WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, June 6, 2008

กลายเป็น “โลกดนตรี” ไปแล้ว!

ยิ่งนานวัน “ม็อบข้างถนน” ก็ยิ่งกร่อย เพราะคนเริ่มน้อยลงไปทุกที สาเหตุมาจากความโง่เขลาเบาปัญญาของ 5 แกนนำ และหลายคนก็เริ่ม “ตาสว่าง” กันบ้างแล้ว

ผู้มาชุมนุมบางส่วนที่ถูกว่าจ้างมาหัวละ 300–400 บาท ก็เริ่มกลับไปทำงานประจำของตัวเองเพราะว่าเสบียงกรังก็ร่อยหรอ

ที่สำคัญแผนการต่างๆ ที่ได้วางไว้ ไม่ว่าจะเป็น “สงครามครั้งสุดท้าย” ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่ประกาศอย่างฮึกเหิมว่า “ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง” ก็มีอันต้องดับสลายไป เพราะประชาชนไม่มีใครเอาด้วย

รวมทั้งล่าสุด “ผ้าพันคอสีฟ้า” ที่ผมได้เขียนไว้เมื่อวานในเรื่อง “กำเริบเสิบสาน” ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ไม่เป็นความจริง

สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ทรงอยู่เหนือการเมือง และทรงเป็นกลางทางการเมือง

เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ดี จึงเป็นอันว่า ข้อแอบอ้างของนายสนธิที่ผ่านมา ไม่มีข้อไหนที่เป็นความจริงเลย เพราะแต่ละเรื่องเขาแอบอ้างทั้งนั้น

ใครที่กำลังสงสัย เร็วๆ นี้ก็จะทราบว่า “ผ้าพันคอสีฟ้า” มันจะย้อนกลับไปทำร้ายนายสนธิด้วยวิธีการไหน ต้องคอยติดตาม

เวลานี้แม้กลุ่มพันธมิตรฯ จะปรับแผนการต่อสู้อย่างไร้ทิศทาง ล่าสุดก็มหาวิทยาลัยราชดำเนินไปสู่ยุทธวิธีดาวกระจาย ซึ่งแผนทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงภาวะที่อาจกล่าวได้ว่า “หมดมุก” หรือ “มุกแป้ก”

อาการ “หมดมุก” หรือ “มุกแป้ก” ที่ว่านี้ ถ้าเป็นตลกคาเฟ่ก็อาจหมดหนทางทำมาหากิน หรือไม่มีใครว่าจ้างให้ไปเล่นตลกให้ลูกค้าดู เพราะเมื่อลูกค้าไม่ขำแล้ว เวทีกร่อยก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป

เหมือนกับเวทีพันธมิตรฯ ที่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ณ เวลานี้ บรรยากาศเริ่มกร่อย คนที่ถูกเกณฑ์มาก็เริ่มน้อยลงไปทุกวัน

ช่วงนี้จึงจะเห็นได้ว่า เวทีพันธมิตรฯ กลายเป็น “โลกดนตรี” ไปซะแล้ว เพราะมีดารา นักร้อง สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาขึ้นเวที

จากเวทีที่มีอุดมการณ์ กลายเป็นเวทีที่ไร้สาระ เลอะเทอะ เละเทะไปกันใหญ่ เกณฑ์ดาราตกกระป๋องมาขึ้นเวที ดาราบางคนอกหักจากการเมืองก็แค้นฝังหุ่น กลับมาตะแบงด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แอบอ้างสถาบันในการปลุกระดมให้คนเกลียดชังรัฐบาล

ส่วนดาราบางคนก็มีข่าวฉาวโฉ่ตามหน้าหนังสือพิมพ์ มีปัญหากับผู้หลักผู้ใหญ่จนต้องกระเด็นย้ายข้ามช่อง ส่วนบางคนก็ห่างหายจากวงการไปนาน กลับมาอีกทีก็มีข่าวว่าสามีทิ้งจนไม่มีเครดิตอะไรจะไปขับกล่อมให้คนเชื่อถืออีกแล้ว

ว่ากันว่า การที่พันธมิตรฯ ไปเกณฑ์ดารา นักร้อง มาขึ้นเวที ถือเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่จะปลุกระดมให้คนมาชุมนุมกันเยอะๆ

โดยหวังว่าดาราที่เป็นคนของประชาชนจะสร้างความฮึกเหิม ซึ่งต้องบอกกันไว้เลยว่า ประชาชนในยุคนี้ไม่ได้โง่เขลาเบาปัญญาให้ใครจูงจมูกได้ง่ายๆ

ไม่ใช่แค่จะเอาความโด่งดังมีชื่อเสียงในวงการบันเทิงมาหลอกล่อให้ประชาชนเลือกข้าง เพราะฉะนั้นอย่าดูถูกประชาชน

เรื่องแบบนี้ไม่ใช่แค่ขึ้นมาโพสท่า แอ็กชั่นแสดงละคร ด่าคนอื่นว่าโกงกินชาติบ้านเมือง ไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน พูดจาเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น

ชาวบ้านเขาดูแล้วสมเพชเวทนา ถ้ารักประเทศชาติจริงก็ช่วยกันขับไล่พวกปิดถนนประท้วง สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน หรือเอาเวลาไปสอนเด็กๆ รุ่นน้องให้ตั้งใจเรียนหนังสือจะดีกว่า

กรุณาบอกเด็กๆ ว่า...ถ้าอยากเป็นเด็กดี ต้องตั้งใจเรียนหนังสือ ไม่ใช่มาเต้นกินรำกิน นุ่งน้อยห่มน้อยขึ้นหน้าปกหนังสือโชว์นมโชว์ก้น

ฉะนั้น ใครที่คิดจะมาฉวยโอกาส สร้างกระแสให้ตัวเองว่าเป็นคนดี ออกมาปกป้องประเทศชาติ กอบโกยคะแนนนิยมเพื่อหวังเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทย

ขอเตือนว่า จงคิดให้รอบคอบเสียก่อน ไม่เช่นนั้นผลกรรมที่กระทำไว้จะย้อนกลับไปตอบสนองพวกคุณ เพราะคุณคือคนของประชาชน ถ้าประชาชนเขาไม่เอาคุณแล้วจะเสียใจ

เดี๋ยวนี้เวรกรรมติดจรวด ตกอับขึ้นมาจะไม่มีใครเหลียวแล เหมือนกับตลกบางคนที่วันนี้ยังหาใครช่วยเหลือไม่ได้เลย!

ลวดหนาม