WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, August 11, 2008

เด็ก (ไทย) ไม่รู้จักโต

หลังจากปลงตกแล้วว่าละครแนว “ตบจูบ” คงไม่มีวันสูญพันธุ์ไปจากละครไทยแน่ ฉันจึงได้หันกลับมาดูละครด้วยความสนุกสนานอีกครั้ง แล้วยังสามารถลุ้นและกรี๊ดพระเอกรูปงาม (แต่ไร้ความพยายามในการเอาชนะใจผู้หญิง นอกเสียจากใช้กำลัง) ได้อย่างไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอีกต่อไป
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็บนฐานที่ว่าละครพวกนั้น มันจะไม่ทำให้ฉันหรือใครที่ติดละครงอมแงม ยึดถือความน้ำเน่าในละครมาเป็นบรรทัดฐานของชีวิตจริงๆ ซึ่งหากคิดว่า มนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่ถูกกระทำหรือฝ่ายตั้งรับอย่างเดียวแล้ว ก็คงไม่น่าเป็นห่วงอะไรสำหรับกรณีนี้
แต่กับเด็กและเยาวชนที่มักถูกอ้างถึงในฐานะผู้ไม่บรรลุนิติภาวะ ผู้ไร้สติปัญญาไตร่ตรองผิดชอบชั่วดีแล้ว ละครไทยหลายเรื่องก็ยังเป็น “สารพิษ” ที่ผู้ปกครองควรพิจารณาก่อนอนุญาตให้บุตรหลานเข้าใกล้อยู่ดี
จะว่าผู้ใหญ่บ้านเมืองนี้เห็นเด็กโง่อยู่ฝ่ายเดียวก็ว่าไม่ได้ เพราะหลายครั้งเด็กบ้านเราก็ทำตัวเหมือนไร้สมองกันจริงๆ แล้วเมื่อเกิดปัญหาก็โทษแต่ละคร เกม ภาพยนตร์ หรือสื่อต่างๆ ราวกับว่าฉันเป็นผ้าขาวบริสุทธิ์ที่ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว…
ในฐานะที่ก็เคยเป็นเด็กมาก่อน ย่อมรู้ดีว่ามนุษย์ไม่ใช่สักแต่เป็นผู้ถูกกระทำ และการกระทำของเราหลายอย่างก็โทษว่าเราไม่รู้ (เพราะยังเด็ก) ไม่ได้ เช่นกันกับความรุนแรงในเกม ในละคร ในภาพยนตร์ เรารู้ว่าแรง รู้ว่านั่นคือโลกเสมือน รู้ว่านั่นคือสิ่งที่ในโลกภายนอกเราไม่สามารถทำได้ ทำแล้วจะมีความผิด
บางทีเห็นเยาวชนสมัยนี้ทำผิดคิดร้ายแล้วก็อ้างแต่ว่าเลียนแบบเกม เลียนแบบละคร ก็อยากเขกหัวแรงๆ หลายๆ ที เพราะมันเป็นการโยนบาปอย่างใสซื่อเกินไป…อย่าคิดว่ายังไม่เป็นผู้ใหญ่แล้วจะอ้างอะไรมาเป็นจำเลยแทนตัวก็ได้นะนั่น
หรือเพราะมันเป็นปัญหาระดับโครงสร้างสังคมของบ้านเราก็ไม่รู้ ที่พูดกันแต่เรื่องสิทธิเสรีภาพ แต่เรื่องบทบาทกับความรับผิดชอบกลับย่อหย่อน นั่นคือ รู้จักแต่จะ “เอา” จะ “รับ” แต่เรื่องการ “ให้” หรือการตอบแทนให้สมกับบทบาทที่อยู่ในสังคมนี้ กลับทำกันไม่ค่อยได้
เหมือนวัยรุ่นบางคนในสมัยนี้ ที่รู้จักแต่เรียกร้อง “ฟรีดอม” อิสรเสรี แต่กลับไม่ค่อยพูดถึงเรื่องความรับผิดชอบทั้งต่อตนเองและสังคมส่วนรวม บางคนก็ยังแบมือขอเงินพ่อแม่อยู่ได้เนืองๆ แต่เมื่ออยากทำอะไรตามใจก็ห้ามพ่อแม่มายุ่งโดยเด็ดขาด
อยากจะโตและเสรีเหมือนเด็กฝรั่ง แต่ก็รับวัฒนธรรมมาแค่ครึ่งๆ กลางๆ เรื่องที่เด็กบ้านเขาออกมาหาเลี้ยงตัวเองตั้งแต่อายุ 14-15 กลับไม่ค่อยเห็นเด็กไทยอยากทำตาม
ตั้งใจจะพูดเรื่องละคร แต่ไหงกลายมาเป็นว่าเด็กได้ก็ไม่รู้…ทำตัวอย่างกับคนแก่ ว่าแล้วก็ขอตัวไปเล่นเกมบ้างดีกว่า เผื่อจะตามเด็กรุ่นนี้มันทันบ้าง…หุหุ