WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, August 15, 2008

สวัสดีวันจันทร์

วีระ มุสิกพงศ์

“...ในที่นี้ ข้าพเจ้าขอพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ข้อเท็จจริงเรื่องหนังสือตอบกลับจากราชเลขาธิการนั้น จะมีหรือไม่มี ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะหนังสือตอบกลับจากราชเลขาธิการถึงมีก็มิใช่กฎหมายอันจะมีผลลบล้าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 ได้...”


++++++++++++++++++++++++++++++++

สำนวนคนบ้านนอกคอกนา อ.ระโนด จ.สงขลา บ้านเกิดข้าพเจ้าพูดกันว่า ‘เหล็กกล้า ต้องพบกับ ตาไม้ไผ่ ’ ความหมายว่า มีดพร้าคมๆที่ทำด้วยเหล็กอย่างดีหรือเหล็กกล้านั้นใช้สับ ใช้ฟันอะไรก็ขาดได้ดังใจหมาย แต่ถ้ามีดพร้านั้นไปฟันเอาตาไม้ไผ่ที่เป็นต้นแก่ได้อายุเข้า บางทีก็ฟันไม่เข้า และบางทีมีดพร้านั้นอาจบิ่นไปได้
ของแข็งด้วยกันกระทบกันพอสมน้ำสมเนื้อ – ว่างั้นเถอะ
กรณี นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตการจัดซื้อรถดับเพลิงของ กทม. ได้ให้สัมภาษณ์ว่าได้ประชุมคณะอนุกรรมการฯ ไปแล้วครั้งหนึ่ง พร้อมทั้งได้ทำหนังสือแจ้งรายชื่ออนุกรรมการฯ ไปให้ผู้ถูกกล่าวหาและผู้เกี่ยวข้องในคดีทุกคนทราบเรื่องแล้ว ไม่มีใครคัดค้านรายชื่ออนุกรรมการไต่สวนฯ
ยกเว้น นายสมัคร สุนทรเวช คนเดียว
นายสมัคร ทำหนังสือคัดค้านมาถึงประธานกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ยอมรับคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ โดยอ้างว่า ป.ป.ช. มีที่มาไม่ชอบเพราะไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 ซึ่งเป็นประเด็นที่นักกฎหมาย นักการเมือง และผู้คนในสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันมาเกือบเดือนแล้ว
นายวิชา มหาคุณ กล่าวว่า เรื่องนี้ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่ามีที่มาถูกต้อง จึงมีมติให้เดินหน้าไต่สวนคดีต่อไป หากนายสมัคร ยังติดใจขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ขณะเดียวกันนายวิชา ได้เปิดเผยว่าขณะนี้ ป.ป.ช. ได้รับการอนุญาตจากสำนักราชเลขาธิการให้เปิดเผยหนังสือตอบกลับว่า ป.ป.ช. ไม่ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ เนื่องจากได้รับการแต่งตั้งโดยรัฏฐาธิปัตย์ ซึ่ง ป.ป.ช. จะรีบนำหนังสือดังกล่าวมาเปิดเผยโดยเร็วต่อไป
การแถลงของ นายวิชา มหาคุณ ครั้งนี้มีประเด็นสำคัญ 2 ประการ
หนึ่งคือ คำคัดค้านของ นายสมัคร สุนทรเวช

สองคือ หนังสือตอบกลับของราชเลขาธิการเรื่อง ป.ป.ช. ไม่ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เพราะได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐาธิปัตย์ซึ่งสงสัยกันว่ามีจริงหรือไม่
เรื่องที่หนึ่ง คำคัดค้านของนายสมัครนั้น ข้าพเจ้ามีความเห็นส่วนตัวว่า นี่แหละคือเหล็กกล้า ซึ่งต้องมาปะทะกับตาไม้ไผ่เข้าให้แล้วจึงจะสมน้ำสมเนื้อกัน เท่าที่ผ่านมา ป.ป.ช. เคยเจอแต่หมู ข่มขู่เอา กระโชกเอาอย่างไรก็ได้ ไม่มีใครคิดต่อสู้เพราะส่วนใหญ่ต่างคนต่างกลัวการตรวจสอบของ ป.ป.ช. แต่คนอย่างนายสมัครไม่กลัว คนอย่างนายสมัครคงทนต่อการพิสูจน์ จึงถึงคราวที่ ป.ป.ช. จะต้องตั้งรับบ้าง
ส่วนประเด็นที่สอง เรื่องหนังสือตอบกลับของราชเลขาธิการนั้น เป็นประเด็นรองหรือเป็นประเด็นประกอบความขัดแย้งหลักเท่านั้น หาใช่ประเด็นหลักไม่
ในที่นี้ ข้าพเจ้าขอพูดซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ข้อเท็จจริงเรื่องหนังสือตอบกลับจากราชเลขาธิการนั้น จะมีหรือไม่มี ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะหนังสือตอบกลับจากราชเลขาธิการถึงมีก็มิใช่กฎหมายอันจะมีผลลบล้าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 ได้
ตามที่ ป.ป.ช. อ้างนั้น ป.ป.ช. บอกว่าหนังสือตอบกลับของราชเลขาธิการระบุว่า ป.ป.ช. ไม่ต้องได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเพราะได้รับการแต่งตั้งจากรัฏฐาธิปัตย์แล้วนั้น ข้าพเจ้าเปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 ดูแล้วไม่พบศัพท์คำนี้แต่อย่างใด
เมื่อไม่มีคำศัพท์ในพจนานุกรมก็ได้แต่อาศัยความรู้ ความเข้าใจซึ่งไม่มีหลักประกันว่าถูกต้องหรือไม่กล่าวคือ รัฐาธิปัตย์ หมายถึงผู้มีอำนาจรัฐหรือผู้ใช้อำนาจรัฐ ซึ่งหมายถึงคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่เข้าทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 นั้นเอง
คณะปฏิรูปการปกครองฯ ที่ได้ใช้กำลังเข้ายึดอำนาจในครั้งนั้นมีหัวหน้าคือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน เมื่อยึดอำนาจได้แล้วก็ออกประกาศฉบับต่างๆที่อ้างว่า มีผลเป็นกฎหมายหลายฉบับให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายอื่นอีกมาก
ประกาศ คปค. ซึ่งอ้างกันว่ามีฐานะเป็นกฎหมายนั้นไม่มีฉบับใดเลยที่จะปฏิเสธฐานะของพระมหากษัตริย์ในฐานะองค์พระประมุขของชาติ ตรงกันข้ามยังยอมรับทั้งปรากฏในชื่อของคณะผู้ยึดอำนาจเองที่ชื่อว่า ‘ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ’ อีกทั้งหัวหน้าคณะผู้ยึดอำนาจยังขอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตนเองซึ่งเป็นการแสดงการยอมรับในทางปฏิบัติ
ความเป็น รัฐาธิปัตย์ ที่สามารถแต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยไม่ใช้วิธีการสรรหานั้นเห็นจะไม่มีใครเถียงเพราะประกาศ คปค. ฉบับที่ 19 ระบุอยู่แล้วว่า ให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยเรื่อง ป.ป.ช. ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ เพียงแต่ให้ ยกเว้นเฉพาะมาตราที่ว่าด้วยการสรรหา เพราะ คปค. ต้องการคัดเลือกคนที่ถูกใจมาทำหน้าที่นี้ จึงริบอำนาจในการสรรหา ป.ป.ช. มาใช้เอง
แต่ คปค.คงจะลืมไปว่าเมื่อมาตราอื่นๆ ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญยังมีผลบังคับใช้อยู่ การคัดเลือกตัว ป.ป.ช. ได้ 9 คนเสร็จแล้วก็ต้องนำไปปฏิบัติตามมาตราอื่นๆ ที่ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป
เมื่อมาตรา 12 บัญญัติว่า ...การนับวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เริ่มนับจากวันที่พระมหากษัตริย์ทรงโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง คปค. ก็ต้องนำชื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คนขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ในที่นี้เป็นที่ยอมรับความจริงกันทุกฝ่ายแล้วว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พยายามขอพระราชทานพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ ผ่านทาง คปค. และเลขาธิการ ครม. อยู่แล้ว
การที่ไม่โปรดเกล้าฯ ลงมาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ รวมทั้งเหตุที่ราชเลขาตอบกลับหนังสือของเลขาธิการ ครม. ย่อมมีผลยืนยันว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดนี้ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ซึ่งเป็นเหตุให้เริ่มนับวาระการทำงานไม่ได้
คปค. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะปุโลปุเลตีความเข้าข้างตัวเองในภายหลังว่า รัฐาธิปัตย์ แต่งตั้งแล้วก็เข้าทำงาน เริ่มนับวาระการดำรงตำแหน่งและเริ่มนับเวลานับเงินเดือนย่อมไม่ได้ เพราะขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.เงินเดือนและค่าตอบแทน พ.ศ.2541 มาตรา 4 อย่างชัดแจ้ง
เว้นแต่หัวหน้า คปค. จะกล้ายกตัวเองขึ้นเทียบเท่าพระมหากษัตริย์และคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะยอมรับฐานะของหัวหน้า คปค. ว่าเทียบเท่าพระมหากษัตริย์ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง – ขอให้ว่ามา
แต่กระนั้น ก็ยังต้องถามกันต่อไปอีกว่า แล้วเหตุไฉนเวลาแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ตลอดจนประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติจึงยังต้องขอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
สรุปรวมความแล้ว หนังสือปฏิเสธอำนาจคณะอนุกรรมการสอบสวนฯ ของ ป.ป.ช. และอำนาจของ ป.ป.ช. เองของ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นเรื่องมีเหตุผล เพราะมีกฎหมายอ้างอิงชัดเจน ป.ป.ช.จะอ้างหนังสือตอบกลับของราชเลขาธิการฯ มาหักล้างมิได้ เพราะเป็นเรื่องการละเมิดกฎหมายถึง 2 ฉบับ ที่สำคัญเป็นการล่วงละเมิดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ด้วย
ป.ป.ช. ควรยุติการตอบข้อสงสัยด้วยวิธีนี้ได้แล้ว
รีบเก็บกระเป๋า กลับบ้าน คืนเงินเดือนให้กระทรวงการคลังไปเสียเถิด อย่าให้เดือดร้อนแก่เดรัจฉานอย่างตัวเงินตัวทองที่ถูกนำมาแห่ประท้วงนั้นเลย