นต้น เพราะคนพวกนี้ ไม่ใช่ม็อบที่มีภารกิจแอบแฝงทางด้านการเมือง การปกครอง ดังที่เห็นและเป็นอยู่ทุกวันนี้

ทางออกอีกวิธีหนึ่ง เมื่อ รัฐไร้ปัญญาบริหารจัดการ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของ ภาคประชาชน จะต้องลุกขึ้นมาช่วยกันจัดการเสียทีได้แล้ว ปล่อยเอาไว้ยิ่ง ทำให้บ้านเมืองฉิบหายป่นปี้

คนเดือดร้อนจากการปิดท้องถนน ไม่ว่าจะเป็น พระภิกษุ สามเณร สมณะ ชี พราหมณ์ นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ พ่อค้า นักมวย และประชาชนทั่วๆ ไป จะต้องทำตัว “เสียงดัง” บ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้คนไม่กี่คนทำตัวเสียงดังเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่เคารพยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง กระทำการรุกล้ำก้ำเกินในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นเป็นเนืองนิตย์

จะได้รู้กันเสียทีว่า ประเทศนี้ต้องการประชากรที่ทำตัวเป็นจิ๊กโก๋กลางถนน “ส่งเสียงดัง” นี่แหละ! จะได้เป็นอภิสิทธิ์ชน เจ้าหน้าที่รัฐไม่กล้าทำอะไร ทั้งที่ทำผิดกฎหมายเห็นๆ