WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, August 15, 2008

ลือกระหึ่ม!ปชป.รอดยุบพรรค

* เงินสะพัดแลก1 แดง-2 เหลือง-1 ขาว
จับตาชี้ชะตาใบแดง “วิฑูรย์ นามบุตร” วันนี้ ลือกระหึ่มเงินสะพัดอาคารศรีจุลทรัพย์ แลกกับการไม่ถูกยุบพรรค เชื่อมี “ธง” เรียบร้อย คาดผลอาจออกมา “1 แดง-2 เหลือง” ขณะที่ “ตัวใหญ่” ได้ใบขาว เพื่อให้ “ประชาธิปัตย์” รอดยุบพรรค ส.ส.พปช.ทำใจ เชื่อรอดแน่ แต่ระบุยังไม่จบเรื่อง แย้มถาม ปชป. เคยได้ข่าวสมาชิกพรรคทำอะไรไว้กับ อบต. และประเทศเพทื่อบ้านบ้างหรือเปล่า ชี้ถ้าหลักฐานชัดขนาดนี้ยังรอด ต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ ขณะที่ “อ.จรัล” เชื่ออย่างมาก ปชป.ก็ได้แค่ใบเหลืองเท่านั้น พร้อมจี้ กกต. แจงเหตุผลพิจารณานานกว่า 7 เดือน ล้างหลังพรรคการเมืองอื่น

* เชื่ออย่างมากปชป.ก็โดนแค่ใบเหลือง
จากกรณีมีผู้ร้องเรียนนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 4 และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายวุฒิพงษ์ นามบุตร นายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี และนายวิทวัส พันธ์นิกุล ผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานี และเป็นบุตรชายเจ้าของโรงภาพยนตร์เนวาด้ากระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด้วยการแจกบัตรชมภาพยนตร์ และสลับกันขึ้นปราศรัยหาเสียง
ซึ่งผ่านเวลาการพิจารณามายาวนานกว่า 7 เดือน จนมีการตั้งข้อสงสัย และต่อมาพยานสำคัญรายหนึ่งยังได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และ กกต.ยังมีพิรุธไม่ยอมสอบปากคำพยานสำคัญบางราย ที่ยิ่งทำให้เป็นที่จับตาว่าจะมีการช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ ดังที่มีกระแสข่าวหรือไม่
โดย กกต. ได้กำหนดชี้ขาดเรื่องดังกล่าวในวันนี้ (15 สิงหาคม2551) ท่ามกลางข่าวลือว่าจะแจกใบแดงกับนายวิทวัส เพียงคนเดียว และจะมีการให้ใบเหลืองกับนายวุฒิพงษ์ และนายศุภชัย ส่วนนายวิฑูรย์ ที่จะเป็นตัวแปรที่นำไปสู่การยุบพรรคนั้น ข่าวอ้างว่าจะได้ใบขาว
กรณีดังกล่าวนายสมบัติ รัตโน ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะผู้ร้องเรียน กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีว่า ส่วนตัวมีความเชื่อว่าอาจจะมีการตั้งธงไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะตัดสินผลมาอย่างไร แต่ตลอดเวลาที่ต่อสู้เรื่องนี้มาเพื่อให้ประชาชนในสังคมได้รับรู้ความจริงที่เกิดขึ้น ก็อาจจะทำให้การช่วยเหลือกันเป็นไปได้ยากขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นมีข่าวอ้างว่าอาจจะใบแดงนายวิทวัส และให้ใบเหลืองกับนายวุฒิพงษ์และนายศุภชัย ส่วนนายวิฑูรย์คาดว่าจะให้ใบขาว เพื่อไม่ให้สังคมเกิดคำถามมากมาย
อย่างไรก็ตามการที่นายวิฑูรย์ ระบุว่าจะฟ้องนายสมบัติ ข้อหาหมิ่นประมาทนั้น นายสมบัติ มั่นใจว่าหลักฐานที่มีอยู่นั้น รวมทั้งพยานไม่ใช่หลักฐานเท็จ ไม่มีการตัดต่อภาพใดๆ ตั๋วภาพยนตร์ก็เป็นของจริง เอกสารพร้อมทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นทาง กกต. จ.อุบลราชธานี จะดำเนินคดีขั้นต้นมาได้อย่างไร
อีกทั้ง กกต.อุบลราชธานีเอง ถือว่าป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่ 1 ใน 5 กกต.จังหวัด ยังได้เข้าไปฟังปราศรัยและชมภาพยนตร์เอง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่มีผู้ร้องเรียน และจากการสอบถามพยานบุคคล ก็ได้ความว่าตั๋วชมภาพยนตร์ เมื่อออกจากโรงภาพยนตร์แล้วยังนำมาแลกเงินได้อีกด้วย
“พิสูจน์ได้ยังไงว่าเราตัดต่อ ตั๋วหนังก็มี เอกสารก็มี มีมูลความผิดจะมาฟ้องว่าหลักฐานเท็จได้ไง ฟ้องข้อหาอะไร ผมยอมให้ฟ้องเพราะผมมั่นใจหลักฐาน คุณสดศรีเองยังพูดในรายการๆ หนึ่งเมื่อสองอาทิตย์ก่อนเลยว่า ความจริง กกต.มีมติให้ใบแดงไปแล้ว”
ภายหลังนายถาวร เสนเนียมรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาชี้แจ้งนั้น นายสมบัติ กล่าวว่าการที่นายถาวรออกมาบอกว่ามีหลักฐานการอบรมประชาชน 1051 คน จำนวน 9 วัน และมีการระบุว่าการอบรมสัมมนาเป็นเรื่องปกตินั้น แท้จริงแล้วเป็นการหลบเลี่ยง
“คิดดูนะมีทั้งรอบเช้า รอบบ่าย จำนวน 3 โรง 9 วัน โรงหนึ่งก็จุ 300-400 คน คูณกันเข้าไปก็เป็นหมื่นคนแล้ว จะอบรมเรื่องอะไรแล้วทำไมต้องเป็นที่โรงภาพยนตร์ ยังมีการตรวจบัตรประชาชนก่อนเข้า ถ้าเป็นการอบรมทำไมจะต้องทำอย่างนั้น จะตรวจไปทำไม”
นอกจากนี้นายสมบัติ ยังระบุว่ามีคนมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับเงิน 5 ล้านบาทให้ฟังด้วย โดยอ้างว่าอาจจะเป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการสะสางเรื่องราวของนายวิฑูรย์
อย่างไรก็ตามจะขอรอดูผลจากทาง กกต. ก่อน หากนายวิฑูรย์ได้ใบขาวจริง ก็ขอทำใจเพราะทราบดี และขอให้จารึกไว้ว่าพรรคอื่นๆ กกต. แจกใบแดงกันหมดยกเว้นพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งยังกล่าวว่าการที่นายวิฑูรย์ฟ้องดำเนินคดีกับตนนั้น เป็นการฟ้องแก้เขินเท่านั้น
นายสมบัติ ยังกล่าวฝากไปยังพรรคประชาธิปัตย์ด้วยว่า คดีนายวิฑูรย์เป็นแค่เรื่องหนึ่งที่จะต่อสู้กัน แต่ยังมีอีก 2 เรื่อง ซึ่งจะนำออกมาเปิดเผยในระยะเวลาอันใกล้ คาดว่าจะสู้กันได้นานกว่านี้ พร้อมแย้มถามพรรคประชาธิตย์ว่า พรรคทราบหรือไม่ ว่ามีสมาชิกพรรคบางคนที่ได้รับเป็น ส.ส. อุบลราชธานี ทำอะไรไว้กับ อบต. และทำอะไรกับประเทศข้างเคียงไว้บ้าง
พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า เชื่อว่าถึงนาทีนี้ กกต.คงมีธงการตัดสินเรียบร้อยแล้ว แต่เรายังไม่รู้เท่านั้นว่าธงที่ตั้งไว้จะไปในทิศทางใด ซึ่งคนที่สามารถบอกได้มีเพียง กกต.เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่า กกต.จะกล้าเสี่ยงให้ใบแดงรึเปล่า หากนายวิฑูรย์ ทำผิดจริง ก็เหมือนกับคดีที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดมาก และประชาชนก็ยังคิดไม่ตกว่าเหตุใดส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จึงได้แค่ใบเหลือง ทั้งที่จับเงินได้ถึง 1.3 ล้านบาท
อีกทั้งตอนนี้เราไม่รู้ว่าทาง กกต.จะคิดยังไง แต่เท่าที่ตนทราบ ตอนที่มีเหตุการณ์ปราศรัยในโรงหนังนายวิฑูรย์ ก็อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่ง ส.ส.ในเขตนั้น ก็ได้รับใบแดงกันหมด ถ้าตัวการใหญ่ไม่โดนด้วยต้องมีอะไรแอบแฝงอย่างแน่นอน
“คนที่ร่วมขบวนการและเป็นตัวการใหญ่อย่างคุณวิฑูรย์ ไม่โดนใบแดง เหมือนกับที่ ส.ส.ในพรรคหรือเขตเลือกตั้งนั้นโดนกันหมด ผมคิดว่ามันต้องมีอะไรแอบแฝงอย่างแน่นอน และ กกต.ของจังหวัดนั้นก็ได้ส่งสำนวนมาแล้ว” พ.ต.ท.กานต์ กล่าว
ส่วนกรณีที่นายวิฑูรย์ นามบุตร ออกมาชึ้แจงถึงข้อครหา พร้อมบอกว่าจะมีการฟ้องกลับ ทั้งที่แต่ก่อนเก็บตัวเงียบ พ.ต.ท.กานต์ กล่าวว่า ก็ต้องมีการสู้ในเฮือกสุดท้าย การที่ กกต.ไม่สอบพยานปากสุดท้ายนี้ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากไม่มีการสอบพยานปากนี้ ต้องให้พยานลงบันทึกประจำวันไว้ว่า กกต.ละเว้นการปฏิบัติต่อหน้าที่
ทั้งนี้ตนคิดว่าเป็นการแก้ลำ และเอนเอียง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์อย่างเห็นได้ชัด ตนไม่เชื่อกระบวนการของ กกต.มาตั้งคดีของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาฯ แล้ว
ซึ่งเมื่อกลางเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา กกต.จังหวัดอุบลราชธานีได้สรุปสำนวนกรณีคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 ของนายวิฑูรย์ มายังสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ของกกต. จากนั้นได้ส่งสำนวนไปยังคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ ดำเนินการ หาก กกต.ไม่มีการให้ใบแดงคงเป็นที่น่าสังเกตุว่า กกต.คอยช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน และดูเหมือนตอนนี้ทาง กกต.จะหมดความน้าเชื่อถือจากประชาชนด้วย
ด้านนายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่าการที่ กกต. ใช้ระยะเวลายาวนานนับ 7 เดือน เพื่อสอบสวนกรณีนายวิฑูรย์ ทำให้สังคมเกิดเป็นปมสงสัยว่าทำไม กกต. ถึงยื้อเวลาเช่นนี้ เมื่อถามความคืบหน้า กกต. ก็จะบอกแต่ว่าอยู่ในระหว่างอนุกรรมการพิจารณา เนื่องจากหลักฐานอ่อนไป อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ กกต. รีบสรุปคดีดังกล่าวให้เร็วที่สุด พร้อมกับเรียกร้องให้ชี้แจ้งเหตุผลของ กกต. เหตุทำงานล่าช้า ในขณะที่แจกใบเหลืองใบแดงให้กับพรรคพลังประชาชนมากมาย
จากการเห็นหลักฐานต่างๆ ที่แสดงถึงความผิดของนายวิฑูรย์ เชื่อได้ว่าเป็นการกระทำความผิดจริง ซึ่งทราบได้จากพยานบุคคล ในส่วนที่ชี้แจ้งว่าเป็นการอบรมสัมมนานั้น นายจรัล ไม่เชื่อว่าการอบรมจะใช้โรงภาพยนตร์เป็นที่สัมมนา เนื่องจากไม่มีความเหมาะสมใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมกับเชื่อว่า โทษสูงสุดนายวิฑูรย์จะได้ก็แค่ใบเหลือง