ที่มา มติชนออนไลน์
"ป๋าเหนาะ"ยันไม่ออกไปพบ "เติ้ง" อ้างต่อสายตรงคุยแล้ว พท.แย้มรอดูเย็นนี้ บางสิ่งจะเกิดขึ้นหลังประสานพรรคร่วมรัฐบาลเดิม กินข้าวเย็นบ้าน"เสนาะ"เมืองทองฯ "ประดิษฐ์"ปัดข่าวย้ายพรรคซบ"เพื่อไทย" ชท.ประสานเสียงเมิน "เพื่อไทย" กร้าวทุกอย่างจบแล้ว เพื่อไทยรับไม่ได้"มาร์ค"กอดเนวิน ย้ำรบ.เพื่อชาติเท่านั้น ปูด"เนวิน"ซบปชป.มีแผนชำระแค้น
"เชษฐา"ให้เลขาฯโทรมางดมาบ้าน "ป๋าเหนาะ"
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ภายในห้องประชุมพรรคประชาราช ซึ่งจัดเป็นห้องรับประทานอาหาร มีการจัดเตรียมโต๊ะใหญ่จำนวน 12 ที่นั่งไว้รอ ขณะที่ มีโต๊ะสำหรับ ส.ส.และผู้ติดตามอีก 8 ตัว ทั้งนี้ จากการที่ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครช. ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ว่าจะเดินทางมายังบ้านนายเสนาะ แต่ปรากฎว่า เมื่อเวลา 18.00 น. เลขานุการส่วนตัว พล.อ.เชษฐา ได้แจ้งว่า พล.อ.เชษฐายกเลิกการการเดินทางมาโดยไม่แจ้งสาเหตุ ทำให้เป็นการนัดรับประทานอาหารเย็น และหารือการเมืองของ นายเสนาะ ที่มีเพียงแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาราชมาร่วมงานเท่านั้น
ชี้พรรคเล็กถูกมือที่ 3 ขวาง - "ป๋าเหนาะ"บอกรู้สึกเหมือนเป็น "งูเเห่า"
เวลา 16.50 น. นายศรีเมือง เจริญศิริ อดีตรมว.ศึกษาธิการ และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เดินทางตามมาถึง ขณะที่บ้านพักนายเสนาะ เริ่มมีส.ส.พรรคเพื่อไทยและสมาชิกพรรคเดินทางมาร่วมงานหลายคน อาทินายวิชาญ มีชัยนันท์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม นายอุดมเดช รัตนเสถียร นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี นายไพจิตร ศรีวรขาน ว่าที่ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย นายสุนัย จุลพงศ์ธร ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย เป็นต้น
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ ระบุว่า การที่พรรคร่วมไม่ได้เดินทางมาร่วมครั้งนี้ต้องมีมือที่สามขัดขวางไว้อย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้พรรคร่วมรับปากว่าจะมาร่วมงาน ซึ่งเมื่อเวลา 18.50 น. นายเสนาะได้เดินนำทุกคนเข้าไปยังห้องรับประทานอาหาร และกล่าวชักชวนให้แกนนำและส.ส.พรรคเพื่อไทยนั่งร่วมโต๊ะ ว่า “มาๆ มาช่วยนั่งกันให้เต็มโต๊ะ” ทำให้ นายวรวัจน์ นายวิชาญ นายอุดมเดช นายสุรพงษ์ นายไพจิตร มานั่งร่วมโต๊ะ โดยนายเสนาะได้กล่าวทีเล่นทีจริงว่า “เคยร่วมทุกข์กันมา แต่มากลายเป็นพวกงูเห่าไปได้” ทำให้ทุกคนหัวเราะแบบฝืนๆ
"ป๋าเหนาะ"รอเก้อ 4พรรคร่วมเมินกินข้าวเย็น
ผู้สื่อข่าวรายงานจากบ้านพักของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่เชิญแกนนำอดีตพรรคร่วมรัฐบาล 4 พรรคร่วมรับประทานอาหารเย็น ที่บ้านพัก ย่านเมืองทองธานีว่า ในเวลา 17.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม ตามที่นัดไว้ ปรากฏว่า ยังไม่มีตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลเดิม เดินทางมาแต่อย่างใด นายเสนาะ ถึงกับโทรศัพท์ ไปหา นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ด้วยตัวเอง แต่นางอนงค์วรรณ อ้างต้องไปพบแพทย์ แม้นายเสนาะต่อรองเป็นเวลา 19.00 น. แต่ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันแต่อย่างใด
โดยก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เวลา 15.30 น. มีแกนนำ และส.ส.พรรคเพื่อไทย และส.ส.พรรคประชาราช ทยอยเดินทางมาที่บ้านพักนายเสนาะ อาทิ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางมาถึง แต่ทั้งสองคนก็เดินทางกลับก่อนในเวลา 16.30 น. โดยอ้างว่าติดธุระ
"ประดิษฐ์"ยันถ้า"เชษฐา"ไปบ้าน"เหนาะ"ไม่เกี่ยวกับพรรค
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ว่า ได้ทราบข่าวว่านายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช จะนัดพรรคร่วมเดิม 4 พรรคประกอบด้วย เพื่อแผ่นดิน ชาติไทยเดิม มัชฌิมาธิปไตยเดิม และรวมใจไทยชาติพัฒนา ซึ่งในฐานะเลขาธิการพรรคฯ ขอยืนยันว่าจะไม่ส่งบุคคลไปร่วมงานที่บ้านพักนายเสนาะแต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อวันที่ 6 และวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ทางพรรคได้แสดงจุดยืนร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิม 4 พรรคแล้วว่า จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำ ซึ่งจุดยืนนั้นไม่เปลี่ยนแปลง และหากมีบุคคลของพรรครวมใจไทยฯ ไปร่วมงานดังกล่าวถือว่าไม่ได้ไปในนามพรรค แต่ไปในนามส่วนตัว ซึ่งอาจจะมีความสนิทสนมกับนายเสนาะ โดยเฉพาะ พล.อ.เชษฐษ ฐานะจาโร หัวหน้าพรรคฯ ซึ่งเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ก็ได้ไปร่วมแสดงจุดยืนที่โรงแรมโฟร์ซี่ซั่น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ชท.ประสานเสียงเมิน "เพื่อไทย" กร้าวทุกอย่างจบแล้ว
ที่พรรคชาติไทย นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตแกนนำพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เชิญแกนนำอดีตพรรคร่วมรัฐบาลไปทานอาหารเย็น ที่บ้าน ย่านเมืองทองธานีว่า เรายังไม่ได้รับการติดต่อจากนายเสนาะ แต่ถ้านายเสนาะติดต่อมาจริง ก็ คงไม่ไปแน่นอนและจะไม่ส่งตัวแทนจากพรรคไปด้วย เพราะตอนนี้ทุกอย่างแล้ว เราได้หารือและประกาศจุดยืนไปแล้ว พรรคไม่น่าจะคุยกับใครอีก เพราะไม่ต้องการให้เกิดความสับสนมากกว่านี้
ด้านนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ส.ส.พิจิตร พรรคชาติไทย กล่าวว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ แกนนำอดีตพรรคร่วมรัฐบาลยืนยันชัดเจนแล้วว่า จะไปพบนายเสนาะที่บ้านไม่ได้ ถ้าเราไปมัน ก็จะผิดหลักการ คิดว่าแกนนำอดีตพรรคร่วมรัฐบาลคนอื่นๆ ก็คงไม่ไปเช่นกัน ส่วนแนวคิดของนายเสนาะที่จะตั้งรัฐบาลแห่งชาติเป็นทางออกนั้น เชื่อว่าเป็นไปไม่ได้
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรองเลขาธิการพรรคชาติไทย กล่าวว่า ยังไม่ได้รับเชิญ ส่วนกระแสข่าวนายเสนาะอาจเดินทางมาพบนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ที่บ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์นั้น คงไม่เป็นความจริง เพราะตอนนี้นายบรรหารอยู่ที่จ.สุพรรณบุรี
"ประดิษฐ์"ปัดข่าวย้ายพรรคซบ"เพื่อไทย"หวังตั้งรัฐบาล
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เลขาธิการพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา (รช.) ปฏิเสธถึงกระแสข่าวว่า ส.ส.ของพรรคฯทั้ง 9 คน รวมทั้งตัวนายประดิษฐ์ จะย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.) เพื่อทำให้พรรค พท.ได้เสียงข้างมากในการจัดตั้งรัฐบาล โดยยืนยันว่าไม่เคยมีแนวคิด ที่จะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น ซึ่งพรรค รช.เป็นเพียงพรรคเล็ก การจะไปจับขั้วกับพรรคการเมืองใดในการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ต้องขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่ใช่ตนเองเพียงคนเดียว โดยมั่นใจว่า จะได้รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศก่อนปีใหม่ รวมทั้งเสถียรภาพความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและการลงทุน จะพลิกฟื้นคืนมาอย่างแน่นอน
พท.แย้มรอดูเย็นนี้ บางสิ่งจะเกิดขึ้นหลังประสานพรรคร่วม
ที่พรรคเพื่อไทย นายสุรพงษ์ โตวิจักรชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลว่า ต้องรอดูเย็นวันที่ 10 ธันวาคมนี้ เพราะอาจมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นได้ หลังจากพรรคเพื่อไทยประสานกับพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ซึ่งท่านเป็นผู้ใหญ่และแนวคิดท่านได้รับการขานรับจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะประชาชน
"วันนี้เราจะยอมรับให้คนที่หนีทหารมาเป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือ ต่างชาติไม่ยอมรับ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา การที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) ออกมาเดินสายต่างๆ นั้น โดยมารยาทการเมืองไม่ควรปฏิบัติ ต้องถามว่าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้ปรึกษาประธานที่ปรึกษาพรรค นายชวน หลีกภัย แล้วหรือยัง เพราะท่านยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย ประชาชนรับไม่ได้การมาแย่งเพื่อจัดตั้งรัฐบาลให้ได้" นายสุรพงษ์ กล่าว
"ป๋าเหนาะ"ยันไม่ออกไปพบ "เติ้ง" อ้างต่อสายตรงคุยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น. นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ได้ออกจากบ้าน เพื่อตรวจดูความเรียบร้อยบริเวณสถานที่จัดเลี้ยงในค่ำวันที่ 10 ธันวาคม และทักทายกับสื่อมวลชน
จากนั้น นายเสนาะได้โทรศัพท์หา นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน อดีตหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย เพื่อเชิญมารับประทานอาหารที่บ้าน และขอให้พานายสมศักดิ์ เทพสุทิน สามีมาด้วย
นายเสนาะ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จะไม่ไปพบกับนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย เนื่องจากได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์แล้ว และไม่ขอบอกว่า การเลี้ยงอาหารมื้อค่ำ จะมีแกนนำอดีตพรรคร่วมรัฐบาลเดิมคนใดมาร่วมในงานบ้าง
"ป้าอุ"ปัด"ป๋าเหนาะ"พบ"เติ้ง" เผยเย็นนี้ถกพรรคร่วมเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ว่า นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ที่บ้านพักเมืองทองธานี ว่า ในช่วงเช้า นางอุไรวรรณ เทียนทอง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ออกมาทักทายสื่อมวลชน โดยปฏิเสธกระแสข่าวที่ระบุว่า นายเสนาะ จะเดินทางไปพบนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย แต่ยอมรับว่า ในช่วงเย็น นายเสนาะได้เชิญพรรคร่วมรัฐบาลเดิมมาหารือ เพื่อพูดคุยเรื่องการเมือง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมห้องประชุมภายในบ้านพักของนายเสนาะ เพื่อเป็นสถานที่รับรองแขก ส่วนนายเสนาะนั้น ยังคงเก็บตัวอยู่ภายในบ้านพัก
"อ๋อย" ชี้แผนตามบันได 4 ขั้นของคมช. กำลังสำเร็จผล
ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย กล่าวเนื่องในวันรัฐธรรมนูญว่า ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูยมา 76 ปี แต่ที่ผ่านมา ประเทศไทยที่ไม่ได้ใช้รัฐธรรมนูญตามความหมายของสากล ทุกวันนี้ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมาแล้ว 25 ฉบับ แต่รัฐธรรมนูญส่วนใหญ่ มักถูกทหารฉีกเสมอ เช่น รัฐธรรมนูญ ปี 2550 ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อปล่อยให้เผด็จการทหารฉีกรัฐธรรมนูญทิ้ง 3 ปี ต่อ 1 ครั้ง เท่ากับว่าประเทศนี้ไม่มีความเป็นนิติรัฐและไม่ได้ปกครองด้วยกฏหมาย เพราะทหารมีอำนาจเหนือประชาชน และรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มีเนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เป็นการเขียนรัฐธรรมนูญในการปกครองระบอบอมาตยาธิปไตย ดูได้จากองค์กรที่ได้รับการสรรหาแต่งตั้งจากผู้มีอำนาจ และไม่ได้มาจากประชาชน
"รัฐธรรมนูญฉบับนี้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการของคณะปฏิวัติ ที่พยายามทำให้บันได 4 ขั้นประสบความสำเร็จ รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการทำหน้าที่แล้ว เพราะสามารถล้มรัฐบาลจากการเลือกตั้งได้ และการพยายามจัดตั้งรัฐบาลในขณะนี้ คือการที่จะให้พวกเดียวกันกับพวกที่ยึดอำนาจล้มรัฐบาลด้วยการรัฐประหาร เป็นรัฐบาลตามแผนที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) วางไว้ และเขากำลังจะทำสำเร็จ" นายจาตุรนต์ กล่าว
"อ๋อย"เชื่อ"เพื่อนเนวิน"ถูกทหารข่มขู่ ให้จับมือกับปชป.
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การที่กลุ่มเพื่อนเนวินสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าเกิดจากการชักจูง ข่มขู่และเสนอผลประโยชน์จากผู้นำเหล่าทัพ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลที่ตัดสินใจไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น ก็เป็นความร่วมมือระหว่างทหารและพรรคการเมืองบางพรรค ที่ร่วมกันข่มขู่ว่า หากไม่จัดตั้งรัฐบาล จะมีการรัฐประหาร จนในที่สุดต้องตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหารอย่างที่เป็นข่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ตั้งรัฐบาลสำเร็จ จะเป็นการทำลายหลักนิติธรรมของบ้านเมือง ที่อำนาจต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนการที่พรรคเพื่อไทยเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาตินั้น ถือว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก ทั้งนี้ ยืนยันว่ายังไม่มีการส่งสัญญาณจากกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านแต่อย่างใด
"อ๋อย"ซัดถ้าพรรคข้างพธม.ได้เป็นรบ. สังคมยิ่งแตกแยก
นายจาตุรนต์ ฉายแสง กล่าวถึงกรณีที่มีความกังวล หากมีการย้ายขั้วรัฐบาล กลุ่มเสื้อแดงจะออกมาเคลื่อนไหวว่า เมื่อมีการย้ายขั้วการเมืองอย่างน่าเกลียด ประชาชนจำนวนมากผิดหวังเสียใจและโกรธแค้น หลังจากที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยสร้างความย่อยยับ แต่พรรคที่อยู่ข้างพันธมิตรฯ กลับได้เป็นรัฐบาล จึงยิ่งเป็นการสร้างความบาดหมางและความแตกแยกให้สังคม
"คนที่ใช้ความรุนแรงกลายเป็นผู้กำหนดความเป็นไปของบ้านเมืองได้ ประชาชนก็รู้สึกหมดหวังและท้อแท้ แต่ที่นายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย สวมกอดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเพราะนายเนวิน ยอมสยบต่ออำนาจเผด็จการและการข่มขู่จากผู้นำเหล่าทัพ เพื่อแลกกับความอยู่รอด" นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขณะนี้ ยังไม่สามารถสรุปการจับขั้วรัฐบาลได้ ต้องวัดกันนาทีต่อนาทีและต้องจับตาดูจนนาทีสุดท้าย สังคมไทยต้องมองที่เหตุผล หลักการณ์และความถูกต้อง ตอนนี้มีส.ส.จำนวนมากกำลังสับสน ส.ส.ที่เกลียดเผด็จการและเกลียดการกระทำของพันธมิตรฯ แต่ถูกข่มขู่ ยังมีโอกาสตัดสินใจอีกครั้ง
เพื่อไทยรับไม่ได้"มาร์ค"กอดเนวิน ย้ำรบ.เพื่อชาติเท่านั้น
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ ทีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ถึงความคืบหน้าการรวบรวมรายชื่อส.ส.จัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ ว่า ตัวเลขส.ส.ยังพลิกไปมา และตัวเลขของฝ่ายค้านและรัฐบาลเดิมใกล้เคียงกันมาก การชนะกันจึงต้องชี้ขาดในวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจว่า ตัวเลขพรรคเพื่อไทยจะชนะเล็กน้อย
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนประเมินว่า แม้พรรคเพื่อไทยจะชนะ บ้านเมืองก็จะเดินลำบาก แต่หากพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน บ้านเมืองก็ไปได้ลำบาก จึงเห็นว่าแนวคิดการตั้งรัฐบาลแห่งชาติของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เป็นทางออกที่ดีที่สุด
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยเพลี่ยงพล้ำใช่หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เราต้องคำนึงถึงบ้านเมือง แนวคิดของนายเสนาะเป็นทางออกของบ้านเมือง พรรคเพื่อไทยต้องสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยให้พรรคร่วมรัฐบาลเลือกนายกรัฐมนตรี และแบ่งสรรกันบริหารบ้านเมือง ความสงบจะเกิดขึ้น เสื้อเหลืองไม่ออกมาและเสื้อแดงก็ไม่ออกมา ทหารก็เข้ากรมกอง ฝ่ายกฎหมายก็ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธแนวคิดดังกล่าวนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ต้องคิดใหม่ เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมาก็ไปกอดกับนายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ถือว่าน่าอับอายอย่างยิ่ง หากตนเป็นนายเนวิน ก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ เพราะเหมือนกลืนน้ำลายตัวเอง พรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเสียงข้างมาก แต่อยากจัดตั้งรัฐบาลแข่ง ถือเป็นการขโมยและทำลายระบอบประชาธิปไตย
ส่วนกรณีที่นายเนวินระบุว่า ต้องเสียเพื่อน เสียพรรคและเสียนาย เพื่อปลดล็อกการเมืองนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ต้องคอยดูว่าเสื้อแดงจะยอมหรือไม่ วิธีการดีที่สุด คือวิธีการของนายเสนาะ พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้ารวบรวมรายชื่อไปจนถึงวันสุดท้าย ก่อนวันประกาศพ.ร.ก.กำหนดการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี คาดว่าจะมีเวลาถึงวันที่ 14 ธ.ค.นี้
เพื่อไทยบอก 11 โมง จะมีแถลงข่าวกับผู้ร่วมตั้งรัฐบาลเพิ่ม
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ว่า พรรคเพื่อไทยจะพยายามต่อไปจนกว่าเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลจะยุติ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขเสียงสนับสนุนได้ เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่นิ่ง แต่ว่ายืนยันมีเสียงเกินครึ่งอย่างแน่นอน โดยพรรคเพื่อไทยได้ประสานไปยังนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช ให้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ และเวลา 11.00 น.วันนี้ จะมีผู้มาแถลงจุดยืนร่วมกับพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติม
พท.ปูด"เนวิน"ซบปชป.มีแผนชำระแค้นทำพปช.ถูกยุบ
นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ว่า พรรคเพื่อไทยมีเสียงข้างมากจากพรรคร่วม เพื่อจัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน สาเหตุที่นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน ไปจับมือกับพรรคประชาธิปัตย์นั้น มีหลายคนบอกว่าเป็นการเตรียมแผนชำระแค้น โดยแกล้งทำทีสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่เมื่อถึงวันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ก็จะมีมติไม่สนับสนุน เพื่อเป็นการแก้แค้นที่มีส่วนทำให้พรรคพลังประชาชนโดนยุบ และวันนั้นจะเกิดปรากฏการณ์ อนาคอนด้า ไม่ใช่เพียงแค่งูเห่า
เพื่อไทยคุยเสียงเกินครึ่ง100% "เพื่อนเนวิน"จะกลับอีก 10
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบการจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งแน่นอนแล้ว โดยล่าสุด เมื่อคืนวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยมีเสียงทั้งหมด 240 เสียง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า พรรคไหน หรือใครบ้างที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า กลุ่มเพื่อนเนวินบางส่วนไม่พอใจการตัดสินใจของนายเนวิน ชิดชอบ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เนื่องจากทำให้ประชาชนไม่พอใจกับการย้ายขั้วรัฐบาล จึงมีแนวโน้มว่าจะขอกลับมาสังกัดพรรคเพื่อไทยอีกประมาณ 10 คน
ว่าที่ ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวต่อว่า ทุกพรรคเห็นตามแนวทางที่นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เสนอ คือต้องการคนกลางเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อลดแรงเสียดทานและแก้ไขปัญหาชาติ โดยขณะนี้มีการเสนอชื่อ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ให้เป็นผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไป
"เพื่อไทย"มีมติตั้งรัฐบาลแห่งชาติ
ก่อนหน้นี้เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 9 ธันวาคม ที่สำนักงานพรรคเพื่อไทย (พท.) ย่านพระราม 4 นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุมพรรคว่า พรรคมีมติตามแนวคิดของนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชที่เสนอให้ทุกพรรคการเมืองร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเพื่อชาติ มีนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองขนาดเล็ก ที่ไม่ได้มาจากพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากนี้ยังเสนอให้นายเสนาะ เทียนทอง เป็นประธานการประสานงานกับพรรคการเมืองทุกพรรคในการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อแก้ไขวิกฤตของประเทศ เพราะเห็นแล้วว่าหากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลกลุ่มคนเสื้อเหลืองก็ไม่ยอม แต่หากพรรคประชาธิปัตย์จัดตั้งรัฐบาล กลุ่มคนเสื้อแดงก็ไม่ยอม และจะไม่เป็นหนทางในการแก้ไขปัญหาของประเทศ
นายสุรพงษ์กล่าวว่า การเสนอตั้งรัฐบาลตามแนวทางนี้ ไม่ได้เป็นเพราะขั้วพรรคเพื่อไทยไม่สามารถรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่เป็นเพราะอยากให้ประเทศพ้นวิกฤต เพราะขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีเสียงอยู่แล้ว 225 เสียง ซึ่งหากจัดตั้งรัฐบาลจะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งอยู่ 6 เสียง ถึงจะตั้งรัฐบาลได้ก็อยู่ต่อไปไม่ได้ ดังนั้น จึงควรมาอยู่ร่วมกันเพื่อชาติมากกว่า
นายสุรพงษ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับการยุบสภานั้น ที่ประชุมยังไม่ได้พูดถึง เพราะแกนนำวิเคราะห์กันว่าหากยุบสภาแล้ว ไม่มีทางทราบได้เลยว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นได้หรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวว่า กกต. (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) จะลาออกจนไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ จากนั้นวุฒิสภาจะแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา จนทำให้เกิดสุญญากาศการเมืองหนักกว่านี้ แต่เมื่อถึงเวลาสุดท้าย ที่จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีและพรรคประชาธิปัตย์อาจจะชนะการเลือกนายกฯ เราอาจจะนำเรื่องการยุบสภาเข้ามาหารือกันอีกครั้ง
"เสนาะ"รับประสาน5พรรคร่วมตั้งรัฐบาล
ทางด้านนายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เปิดเผยภายหลังพรรคเพื่อไทยมีมติสนับสนุนให้เป็นประธานในการจัดตั้งรัฐบาลว่า เบื้องต้นจำเป็นต้องประสานพูดคุย กับทั้ง 5 พรรคร่วมเดิมว่า ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองไปในขั้วไหนก็จะเกิดเป็นปัญหาขึ้น ที่พรรคเพื่อไทยมีมติชัดเจนว่ายอมถอย ถือเป็นเรื่องดี ทำให้เห็นว่าพรรคใหญ่ยอมถอยแล้ว ซึ่งจะสะท้อนไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่าหากยังคงดึงดันจัดตั้งรัฐบาลอีก จะต้องรับผิดชอบต่อปัญหาที่ตามมา
"ขอถามหน่อยว่าทำไมกระสันกันเหลือเกิน ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่าไม่ว่าพรรคใดเป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องเกิดภัยเหนือและภัยใต้ หากพรรคประชาธิปัตย์ยังดื้อ รับรองเกิดเรื่องแน่"นายเสนาะกล่าว
นายเสนาะกล่าวต่อไปว่า จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรคมาหารือที่บ้านพักในช่วงเย็นวันที่ 10 ธันวาคม เพื่อหารือปัญหาที่จะเกิดขึ้น เรื่องการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ตอนนี้เสียงกำลังงัดกันอยู่ ต้องดูวันโหวตอีกที
"ตำรางูเห่าเคยมีให้เห็นว่าเป็นอย่างไรวันโหวตเลือกนายกฯก็จะมีให้เห็นอีกแน่นอน"นายเสนาะกล่าว
เย็นวันเดียวกันนายเสนาะให้สัมภาษณ์รายการ "เรื่องเด่นเย็นนี้"ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อีกครั้งว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ โทรศัพท์มาชักชวนเข้าร่วมรัฐบาลทุกวัน บอกว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะมาพบที่บ้านเมืองทองธานี แต่บอกไปว่าไม่ต้องมา ไม่ได้รังเกียจนายอภิสิทธิ์ แต่มีจุดยืนเพราะลั่นวาจาไปแล้ว เมื่อถามถึงการการประสานงานจัดตั้งรัฐบาล นายเสนาะกล่าวว่า จะทำเท่าที่ทำได้ หากทำไม่สำเร็จก็ช่วยไม่ได้ ได้ประกาศไปแล้วว่าไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่เหมาะสมมีหลายคน นายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเก่ง แต่ต้องใช้คนทำงานให้เป็น
ยัน"เชษฐา-ประชา"อยู่ขั้ว"เพื่อไทย"
เมื่อถามว่าได้คุยกับ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หรือยัง นายเสนาะกล่าวว่า เพิ่งวางสายโทรศัพท์ จาก พล.อ.เชษฐา ยืนยันว่ายังอยู่กับเรา พล.อ.เชษฐา บอกว่าวันนี้โกรธมาก เหมือนกับต้มกัน เอาไปนั่งหัวโด่ ทั้งๆ ที่ พล.อ.เชษฐาเป็นผู้ใหญ่ แต่ลากไปแถลงข่าวร่วม ซึ่ง พล.อ.เชษฐายืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับที่แถลง พล.ต.อ.ประชา ก็ยืนยันว่าจะอยู่ตรงนี้ เพราะถ้ามีการเปลี่ยนแปลง พล.ต.อ.ประชา คงกลับจังหวัดอุดรธานีไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.00 น. วันเดียวกัน นายบุญลือ ประเสริฐโสภา อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชาชนที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี อดีตส.ส.สายนายสรอรรถ กลิ่นประทุม เข้าพบนายเสนาะที่บ้านพักหมู่บ้านเมืองทองธานี
ต่อมา เวลา 13.20 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายสุพล ฟองงาม รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน พานายปวีณ แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ กลุ่มเพื่อนเนวิน กลับมาเปิดตัวที่พรรคเพื่อไทย หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะไปสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์
เสนอแนวทาง"สมานฉันท์"-อยู่1ปีแล้วยุบ
ทางด้านนายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทยเปิดเผยภายหลังการประชุมทีมยุทธศาสตร์ของพรรค ณ ที่ทำการพรรค ว่า ได้หารือกับ ส.ส.ที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยบางส่วนและแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหลายคน อาทิ นายเสนาะ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ทุกคนเห็นด้วยว่าการแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศวันนี้ไม่ใช่การจับขั้วรัฐบาลที่มีแกนนำจัดตั้งเป็นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ ทางออกที่ดีที่สุดคือ การตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ โดยตัวนายกรัฐมนตรีนั้นต้องเป็น ส.ส.ในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์ โดยรัฐบาลสมานฉันท์จะมีวาระในการทำหน้าที่เพียง 1 ปี เพื่อสร้างความสมานฉันท์ แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และจัดการออกเสียงประชามติว่าประชาชนเห็นชอบการใช้รัฐธรรมนูญฉบับใดระหว่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 และปี2550
“เอาทุกพรรคมาจัดตั้งรัฐบาล บริหารงานไป 1 ปี แล้วต้องยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ผมจะนำเรื่องนี้เสนอแกนนำระดับสูงของพรรคเพื่อไทยให้พิจารณาต่อไป รวมถึงออกแถลงการณ์เรียกร้องให้หัวหน้าพรรคการเมืองต่างๆสนับสนุนแนวความคิดนี้"นายอำนวยกล่าว
"เฉลิม"ร้องถามพรรคร่วมฯไม่อยากเป็นนายกฯหรือ
ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ขณะนี้มี ส.ส.เข้ามาสังกัดพรรคมากขึ้นเรื่อยๆ และเป็นตัวเลขที่เป็นรูปธรรม มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาลได้แน่นอน พรรคเป็นห่วงอย่างเดียวคือ ถ้ามีคะแนนเสียงจัดตั้งรัฐบาลพอ แต่เป็นเสียงที่ไม่ทิ้งห่างมาก อาจจะมีปัญหาในช่วงเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านที่มีความชำนาญมาก จึงอยากให้ ส.ส.กลับมาบ้านเก่า อย่าไปเห็นกับการที่แกนนำแต่ละพรรคออกมาแถลงว่าได้เสียงเพิ่มเพราะพูดมาอย่างนี้ 4 วัน จนเป็นแผ่นเสียงตกร่องไปแล้ว ซึ่งแกนนำแต่ละพรรคต่างถูกตัดสิทธิไปแล้ว ไม่มีสิทธิในการโหวต
"ขอเรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลเดิมกลับมาร่วมทำงานกัน พรรคเปิดกว้างในการเป็นนายกฯ จะเป็นนายเสนาะ พล.ต.อ.ประชา นายมั่น พัธโนทัย และพล.อ.เชษฐา ไม่นึกอยากเป็นนายกฯบ้างหรือ เพราะเรายืนยันแล้วว่าพรรคเพื่อไทยไม่ต้องการตำแหน่งนายกฯ และส.ส.มีเอกสิทธิที่จะสามารถโหวตใครเป็นนายกฯก็ได้ วันนี้การเมืองยังไม่จบต้องดูกันให้แน่ชัดคือวันโหวตเลือกนายกฯจึงจะรู้ว่าใครเป็นของจริง พรรคประชาธิปัตย์ ดีแต่พูด อยู่ไกล้ๆจะเอาหนังสติ๊กยิงปาก พอคุณหญิงพจมาน (ดามาพงศ์) กลับมาก็บอกว่าไม่ได้เป็นรัฐบาลเพราะแพ้อำนาจเงิน โดนดูดเสียงสนับสนุนไปหมด"ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
มั่นใจเสียงสนับสนุนถึง244เสียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดแกนนำพรรคเพื่อไทย เช่น นางเยาวภา วงส์สวัสดิ์ ภริยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล นายสุพล ฟองงาม รวมทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประเมินสถานการณ์การจับขั้วตั้งรัฐบาล โดยว่าที่ ร.ต.พงษ์พันธ์ สุนทรชัย ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า แกนนำพรรคคำนวนตัวเลข ส.ส.เบื้องต้น พบว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยนั้นมี ส.ส. 201-202 เสียง พรรคเพื่อแผ่นดิน 24 เสียง รวมกับ ส.ส.สุรินทร์ อดีตสมาชิกกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่จะเข้าไปอยู่พรรคเพื่อแผ่นดินอีก 4 เสียง รวมเป็น 28 เสียง พรรคประชาราช 5 เสียง พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 4 เสียง รวมทั้งพรรคชาติไทย 5 เสียงและพรรคมัชฌิมาธิปไตยอีก 2-3 เสียง พรรคเพื่อไทยก็จะมีเสียงสนับสนุน 243-244 เสียง คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้พรรคเพื่อไทยจะสามารถแถลงจัดตั้งรัฐบาลได้
คาดเปิดสภาฯได้สัปดาห์หน้า
สำหรับการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฏรนั้น นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฏร กล่าวว่า ได้ทำเรื่องขอพระราชกฤษฎีกาเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ ส่งไปยังสำนักพระราชวัง ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา เบื้องต้นตรวจสอบรายชื่อที่พรรคประชาธิปัตย์พร้อมทั้งพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองที่สนับสนุนได้ยื่นมาจำนวน 240 ชื่อ พบว่า มีการลงลายมือชื่อซ้ำกัน ทำให้เหลือรายชื่อผู้สนับสนุนที่ถูกต้อง 232 คน แต่ถือว่าครบจำนวน 1 ใน 3 ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 129 กำหนดไว้ โดยภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญออกมาแล้ว ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะทำหนังสือนัดประชุมสมาชิกต่อไป คาดว่าจะสามารถเปิดประชุมได้ภายในสัปดาห์หน้า
นายพิทูรกล่าวต่อว่า สำหรับปัญหาเรื่องสมาชิกภาพ ส.ส.สัดส่วนของพรรคการเมืองที่ถูกยุบพรรค ทางสภาผู้แทนราษฏรไม่มีข้อสงสัยในประเด็นดังกล่าว จึงถือว่า ส.ส.ส่วนนี้ยังคงสมาชิกภาพอยู่ตามเดิม ส่วนใครมีข้อสงสัยสามารถยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ ทั้งนี้โดยหลักการขณะนี้มีจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 447 คน ถูกพักงานในคดีเลือกตั้ง 9 คน เหลือสมาชิกที่สามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีได้ 438 คน ทั้งนี้ผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นนายกฯต้องมีเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมด คือ 220 เสียง