WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, June 6, 2008

คตส. ยิ่งดิ้น...ยิ่งทุเรศ

คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ หรือ คตส. คลอดออกมา โดยมีบิดาชื่อ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ คปค. ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อมาเป็น คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ หรือ คมช. ขณะที่มารดาก็คือ สมุนของ คมช. ทั้งหลาย

ดังนั้น คตส. จึงมีสายเลือดของเผด็จการอำนาจนิยมพันธุ์แท้ ที่หาได้ยากยิ่งแล้วบนผืนโลกแห่งนี้ หน้าตาเป็นอย่างไรก็ลองนึกภาพกันดู 1.นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานกรรมการตรวจสอบ 2.นายแก้วสรร อติโพธิ เลขานุการคณะกรรมการตรวจสอบ 3.นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบ 4.นายกล้านรงค์ จันทิก 5.คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา 6.นายจิรนิติ หะวานนท์ 7.นายบรรเจิด สิงคะเนติ 8.นายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ 9.นายสวัสดิ์ โชติพานิช (ลาออกภายหลัง) 10.นางเสาวนีย์ อัศวโรจน์ 11.นายอุดม เฟื่องฟุ้ง และ 12.นายอำนวย ธันธรา

หลังคลอด คตส. ออกมาแล้ว พฤติกรรมเผด็จการก็โผล่ให้เห็น ด้วยการทดแทนคุณพ่อ คมช. อย่างสุดลิ่ม ก็คือ พลิกหน้ามือเป็นหลังตีนต่อกระบวนการสอบสวนในทันที เพื่อเอาเรื่องกับอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลไทยรักไทย ว่าเป็นคนโกงชาติ ให้ได้

เรียกว่าไม่ต้องยึดถือกระบวนการยุติธรรมอะไรมาก หาเรื่องที่พอจะเบี่ยงเบนได้ก็ตั้งธงฟ้องเลย...???

เพราะนั่นคือ 1 ใน 4 ข้อกล่าวหาที่คุณพ่อ คมช. ใช้เป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจมาจากรัฐบาลของประชาชน และเป็นการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย

ที่ปัจจุบัน ปรากฏชัดแล้วว่า 3 ข้อที่นำมาอ้าง ไม่มีมูลความจริงแต่ประการใด โดยเฉพาะการกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หมิ่นเบื้องสูง เมื่ออัยการมีหน้าที่ต้องดำเนินการ ไม่ใช่ คตส. ข้อกล่าวหาถูกยกฟ้องไม่มีมูล เช่นเดียวกับอีก 2 ข้อหา

ดังนั้น จึงเหลือเพียงข้อหาเดียว นั่นก็คือ การทุจริตของคณะรัฐบาลภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น ที่จะรักษาหน้าคุณพ่อ คมช. ไว้ได้...!!!

คตส. ที่เป็นลูกกตัญญู จึงต้องตอบแทนบุญคุณ ด้วยการหาข้อมูลตะแบงกล่าวหาส่งฟ้องให้เกิดเป็นภาพของการโกงกินในยุคนั้นให้มากๆ เพื่อทำให้เกิดความชอบธรรมต่อคุณพ่อ คมช. ที่กระทำการข่มเหงประชาชน

นอกจากนี้ หลังคุณพ่อ คมช. หมดอายุลง ได้ทิ้งมรดกให้ คตส. ทำหน้าที่ต่อไปอีก ด้วยการต่ออายุให้ ซึ่งจะมาสิ้นสุดในเดือนมิถุนายนนี้แล้ว

ผลพวงจึงทำให้ คตส. ลนลาน ส่งฟ้องคดีความที่ค้างคาอยู่อย่างสะเปะสะปะไปหมด แม้จะมีสัญญาณออกมาจากอัยการสูงสุดแล้วก็ตาม แต่ คตส. ก็ยังแสดงอิทธิฤทธิ์ ไม่รับฟังแม้แต่ประการใด

สังคมก็เริ่มเห็นพฤติกรรมของ คตส. มากขึ้นเป็นลำดับ จนท้ายสุดประชาชนที่รักความยุติธรรมก็สุดอดทน มีทั้งการเข้าแจ้งความดำเนินคดี

และล่าสุดก็จากกลุ่มพลเมืองภิวัฒน์ ก็เข้ายื่นหนังสือให้ คตส. หยุดทำหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอำนาจของ คตส. ออกมาให้ชัดเจนก่อน หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความให้ชัดเจนก่อน

เรื่องก็ควรจะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แต่แล้วจู่ๆ คตส. ก็แสดงอิทธิฤทธิ์เหนือผู้อื่นอีก จนเป็นเรื่องเป็นราว ให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ฉาวกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง

แต่เรื่องนี้เอาเป็นว่า ผมอยากสละเนื้อที่ที่เหลือ นำความคิดเห็นของประชาชนคนอื่นๆ มาแสดงไว้ให้เห็นเพิ่มเติม เผื่อ คตส. จะได้สำเหนียกเสียบ้างว่า สังคมเขามองกันอย่างไร

ที่เว็บบอร์ด พันทิป ห้องราชดำเนิน โดย คุณชัยเสถียร ได้โพสต์ความคิดเห็นไว้อย่างนี้ครับ

“นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. แถลงเมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 4 มิถุนายนว่า คตส. ได้มีมติทำหนังสือถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ อดีตคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ในฐานะที่แต่งตั้ง คตส. ตามประกาศ คปค. ฉบับที่ 30

ให้ดำเนินการกับพนักงานสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากปรากฏมีเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจรัฐที่น่าจะเป็นการบิดเบือนกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดความสะดวกในการทำหน้าที่ของ คตส.

สืบเนื่องมาจากกรณีที่สำนักงานกฎหมายนิติเอกราช จำกัด ได้ แจ้งความกลับ คตส. ในข้อหาแจ้งความเท็จ และพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้มีหนังสือ ออกหมายเรียก คตส. ถึง 2 ครั้ง ในวันที่ 30 พฤษภาคม และ 10 มิถุนายน โดยในหมายเรียกมีการระบุว่า หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามกำหนด โดยปราศจากเหตุอันควร อาจเป็นเหตุให้ออกหมายจับ

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 10 มิถุนายน คตส. ทั้ง 11 คน จะไม่ไปพบพนักงานสอบสวน เพราะว่า การทำหนังสือไปนั้นถือเป็นการชี้แจงด้วยวาจาแล้ว โฆษก คตส. กล่าวต่อว่า

คตส. ยังได้ทำหนังสือถึงทุกศาล ในส่วนกลางและปริมณฑล เหตุที่ต้องมีหนังสือไป เพราะไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนจะดำเนินการขอหมายศาลที่ใด จึงต้องกราบเรียนข้อเท็จจริงให้ศาล ที่มีอำนาจออกหมายอาญา ได้ทราบว่า

ไม่มีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน และเพื่อแสดงความประสงค์ว่า หากพนักงานสอบสวนมีคำร้องขอออกหมายจับ คตส. ทาง คตส. จะแต่งตั้งทนายความในชั้นไต่สวนคำร้อง ขอออกหมายจับ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในคดีต่อไป”

คุณชัยเสถียร โพสต์ต่อไปด้วยข้อความร้องว่า “โอ้โฮ...ไม่อายน้ำหน้าบ้างหรือครับ ยางอายน่ะมีไหม นายสัก กอแสงเรือง

ขอถามหน่อยเถอะ พวกคุณอยู่เหนือกฎหมายหรือไง มีคนกล่าวหาคุณว่าแจ้งความเท็จ ตำรวจออกหมายเรียกคุณตามอำนาจหน้าที่...

ผิดถูกอย่างไร คุณทำไมไม่ไปต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรม คุณจะไปร้องเรียนอะไร ขั้นตอนตามกฎหมายทำไมไม่ทำครับ

ขออนุญาตสอนวิชา ป.วิอาญา ให้คุณสัก กับคณะ คตส. เป็นวิทยาทานสักเล็กน้อยนะครับว่า การที่ คตส. ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีหรือ ผบ.ตร. นั้น เป็นไปตาม ป.วิอาญา มาตราไหนเอ่ย

ยิ่งกลุ่มอดีต คมช. ยิ่งแล้วใหญ่ มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายที่ไหน...???

แล้วที่ คตส. ทำหนังสือถึงศาลทุกศาล ทั้งที่คดีนี้ยังอยู่ในชั้นสอบสวน ก็แสดงให้เห็นว่า คตส. กลัวจนเบลอแล้ว

อำนาจออกหมายเรียกผู้ต้องหา เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนโดยตรง ไม่เกี่ยวกับศาลตรงไหน มันยังไม่ถึงชั้นศาล เมื่อพนักงานสอบสวนออกหมายเรียก คตส. ไปรับทราบข้อหาและให้ปากคำ

พวกท่านเป็นอภิสิทธิ์ชนเหนือประชาชนคนไทยตรงไหนมิทราบ...???

คณะ คตส. ทำไมไม่ไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงว่า ที่ถูกกล่าวหานั้นน่ะ มันไม่ใช่ หรือไม่ถูกต้องตรงไหน นอกจากนี้หากพิสูจน์ได้ว่าไม่เป็นจริง คณะ คตส. ก็สามารถดำเนินคดีกับผู้กล่าวหาว่า กลั่นแกล้งให้ผู้อื่นต้องรับโทษทางอาญา

กฎหมายมันมีขั้นตอนของมันอยู่ การมาร้องแรกแหกกระเชอ ดิ้นพราดเหมือนสุกรถูกน้ำร้อนอย่างนี้ มิใช่การแก้ปัญหาของนักกฎหมาย

ถ้าต่อสู้โดยวิธีดิสเครดิตองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายอย่างพวกท่านเช่นนี้ ผมว่าน่าจะติดคุกตอนแก่ทั้งคณะแน่ๆ ครับ

โชคดีนะครับ คณะ คตส. (ไม่รู้แปลว่า คณะคอยดูตอนอวสานหรือเปล่า)”

ครับ เมื่อคุณชัยเสถียรลงท้ายไว้อย่างนี้ ผมก็คงต้องคอยดูเช่นเดียวกันครับ...

พร ภัทร