เป็นไปตามฟอร์ม ข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาติของคนกลางอย่างนายแพทย์ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และประธานมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ก็มีอันเป็นหมัน นับไม่ถูกแล้วว่า “ฟาวล์” เป็นรอบที่เท่าไหร่ หันไปทางนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ออกตัวชิ่งแบบนิ่มๆ การตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยมีพรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำ เป็นแนวคิดที่ดี ที่ต้องการให้ประเทศชาติเกิดความสงบสุข แต่ในทางปฏิบัติ ไม่ค่อยชัดเจนว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การตั้งรัฐบาลโดยพรรคพลังประชาชน ก็ถือเป็นความชอบธรรม เพราะมาจากการเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนบอกปัด ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธตรงๆเลยว่า “คงเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่าผมเห็นด้วย” เพราะเท่ากับเป็นการเรียกร้องเข้าไปร่วมรัฐบาล ซึ่งตนเองไม่ได้มีข้อเรียกร้องนี้เลย มีเพียงข้อเรียกร้องให้รัฐบาลหยุดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นชนวนความขัดแย้ง และมาทำงานร่วมกันในคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย และโดยความหวังลึกๆของพรรคประชาธิปัตย์ อ่านจากอาการของนายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค ที่ออกมาเล่นลูกตามน้ำ รับมุกข้อเสนอให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวหนีพรรคพลังประชาชนไปรวมกับพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล รีบชู “อภิสิทธิ์” มีภาวะผู้นำเหนือกว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี สบช่องจ้องพลิกเกมเปลี่ยนขั้วกันเลย แต่มวยมันก็ทันกัน นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ อดีตศิษย์เก่าประชาธิปัตย์ รีบออกมาดักคอ ขอให้นายอภิสิทธิ์ดูแลสมาชิกของพรรคที่ขึ้นเวทีปราศรัยกับกลุ่มพันธมิตรฯ เพราะการให้สมาชิกของพรรคกระทำเช่นนี้ ไม่ทราบว่านายอภิสิทธิ์ยังเชื่อมั่นการเมืองในระบบรัฐสภาอยู่หรือไม่ จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการมีอำนาจผ่านการเลือกตั้งหรือต้องการเป็นรัฐบาล ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆก็ตาม ต่างฝ่ายต่างดักทาง คุมเชิง โดยยุทธศาสตร์คู่ขนาน ไม่มีวันที่พรรคพลังประชาชนกับพรรคประชาธิปัตย์จะโคจรมาร่วมวงศ์ไพบูลย์กันได้ ที่แน่ๆมีรายงานว่าพรรคประชาธิปัตย์เตรียมแผนดักทางกันไว้แล้ว หากในวันที่ 9 มิถุนายน ที่ประชุม ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนยังเดินหน้ายื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีทันที ขู่ลุยแตกหักในสภาฯ แต่ก็เป็นอะไรที่เห็นได้ชัดเลยว่า ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ขู่ฮึ่มๆเตรียมเปิดเวทีซักฟอก ม็อบพันธมิตรฯปิดถนนราชดำเนิน ตั้งท่ารบแตกหัก รัฐบาลไม่ได้ตื่นเต้นสักเท่าไหร่ เทียบกับปรากฏการณ์ล่าสุด ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีหลายกระทรวงถูกเรียกตัวด่วนเข้าพบนายกรัฐมนตรี โดยไม่มีวาระแจ้งล่วงหน้า ต่อมาถึงได้เปิดเผยกันว่า นายกรัฐมนตรีได้เรียกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจถกฉุกเฉิน เพื่อแก้ปัญหากลไกราคาข้าว หลังสมาคมชาวนาไทยขู่ปิดถนน 4 เส้นทางหลักเข้ากรุงเทพฯ และก็เป็นนายสมัครที่แถลงด้วยตัวเองว่า ที่ประชุมมีมติให้เปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังที่ราคา 14,000 บาท/ตัน จำนวน 2.5 ล้านตัน โดยมอบหมายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ดำเนินการ เริ่มวันที่ 5 มิถุนายนนี้ทันที ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวสอดคล้องกับข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ที่จะให้คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาเปิดโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง เพื่อช่วยเหลือชาวนาในช่วงที่ราคาข้าวเปลือกเริ่มตกต่ำลง แค่ส่งสัญญาณขู่ รัฐบาลถึงกับรีบลนลาน ม็อบชาวนาต่างหาก ของจริงที่ “สมัคร” แหยง. ทีมข่าวการเมือง รายงาน