ที่มา ไทยรัฐ
ยังหาตัว นายกฯ ไม่ได้ย้ายพรรคก็ไม่เรียบร้อย ทำท่าว่าจะต้องยื้ออีกนาน เมื่อพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เอานายกฯเพื่อไทยสงสันจะต้อง "ยุบสภา" เสียแล้ว
ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ การเมือง ยังไม่ลงตัวง่ายๆแม้พลังประชาชนที่กลายร่างเป็น “เพื่อไทย” จะมี ส.ส.มาก แต่ล่าสุดไม่รู้จะไปกันหมดหรือไม่
“เพื่อนเนวิน” ที่ดูท่าว่าจะไม่ไปด้วย แต่จะไปไหน อย่างไรต้องติดตาม เพราะจะเป็นตัวแปรสำคัญทางการเมือง
หากไม่ไปแต่โยกไปอยู่พรรคอื่นยุ่งแน่
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ยังไม่ลงตัวน่าจะเป็นว่าทุกอย่างยังต่อรองกันได้ เพราะหน้าสิ่ว หน้าขวานอย่างนี้มันมีราคาค่างวดสูง
ทั้งตำแหน่งนายกฯ รัฐมนตรี และค่าใช้จ่ายก็ต้องสูงตามไปด้วย
ก่อนหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสิน “ยุบพรรค” พลังประชาชน แม้จะเตรียมการเรื่องพรรคใหม่แล้ว
แต่จะให้ใครเป็นนายกฯ ซึ่งมีความสำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อดีตนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ก็เตรียมการแก้เกมเช่นกัน
นั่นคือการแต่งตั้งรองนายกฯใหม่อีก 2 คน คือ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ มท.1 และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข
คือควบ 2 เก้าอี้ทั้ง 2 คน
นัยว่าเพื่อที่จะให้รักษาการนายกฯ เมื่อนายกฯสมชายต้องหลุดจากตำแหน่ง เพราะคดียุบพรรคจึงต้องหาคนมาทำหน้าที่นี้
ปรากฏว่า การดำเนินการเรื่องนี้ยังไม่สำเร็จจึงต้องให้ “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” รองนายกฯ ทำหน้าที่รักษาการนายกฯแทน
เหนืออื่นใด สำหรับตำแหน่งนายกฯคนต่อไปดูเหมือน “นายใหญ่” จะจิ้มชื่อ “เฉลิม” เอาไว้แล้ว แต่ปรากฏมีเสียงขานรับน้อยมาก ไม่ใช่แค่กระแสสังคมเท่านั้น
แต่คนในพรรคพลังประชาชนเองก็แตกไปหลายความเห็น หรือพรรคร่วมรัฐบาลก็ประกาศแล้วว่าไม่เอาด้วย
คงจะกลัวความบู๊ กลัวการต่อต้าน และจะเกิดปัญหาขัดแย้งทางการเมืองขึ้นมาอีก สุดท้ายคงต้องเปลี่ยนเป็นคนอื่น
“ดับฝัน” กันซึ่งๆหน้า...ว่างั้นเถอะ
ดูเหมือนว่ากระแสหลักในขณะนี้คือการที่ ส.ส.ส่วนหนึ่งในพรรคพลังประชาชนดูจะมีแนวทางสอดรับกับพรรคร่วมรัฐบาลคือไม่เอาคนของพลังประชาชน หรือเพื่อไทยเป็นนายกฯ แต่เห็นควรให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใดพรรคหนึ่งเป็นนายกฯ
เช่น นายเสนาะ เทียนทอง พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร หรือ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ซึ่งกำลังต่อรองกันอย่างเข้มข้น
ขณะเดียวกัน ประชุมสภาเพื่อโหวตเลือกนายกฯ ที่กำหนดกันว่าจะเป็นวันที่ 8 ธ.ค. แต่ล่าสุดได้มีการยกเลิกยังไม่ได้กำหนดวันชัดเจน
เหตุผลสำคัญก็คือ การย้ายพรรคยังไม่เรียบร้อย ยังหาตัวนายกฯคนใหม่ไม่ได้ พรรคร่วมรัฐบาลและกลุ่มเพื่อนเนวินยังไม่ชัดเจน
ขืนเร่งรีบเร่งรัดมีหวังโดน “หักดิบ” แน่
นอกจากจะมีปัญหาการย้ายแล้ว ยังมีอีกประเด็นหนึ่งก็คือ ส.ส.สัดส่วนที่กำลังเสนอให้มีการตีความว่าจะย้ายพรรคได้หรือไม่
เพราะ ส.ส.ระบบนี้มาจากการที่ประ-ชาชนเลือกพรรค ดังนั้น หากพลังประชาชนถูกยุบ ส.ส.สัดส่วนก็ต้องจบไปพร้อมๆกับพรรค
หากตีความว่าไม่สามารถย้ายพรรคได้ พรรคเพื่อไทยมีปัญหาแน่ เพราะ ส.ส.จะขาดหายไปส่วนหนึ่งทันที
อะไรดูมันจะไม่ง่ายอย่างคิด
ขณะที่ประชาธิปัตย์ก็คาดหวังว่าในเงื่อนไขอย่างนี้น่าจะเป็นโอกาสดีที่จะดึงพรรคร่วมให้เปลี่ยนขั้วการเมือง
แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย
ความเป็นไปได้ก็คือ กลุ่มเพื่อนเนวินไม่เข้าพรรคเพื่อไทย หรือ ส.ส.สัดส่วนย้ายพรรคไม่ได้ ทำให้แต้มต่อของประชาธิปัตย์มีมากขึ้น
แน่นอนว่าพลังประชาชนก็ต้องคิดหาทางออกเช่นกัน เพราะไพ่การเมืองมันเปิดออกมาอย่างนี้ หากไม่ได้เป็นรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ต้องไม่ได้เป็น
เพราะรัฐบาลวันนี้ยังมีทีเด็ดอยู่ในมือ
นั่นคือการประกาศ “ยุบสภา” คืนอำนาจให้ประชาชน!!!
"ลิขิต จงสกุล"