เนื่องในปีพุทธศักราช 2551 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 76 พรรษา ถือเป็นปีมหามงคลอย่างยิ่ง วันที่ 12 สิงหาคม ที่จะถึงนี้จึง เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของปวงชนชาวไทย ทั้งภาครัฐ-เอกชนทั่วประเทศร่วมใจกันจัดงานต่างๆ ดังนี้
เริ่มด้วยสำนักนายกรัฐมนตรีในนามตัวแทนรัฐบาลไทย ได้ร่วมกับมูลนิธิโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติผ่านดาวเทียม กำหนดจัด “งานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม พ.ศ.2551” ณ ลานพระราชวังดุสิต (ลานพระบรมรูปทรงม้า) ระหว่างวันที่ 10-12 สิงหาคม 2551 ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 21.00 น. เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2551 ซึ่งเป็นโอกาสอันดีอีกครั้งของประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ที่จะได้แสดงความจงรักภักดีที่มีต่อแม่แห่งแผ่นดิน และแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีที่มีต่อแม่ เนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ รวมทั้งยังจะได้ร่วมกันสร้างความสมัครสมานสามัคคีถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ผ่านโครงการ “จากวันแม่ถึงวันพ่อ 116 วัน สร้างสามัคคี” ซึ่งจะเริ่มต้นโครงการในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2551 และไปสิ้นสุดโครงการในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม โดยในโครงการนี้ก็จะได้มีการจัดทำสายรัดข้อมือสีฟ้าซึ่งเป็นสีประจำพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และสีเหลืองสีประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งจะมีลักษณะ 2 ห่วงเกี่ยวกันไว้ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการจัดทำ ส่วนจะเริ่มจำหน่ายเมื่อไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง โดยการจัดงานดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ได้แก่ งานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ภายใต้แนวคิด แม่ผู้ให้ชีวิต ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญเพื่อพสกนิกรของพระองค์ตลอดมา รวมทั้งการจัดแสดงพระบรมฉายาลักษณ์ส่วนพระองค์ที่งดงามและหาชมได้ยาก โดยประชาชนที่เข้าร่วมงานในครั้งนี้ยังสามารถแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ด้วยการเขียนข้อความถวายพระพรลงบนแผ่นกระดาษกลีบมะลิ เพื่อเรียงร้อยเป็นพวงมาลัยถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้อีกด้วย พร้อมกันนี้ยังมีการจัดแสดงภาพพระบรมฉายาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จออกมหาสมาคมทรงรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งถักทอจากไหมที่มีความประณีตและงดงาม ขนาด 1.80 x 1.58 เมตร ให้ประชาชนได้ชื่นชมอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมสำหรับประชาชนเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ โดยผู้ร่วมงานจะได้ชมการสาธิตการทำหัตถศิลป์จากทั่วภูมิภาค การออกร้านจำหน่ายสินค้าจากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และร้านจิตรลดา รวมถึงการจำหน่ายสินค้าราคาถูกจากร้านค้าของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พร้อมด้วยศิลปินนักแสดงร่วมจำหน่ายสินค้า และร่วมกิจกรรมบนเวที อาทิ การเสวนาอย่างอบอุ่นระหว่างแม่-ลูก โดย พรชิตา ณ สงขลา บงกช คงมาลัย ฯลฯ ซึ่งจะมาพร้อมคุณแม่ ตลอดจนการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง อาทิ นัท มีเรีย เบเนเดตตี้ นิโคล เทริโอ และ ติ๊ก ชิโร่ เป็นต้น พร้อมชมงานศิลป์แผ่นดิน ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ในวันที่ 12 สิงหาคม 2551 ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
นอกจากนี้สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับสมาคมนักร้องแห่งประเทศไทยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก และมูลนิธิศาลาเฉลิมกรุงจัดทำเพลงเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คือ เพลง "แม่แห่งแผ่นดิน" เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมขับร้องบทแพลง "แม่แห่งแผ่นดิน" ในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ สามารถดาวน์โหลดเพลงได้ทาง www.opm.go.th ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
คณะกรรมการมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช คณะกรรมการจัดงาน กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 12-13 สิงหาคม 2551 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง (ด้านทิศเหนือ) และในต่างจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนชาวไทยทั่วประเทศพร้อมใจกันสวมเสื้อสีฟ้า รวมพลังความรัก ความสามัคคี เพื่อแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรระหว่างเวลา 16.30-19.50 น. ด้าน ดร.จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช กล่าวเสริมว่า มูลนิธิได้จัดทำสติ๊กเกอร์งานเฉลิมพระเกียรติ 12 สิงหาคม พระบรมราชินีนาถ ภายใต้แนวความคิด “รวมพลังคนไทยทั้งชาติ รู้รักสามัคคี” แจกจ่ายประชาชนทั่วไป เพื่อให้พสกนิกรได้ร่วมแสดงพลังความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกัน พิธีการจะเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2551 มีพิธีทำบุญตักบาตรีพระสงฆ์ จำนวน 577 รูป ถวายเป็นพระราชกุศล โดย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานในพิธี จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมทำบุญถวายอาหารบิณฑบาต ได้ตั้งแต่เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป และในวันเดียวกัน เวลา 15.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพร “12 สิงหาพระบรมราชินีนาถ” ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี
เวลา 16.30 น. เข้าสู่พิธีถวายเครื่องราชสักการะ จุดเทียนชัยถวายพระพร และถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ โดยมี พล.ท.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้นำแทนองค์กรหน่วยงานต่างๆ ถวายเครื่องราชสักการะ จากนั้น ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี สมัคร-คุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช ถวายเครื่องราชสักการะ และเป็นประธานในพิธีจุดเทียนชัย ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และสถานีวิทยุโทรทัศน์ ตั้งแต่เวลา 18.50-19.50 น. และในวันพุธที่ 13 สิงหาคม 2551 มีพิธีอัญเชิญเครื่องราชสักการะเฉลิมพระเกียรติ ไปยังลานพระราชวังดุสิต โดยรถพ่วงของกองทัพอากาศ โดยมี จรินทร์ สวนแก้ว ประธานมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ กรรมการ/ประธานอนุกรรมการฝ่ายอัญเชิญเครื่องราชสักการะ คณะกรรมการมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช คณะกรรมการจัดงาน และแขกผู้มีเกียรตินำริ้วขบวนเดินไปยังพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ขอเชิญพสกนิกรทุกหมู่เหล่าร่วมแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกัน
สำหรับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน และประชาชนทั่วประเทศ มีการจัดงานดังนี้
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2551 และด้วยระลึกถึงคุณค่าของ "ช้างไทย" ซึ่งเป็นสัตว์ประจำชาติมีความผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาแต่อดีตกาล ไม่เว้นแม้แต่ยามที่ กฟผ. ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ป่าลึกยังได้อาศัยช้างร่วมขบวนขนอุปกรณ์เข้าไปในพื้นที่ ด้วยการจัดโครงการ "กฟผ. คืนช้างสู่ป่า" ร่วมกับผู้ปฏิบัติงาน จัดหาช้าง จำนวน 4 ตัว ให้แก่มูลนิธิคืนช้างสูงธรรมชาติซึ่งมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เป็นประเทศ ปล่อยเข้าป่า ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ชับลังกา อ.ลำสนธิ จ.ลพบุรี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสฉลองครอบรอบ 80 พรรษา ทั้งนี้เพื่อให้ช้างไทยได้กลับคืนสู่ป่าให้มากที่สุด นำมาซึ่งความภาคภูมิใจของ กฟผ. ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มประชากรช้างและสร้างสมดุลทางธรรมชาติให้แก่ป่าไม้เมืองไทย
ในขณะที่ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมกับส่วนราชการทั้งภาครัฐและเอกชน จำนวน 32 หน่วยงาน จัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 74 พรรษาขึ้น ระหว่างวันที่ 10 – 12 สิงหาคม 2551 ณ ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริ ศูนย์สาธิตและส่งเสริมงานศิลปาชีพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (บุ่งตาหลั่ว) ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป ได้รับทราบและเข้าชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ โดยมุ่งเน้นงานด้านศิลปาชีพ และงานด้านปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การปล่อยพันธุ์ปลา 7,575 ตัว เป็นปลาที่มีชื่อในวรรณคดีไทย 9 ชนิด กิจกรรมปักดำข้าวในแปลงนา ตามโครงการหว่านวันแม่เกี่ยววันพ่อ ซึ่งศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวจังหวัดนครราชสีมา มีพันธุ์ข้าวมะลิ และข้าว กข.6 ที่นำมาจากสวนจิตรลดา เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้เข้าชมนิทรรศการ และกิจกรรมปลูกต้นไม้ ตามโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประกอบด้วยไม้มงคล 9 ชนิด คือ ขนุน ไผ่สีสุก กันเกา พยูง ทรงบาดาล สัก ทองหลาง ชัยพฤกษ์ และราชพฤกษ์
ที่วัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เตรียมจัดพิธีบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม เนื่องในวันแม่แห่งชาติ วันที่ 12 สิงหาคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา และสังฆบูชา เป็นการศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พิธีดังกล่าว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-14 สิงหาคมนี้ โดยเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ที่ผ่านมา ในเวลา 09.00 น. ผู้เข้าร่วมโครงการจัดพิธีบวชเนกขัมมะ ทางวัดจัดเลี้ยงอาหารมังสวิรัติตลอดงาน สำหรับผู้เข้าพิธีบวชเนกขัมมะจะต้องปฏิบัติธรรมต้องนุ่งขาว ห่มขาว เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ต้องเตรียมผ้าห่ม ที่นอน มุ้ง ไฟฉาย ยารักษาโรคประจำตัว และของใช้ส่วนตัวไปด้วยในการเข้าปฏิบัติธรรมในครั้งนี้
ในขณะที่ จ.เชียงใหม่ เตรียมจัดงานวันแม่ 10-12 สิงหาคม มีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ส่วน ไนต์ซาฟารี เปิดให้คุณแม่เข้าชมฟรี 11.15 น."
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรี เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จะจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ วันที่ 12 สิงหาคมนี้ โดยมอบเบี้ยยังชีพ ถุงยังชีพ และจัดเลี้ยงอาหารใผู้สูงอายุและคนพิการ 1,999 คน ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
ส่วน จ.ชุมพร นายภิญโญ ไทยภาวร ประมงจังหวัด กล่าวว่า เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ทางประมงชุมพรกำหนดปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อเทิดพระเกียรติในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม โดยมีชาวบ้านและประชาชนทำพิธีการปล่อยปลาลงแม่น้ำท่าตะเภาจำนวน 1 ล้านตัว ประกอบด้วย ปลาตะเพียนขาว 400,000 ตัว ปลายี่สก 300,000 ตัว และปลาไน 300,000 ตัว รวม 1 ล้านตัว เพื่อเป็นการสร้างระบบนิเวศในแม่น้ำท่าตะเภาให้ดีขึ้น
นอกจากนี้ยังมีการจัดงานและการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในสถานกงศุลและสถานฑูตไทยในต่างประเทศด้วยได้แก่
ที่สหรัฐอเมริกา นายณรงค์ ศศิธร กงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก เป็นประธานในพิธีถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ศาลาเฉลิมพระเกียรติฯ วัดธัมมาราม ชิคาโก เช้าวันที่ 10 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ในออสเตรเลีย นายบัณฑิต โสตถิพลาฤทธิ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เป็นประธานทำบุญตักบาตรร่วมกับคนไทยในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ที่เบลมอลล์ ปาร์ค ซิดนีย์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา
ทางด้านวัดไทยธรรมาราม เมืองวอเตอร์ลู ปรเทศเบลเยียม จัดงานวันแม่ และฟังเทศน์ มหาชาติ โดย พระสุธีญาณวิเทศ นิมนต์พระนักเทศน์จากฝรั่งเศส สกอตแลนด์ สวีเดน เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก และเบลเยียม มาเทศนาธรรม
วันที่ 12 สิงหาคม ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ จัดทำบุญน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต และ นายประภาส จันทหาร กงสุลใหญ่ ณ นครเจดดาห์ ซาอุดิอาระเบีย จัดงานวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวันที่ 15 สิงหาคม 18.00 น. ที่บ้านพักกงสุลใหญ่ เมืองเจดดาห์ เขตอัล-ริฮับ